*สลด! ครูสาว ป่วย 10 วัน หมอชี้เป็น ‘ไมเกรน’ สุดท้ายดับเพราะ ‘เยื่อหุ้มสมองอักเสบ’ *
วันที่ 22 ก.พ. โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพของ ข้าราชการครูรายหนึ่ง พร้อมข้อความที่มีการระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตด้วยภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หลังจากที่ป่วยได้ประมาณ 10 วัน แต่ในวันแรกๆ ที่ป่วยและเข้ารับการษานั้น แพทย์ได้ระบุว่าเป็นเพียง ไมเกรนเท่านั้น โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Chandra Channary ได้โพสต์ระบุว่า วันที่ 2 ก.พ. มาพบแพทย์ที่ร.พ.แห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท ด้วยอาการมีไข้, ปวดศีรษะ
แพทย์วินิจฉัยเป็นไมเกรน ให้ยานอนหลับกับยาแก้ปวดศีรษะ วันที่ 4 ก.พ. กลับมาพบแพทย์ ที่ร.พ.ดังกล่าวอีกครั้ง ด้วยอาการปวดศีรษะ, มีไข้, ถ่ายเหลว แพทย์วินิจฉัย เป็นโรคท้องเสียวันที่ 5 ก.พ. ไปพบแพทย์ที่ร.พ.อีกแห่งในจังหวัดเดียวกัน เพื่อขอเจาะเลือดและเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ แพทย์บอกติดเชื้อไวรัส
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ต่อมา วันที่ 6 ก.พ. มีอาการปวดศีรษะมาก ไข้ 39.5- 40 องศา จึงไปพบแพทย์ที่ ร.พ.แห่งแรก ขอนอนรักษาตัวที่ร.พ. แพทย์วินิจฉัยอีกว่าเป็นไมเกรน ฉีดยาแก้ปวดให้ แล้วให้กลับบ้าน วันที่ 7 ก.พ. มีอาการปวดศีรษะรุนแรง มีไข้สูง ชักเกร็ง ที่บ้านติดต่อรถ ร.พ.แห่งที่ 3 มารับไปร.พ. จากนั้นได้เอกซเรย์คอมพิวเตอร์จนพบว่าเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ จากนั้นได้ส่งมารับการรักษาต่อที่ ร.พ.แห่งแรก
วันที่ 8 ก.พ. ได้สอบถามแพทย์เจ้าของไข้ว่าคนไข้เป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบใช่ใหมแพทย์ตอบว่า ยังไม่บอกว่าเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เพราะสมัยนี้ ไม่ค่อยเป็นกันง่ายๆ คนเป็นเอดส์ ก็มีอาการแบบนี้ เข่นกัน ต่อมา ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ย้ายเข้า ICU ได้แจ้งว่า ขอให้ส่งตัวคนไข้ไปรักษาที่ ร.พ.ในกรุงเทพ แต่ถ้าไม่ได้ ขอเป็น ร.พ.อะไรก็ได้ที่เป็นโรงเรียนแพทย์ และขณะนั้นคนไข้มีอาการหนาวสั่นมาก
วันที่ 9 ก.พ. คนไข้มีความดันโลหิตสูงขึ้น มีไข้สูงตลอด แพทย์ตรวจและเพิ่มยา doxy ให้ทางสายยาง
สอบถามแพทย์คนหนึ่งถึงอาการและการส่งตัวไปรักษาต่อ แพทย์ตอบว่า ยุ่งยังไม่ได้พักเลย ไม่ได้ดูคนไข้อายุรกรรม ต่อมา วันที่ 10 ก.พ. ความดันยังสูงมาก ชีพจรเต้นเร็ว ปลายมือปลายเท้าเย็น จึงให้เจ้าหน้าที่แจ้งให้แพทย์ทราบ แพทย์ ตรวจเยี่ยม ให้เจาะเลือดใหม่ ส่งเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ใหม่ ปรากฏว่า สมองบวมแล้ว
วันที่ 11 ก.พ. คนไข้เสียชีวิต ด้วยภาวะสมองอักเสบ หลังเสียชีวิตแพทย์ บอกว่า เป็นเชื้อที่ไม่พบในเมืองไทยนานแล้ว ฟังแล้วนั้นหมายถึงว่า เชื้อนี้ สามารถรักษาได้และควบคุมได้ แต่ทำใม เพราะอะไร หลานจึงเสียชีวิต แต่เมื่อทบทวนแล้ว จึงรู้ว่าสาเหตุเพราะอะไร ถ้าเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นกับครอบครัวคุณ คุณจะรู้สึกและทำเช่นไร
ที่มา : Chandra Channary
กิตติศักดิ์ การเสียชีวิตของคุณครู สาเหตุมาจากหมอส่วนหนึ่ง(วินิฉัยโรคผิด) เพราะเขาถามว่าคนไขเป็นเยื้อสมองอักเสบหรือเปล่า แต่กับตอบว่าคนเป็นเอดส์ก็มีอาการแบบนี้ คนที่เป็นเอดส์มันเกี่ยวอะไรกับคุณครู(ผู้ป่วย) คือคุณครูเขาไม่ได้เป็นเอดส์ซักหน่อย ถามลิงตอบม้า
22 ก.พ. 2562 เวลา 13.24 น.
sati shi28 งานนี้ไม่โทษหมอไม่ได้คะ ควรฟ้องหมอว่า วินิจฉัยโดยดูจากอาการอย่างเดียว ไม่ได้ส่งตรวจหาสาเหตุ ควรจะส่งxrayสมองตั้งแต่แรกแล้ว ลองถามหมอที่มีจรรยาบรรณที่ไหนก็ได้ว่า รักษาแบบนี้ รักษาแบบขอไปที รักษาตามอาการ ไม่ได้สืบหาสาเหตุ เพราะค่าตรวจคงแพง ถ้าเป็นรพ.เอกชน จับตรวจละเอีนด เจอสาเหตุไปนานแล้ว คนไข้อาจไม่ตาย แต่ต้องขายบ้านมาจ่ายค่ารักษา
22 ก.พ. 2562 เวลา 13.22 น.
เดี๋ยวนี้สิทธิราชการก็ไม่ได้ต่างอะไรกับบัตรทอง
22 ก.พ. 2562 เวลา 12.18 น.
กชกร ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ
22 ก.พ. 2562 เวลา 12.18 น.
เสียใจด้วยค่ะ.....เมื่อเราป่วย หมอก้อช่วยได้แค่เบื้องต้น. ที่เหลือก้อสุดแต่วาสนา...ไม่โทษใคร...เพราะหมอก้อคนธรรมดาไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะรักษาได้ครบ100. เราต้องหันมาดูแลตัวเองให้มากๆค่ะ.....เราปลงแบบนี้นะ
22 ก.พ. 2562 เวลา 12.42 น.
ดูทั้งหมด