พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการจับกุม นายคิชิคบาตา โบลต์ อายุ 40 ปี นายเธอร์มังค์ บูเรงจาร์กัลป์ อายุ 41 ปี และ นางสาวอุลชิบายา บัทเทอร์เดเน่ อายุ 35 ปี 3 ผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชาวมองโกเลีย พร้อมด้วยของกลางเงินดอลลาร์สหรัฐจำนวน 8,665 เหรียญสหรัฐ เงินยูโรจำนวน 3,650 ยูโร เงินเยนญี่ปุ่นจำนวน 90,000 เยน เงินอาเจนตินาจำนวน 1,355 เปโซ เงินดองเวียดนามจำนวน 400,000 ดอง และเงินดอลลาร์ออสเตเลียจำนวน 500 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยมูลค่ากว่า 2 แสนบาท หลังก่อเหตุหลายครั้งผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดก็จะหลบหนีออกนอกราชอานาจักรไทย โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ภายในอาคารผู้โดยสารขาเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในขณะที่ผู้ต้องหาทั้งหมดเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยเพื่อก่อเหตุอีกครั้ง
ซึ่งการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 8 มีนาคม 2562 MR.VOKER WILLI MAUSS อายุ 59 ปี ผู้เสียหายชาวเยอรมัน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าในขณะที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเข้าไปแลกเงินที่เคาร์เตอร์และเงิน ที่บริเวณสายพานรับกระเป๋า ก่อนที่จะเดินทางมาต่อแถวเพื่อรอขึ้นรถแท็กซี่ ในขณะกำลังจะขึ้นรถแท็กซี่ พบว่ากระเป๋าเงินของตนได้หายไป เจ้าหน้าที่จึงประสานไปยัง ศูนย์รักษาความปลอดภัยฝ่ายปฏิบัติการภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ได้พบกลุ่มผู้ต้องสงสัยมีด้วยกันจำนวน 4 คน เป็นชาย 3 คนหญิง 1 คน ที่ได้เดินตามผู้เสียหายตั้งแต่บริเวณชั้น 1 ประตู 3 ไปจนถึงจุดเข้าคิวรอรถแท็กซี่ ก่อนที่ผู้ต้องสงสัยที่เป็นหญิง ซึ่งเป็น 1 ใน 4 จะใช้มือล้วงหยิบเอากระเป๋าเงินของผู้เสียหายไปซึ่งภายในมีเงินอยู่จำนวน 300 ยูโรจากนั้นกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้เดินลงไปที่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งและได้ก่อเหตุล้วงกระเป๋าของ MR.MICHAEL STUART WILLIANS นักท่องเที่ยวชาวออสเตเลีย ซึ่งภายในมีเงินสดอยู่จำนวน 500 เหรียญออสเตเลียและบัตรเครดิต ก่อนขึ้นรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งไปลงที่สถานีพญาไท ต่อรถไฟฟ้า BTS
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่จนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยทั้งหมดเป็นชาวมองโกเลีย พฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 แต่ละคนมีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน โดยทั้ง 4 จะเดินตระเวนหาเหยื่อภายในสนามบินสุวรรรภูมิ หลังพบเหยื่อหรือผู้เสียหาย ทั้งหมดก็จะเดินประกบเหยื่อเอาไว้ เมื่อสบโอกาส นางสาวอุลชิบายา บัทเทอร์เดเน่ หนึ่งในผู้ต้องสงสัยจะลงมือล้วงกระเป๋าเงินออกมาจากเสื้อคลุมของผู้เสียหายไป ก่อนที่จะส่งต่อให้ผู้ต้องสงสัยที่เป็นชายที่มาด้วยกันทั้ง 3 รับกระเป๋าเงินต่อและรีบเดินชิ่งออกไป โดยมีนายเธอร์มังค์ บูเรงจาร์กัลป์ เป็นหัวหน้าแก๊งและเป็นคนเลือกเหยื่อ หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุทั้ง 4 ยังได้พยายามก่อเหตุลักทรัพย์ผู้เสียหายรายอื่นอีกในขณะที่นั่งอยู่บนรถไฟฟ้า BTS หลังจากนั้นกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้นำบัตรเครดิตของผู้เสียหายที่ก่อเหตุมา ไปตระเวนรูดซื้อสินค้าแบรนด์เนมราคาแพง ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยเหล่านี้น่าจะเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เมื่อได้ทรัพย์สินทั้งหมดก็จะเดินทางหลบหนีออกนอกราชอานาจักร เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยที่ 4 ต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
จนกระทั่งในช่วงเย็นของวันที่ 18 มีนาคม ผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยเพื่อมาลงมือก่อเหตุอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 เอาไว้ได้ พร้อมของกลางทั้งหมด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งขอกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Iamamm204 มือถือเรามาหายที่สุวรรณภูมินี่แหละ
20 มี.ค. 2562 เวลา 17.10 น.
phanumas จับกลุ่มนี้ได้แล้วมีกลุ่มที่ยังไม่ได้จับอีกไหม
ก็เฝ้ารอให้มีคนเสียหายมาแจ้งก่อนนะ ค่อยรอจับ
ถ้าเขาไม่กลับมาให้จับก็ทานแห้วแก้เซ็งกันไป!
เหมือนหมอรอคนไข้ ระบบระเบียบบางเรื่องล้าสมัยแล้วก็เปลี่ยนแปลงมั่ง 40ปีแล้ว
ถามว่าทุกวันนี้ยังมีคนเขียนจดหมายหากันอยู่มากไหม
โลกเปลี่ยนไปแค่ไหน ระเบียบ,ความคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินไปรอเรามีไหม? หรือเราต้องไปรอจนหง่อม
หละท่านผู้เขียนกฎ
20 มี.ค. 2562 เวลา 16.23 น.
ฐิติมา (กุ๊ก) ก่อเหตุตั้ง2ครั้งพึ่งจับใด้ สนามบินสุวรรณภูมิกล้องเยอะแยะ เห้ย สร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศไทย เท่ามีอยู่ก็มากอยู่แล้ว เต็มบ้านเต็มเมือง ทุกซอกทุกซอย
20 มี.ค. 2562 เวลา 15.30 น.
ดูทั้งหมด