ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยบทวิเคราะห์ เรื่อง ฝุ่น PM2.5 ที่รุนแรงขึ้น : รัฐบาลเร่งออกมาตรการแก้ไขปัญหา…ขณะที่ประชาชนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้นในการป้องกันฝุ่นละออง โดยระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2563 สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน (PM2.5) กลับมามีความรุนแรงอีกครั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยจากข้อมูลดัชนีคุณภาพอากาศ ของ AQICN.ORG พบว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน ที่ปกคลุมพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเฉลี่ยแตะระดับเกิน 100 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เป็นระยะเวลาติดต่อกันมาตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. 2563 และในวันที่ 11 ม.ค. 2563 ค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานเฉลี่ยแตะระดับสูงถึง 180 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
-รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐเร่งออกมาตรการ เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน จากสถานการณ์ฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานที่มีความรุนแรง ทำให้เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2563 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองในช่วงสถานการณ์วิกฤติ ได้แก่ 1. ขยายเขตพื้นที่จำกัดรถบรรทุกเข้ากรุงเทพฯ จากวงแหวนรัชดาภิเษก เป็นวงแหวนกาญจนาภิเษก 2. ห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯในวันคี่ ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ. 2563 สำหรับวันคู่ให้เข้าได้ตามช่วงเวลาที่กำหนด 3. ตรวจวัดควันดำรถโดยสาร (ไม่ประจำทาง) รถโดยสารและรถบรรทุก 4. ตรวจสอบโรงงานที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองหากไม่เป็นไปตามมาตรฐาน 5. กำกับให้กิจกรรมการก่อสร้างรถไฟฟ้าและก่อสร้างอื่นๆ เป็นไปตามข้อกำหนดไม่ทำให้เกิดฝุ่นและปัญหาการจราจร 6. ไม่ให้มีการเผาในที่โล่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 7. จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาศัยอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องควบคุมการเผาในที่โล่งในช่วงสถานการณ์วิกฤติฝุ่นละอองและเข้มงวดการควบคุมยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และการก่อสร้าง 8. ลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกิน 10 PPM ซึ่งเป็นน้ำมันที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองน้อย 9. ขอความร่วมมือลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวมาทำงานและรถยนต์ของส่วนราชการต้องผ่านมาตรฐานควันดำทุกคัน 10. ให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถานศึกษาสนับสนุนการจัดโครงการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์ดีเซลที่มีอายุเกิน 5 ปี เพื่อช่วยลดฝุ่นละออง และ 11. สร้างการรับรู้และเข้าใจแก่ประชาชน เกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 นอกจากนี้ หน่วยงานจังหวัดกรุงเทพมหานคร ได้ออกมาตรการเร่งด่วน 4 มาตรการ ได้แก่ 1. หน่วยงานใน กทม. จัดให้มีการเหลื่อมเวลาการเข้าและเลิกงานเพื่อลดจำนวนรถบนท้องถนน โดยให้เริ่มเข้างานเวลา 10.00 น. และเลิกงานเวลา 18.00 น. 2. ในวันที่ 22 ม.ค. 2563 โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 437 โรงเรียน ประกาศหยุดการเรียนการสอน 3. ทางกรุงเทพมหานครจัดให้มีการแจกหน้ากากอนามัย 4 แสนชิ้น ที่ศูนย์อนามัยทั้ง 68 แห่ง และ 4. ขอความร่วมมือให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยในช่วงนี้ จากการที่ภาครัฐออกมาตรการที่เป็นรูปธรรม คาดว่าผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานต่อเศรษฐกิจน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3,200 -6,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับกรอบระยะเวลา 1 เดือน ในช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้ ในมิติของค่าเสียโอกาสจากประเด็นด้านสุขภาพและการท่องเที่ยว รวมถึงค่าเสียโอกาสของภาคธุรกิจอื่นๆ ที่อาจได้รับผลกระทบจากการที่ประชาชนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยมองว่า ผลทางเศรษฐกิจจากปัญหาฝุ่นละอองในกรุงเทพฯและปริมณฑล ในมิติต่างๆ ดังที่กล่าวข้างต้นแล้วอาจคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 3,200-6,000 ล้านบาท (ภายในกรอบเวลา 1 เดือน ระหว่างวันที่ 5 ม.ค.- 5 ก.พ. 2563) ซึ่งใกล้เคียงกับกรอบระยะเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยค่าใช้จ่ายบางประเภทอาจมีการปรับลดลง อีกทั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนี้ รัฐบาลก็ได้มีการออกมาตรการที่เป็นรูปธรรมในเชิงปฏิบัติและชัดเจนมากขึ้นเนื่องจากมีประสบการณ์จากปี 2562 ที่ผ่านมา กอปรกับจากสถิติในปี 2562 สถานการณ์ PM2.5 จะรุนแรงในเดือน ม.ค. และจะเริ่มผ่อนคลายลงในเดือน ก.พ. และค่าของฝุ่นละอองในแต่ละวันไม่เท่ากัน สำหรับผลทางเศรษฐกิจจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้ คือ ผลกระทบด้านสุขภาพ: ประชาชนบางกลุ่มยังมีภาระในการใช้จ่ายด้านสุขภาพ ปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐานที่รุนแรงขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ส่งผลกระทบโดยตรงต่อปัญหาด้านสุขภาพของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือระบบทางเดินหายใจ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่เริ่มได้รับผลกระทบทางด้านสุขภาพจากปัญหาดังกล่าว เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตาและผิวหนัง ทั้งนี้ ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (1-22 มกราคม 2562) พบจำนวนผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเฉพาะในโรงพยาบาลสังกัดกทม. เพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนธันวาคมปี 2561 ราวร้อยละ 50.0 โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ดังนั้น สถานการณ์ที่ดูเหมือนจะรุนแรงขึ้นในช่วงเวลานี้ ก็คงจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และก่อให้เกิดค่าเสียโอกาสทางด้านสุขภาพ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ผลกระทบจากค่าเสียโอกาสด้านสุขภาพของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลจากปัญหาฝุ่นฯ ในช่วงระหว่างวันที่ 5 ม.ค. – 5 ก.พ. 2563 อาจคิดเป็นเม็ดเงินราว 2,000-3,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายในการซื้อหน้ากากอนามัย เครื่องฟอกอากาศและอื่นๆ โดยค่าใช้จ่ายกว่า 75% เป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของการรักษาพยาบาล สำหรับค่าใช้จ่ายในการซื้อหน้ากากอนามัยลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาหน้ากากเฉลี่ยต่ำกว่าปีที่ผ่านมา และประชาชนส่วนใหญ่ยังมีหน้ากากอนามัยเหลืออยู่จากที่มีการสั่งซื้อเก็บไว้เป็นจำนวนมากในปีที่ผ่านมา ผลต่อภาคการท่องเที่ยว: นักท่องเที่ยวต่างชาติเลือกปรับกิจกรรมการท่องเที่ยว โดยอาจมีบางส่วนที่หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน น่าจะส่งผลกระทบต่อค่าเสียโอกาสในภาคการท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล คิดเป็นประมาณ 1,000-2,400 หรือคิดเป็น 1.0%-2.5% ของรายได้ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯและปริมณฑลในช่วงระหว่างวันที่ 5 ม.ค. – 5 ก.พ. 2563 โดยผลกระทบที่เกิดขึ้น หลักๆ จะมาจากการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติและไทยมีการปรับเปลี่ยนกิจกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาฝุ่นละออง แต่ในภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้มีการยกเลิกการเดินทางเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการท่องเที่ยวที่มีการวางแผนล่วงหน้า เช่น นักท่องเที่ยวจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้ ขณะเดียวกันก็คำนึงถึงการที่นักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจมีการปรับแผนหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลบางส่วน รวมถึงคนกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่จะหลีกเลี่ยงการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงนี้ ผลต่อเศรษฐกิจในด้านอื่นๆ จากการที่ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน สำหรับในส่วนของค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจสูญเสียไปจากการปรับพฤติกรรมของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อหลีกเลี่ยงหรือป้องกันการเผชิญฝุ่นละออง เช่น การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารนอกบ้าน ซึ่งกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบ คือ ร้านอาหารข้างทาง สวนอาหาร หรือร้านอาหารที่อยู่ในที่โล่งแจ้ง รวมไปถึงกลุ่มร้านค้าที่ขายของริมทางและตลาดนัดต่างๆ ด้วย ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินค่าเสียโอกาสในส่วนนี้เป็นมูลค่าประมาณ 200-600 ล้านบาท โดยได้คำนึงถึงผลบวกที่อาจจะเกิดขึ้นต่อร้านค้าหรือร้านอาหารที่มีบริการจัดส่งถึงที่พักแล้ว อย่างไรก็ดี นับเป็นเรื่องที่ดีที่ภาครัฐได้ให้ความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นคงจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาคเอกชนและประชาชน เพื่อให้ปัญหาทุเลาลงในส่วนที่จะสามารถทำได้ อาทิ ในส่วนของภาคเอกชน ทั้งการตรวจสอบสภาพรถยนต์ การบริหารจัดการงานก่อสร้าง และกิจการโรงงานอุตสาหกรรม ขณะที่ในส่วนของภาคประชาชนและเกษตรกร อาทิ การไม่เผาขยะ หญ้าแห้ง หรือพืชผลทางการเกษตรต่างๆ
Pojsible เขียนซะยาวเชียว เค้ารู้แล้วครับ ว่ามันกระทบอะไร คุณเป็นนักข่าว หาข่าววิธีแก้จากต่างประเทศ จากนักวิชาการ จากผู้รู้ อะไรก็แล้ว มานำเสนอให้รัฐบาล ให้ ปชช ช่วยแก้ ว่าที่นั้นที่นี้ เค้าแก้แบบนี้แล้วช่วยได้ ดีกว่าไหมครับ เราทำหน้าที่กระบอกเสียงแล้ว ไม่ใช่มาบ่นแต่ความเสียหาย
22 ม.ค. 2563 เวลา 16.06 น.
Nira 🔵🔵🔵🔵🔵🔵🔵🔵🔵🔵
📣 ขออนุญาตฝากประกาศจ้าา
ต้องการรับคนเพิ่ม!! (รับอายุ 18-60 ปี)
**อยู่กรุงเทพและปริมณฑลรับพิจารณาเป็นพิเศษ**
ช่วยคอนเฟิร์มออเดอร์สินค้าให้ลูกค้า
(ทำเวลาไหนก็ได้ หลังเรียน หลังเลิกงาน)
💰รายได้สัปดาห์ละ 2000-6000 บาท💰
สนใจงานติดต่อโดยตรงที่👇🏻
👤Line ID: @153lawtz (พิม @ ด้วยค่ะ)
(เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับไปให้รายละเอียดงานตามคิว)
🔵🔵🔵🔵🔵🔵🔵🔵🔵🔵
22 ม.ค. 2563 เวลา 15.24 น.
ดูทั้งหมด