ไลฟ์สไตล์

หลบแดดไปออกเดทกับหนังสือหายาก ที่ร้านลับบนถนนสีลม The Reading Room

HealthyLiving
อัพเดต 19 มี.ค. 2562 เวลา 18.05 น. • เผยแพร่ 18 มี.ค. 2562 เวลา 00.00 น. • Healthy Living

 

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

  ใครเลยจะรู้ว่าบนถนนที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน และผืนดินราคาสูงตารางเมตรละเหยียบล้านบาทของถนนสีลม เพียงเดินขึ้นไปยังช่องบันไดเล็กๆ ข้างๆ ตึกแถวเลขที่ 2 ในซอยสีลม 19 ณ ชั้น 4 จะมีห้องสมุดเล็กๆ ที่บรรจุหนังสือดี ซ่อนตัวอยู่  

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ห้องสมุดไม่ใช่แค่การอ่านหนังสือแต่คือพื้นที่สงบ ปลอดภัย และเอื้อเฟื้อสำหรับทุกคน“เวลาไปต่างประเทศ เราชอบไปห้องสมุด เพราะมันเป็นเหมือนพื้นที่ๆ เป็น safe space หรือ shelter จากจุด A ไป จุด​ B ที่เปิดรับทุกคนไม่ว่าคุณจะเป็น citizen (คนในประเทศ) หรือ นักท่องเที่ยว”  

  คุณเกี๊ยว นราวัลลภ์ ปฐมวัฒ ผู้ก่อตั้งห้องสมุด The Reading Room เล่าให้ฟัง และนี่คือเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเปิดพื้นที่สำหรับทุกคน ไม่ว่าคนไทย หรือนักท่องเที่ยว ทุกคนสามารถแวะมาอ่านหนังสือ หรือกระทั่งนั่งพักหลบร้อนที่ The Reading Room ได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นในปีพ.ศ. 2552 คุณเกี๊ยวมีวัตถุประสงค์ในการสร้าง The Reading Room เป็นห้องสมุดศิลปะ ที่แบ่งปันหนังสือดีๆ ของสะสมส่วนตัว ที่คุณเกี๊ยวเก็บเกี่ยวเมื่อไปศึกษาต่อด้านการบริหารงานศิลปะและวัฒนธรรมแบบไม่แสวงกำไร ที่ Pratt Institute นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และการทำงานในแวดวงศิลปะในต่างประเทศ เธอจึงนำแนวคิดจากประสบการณ์ในการเรียน และการทำงาน ให้เป็นองค์กรไม่แสวงกำไร และจับต้องได้ในรูปแบบที่เธอเชื่อ จึงกลายมาเป็น The Reading Room ที่เปิดพื้นที่ๆ มีหนังสือทางด้านศิลปะให้ใครก็ได้ที่สนใจได้มีโอกาสอ่าน และใช้ประโยชน์แบบฟรีๆ โดยไม่เก็บค่าบริการ
แต่เมื่อห้องสมุดเริ่มเปิดให้ใช้บริการ คุณเกี๊ยวพบว่าหนังสือวรรณกรรม ก็เป็นสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจอ่านมากไม่แพ้หนังสือศิลปะ ในวันนี้ห้องสมุดศิลปะแห่งนี้ จึงมีหนังสือที่หลากหลายสำหรับความต้องการที่แตกต่าง  

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 “สิ่งที่ The Reading Room อาจจะแตกต่าง คือวรรณกรรมหลายๆ เล่มที่นี่ มีทั้งมาจากสำนักพิมพ์ใหญ่และเล็ก ซึ่งหนังสือจากสำนักพิมพ์เล็กๆ เนี่ย ห้องสมุดใหญ่ๆ หรือ Public Library (ห้องสมุดสาธารณะ) เขาก็จะไม่ได้มีไปวางไว้ ดังนั้นบางเล่มที่ห้องสมุดใหญ่ๆ ไม่มีให้อ่าน ที่นี่อาจจะมี” คุณเกี๊ยวเล่าให้เราฟัง
นี่คือโอกาสดีของคนอ่าน ในการหาอ่านวรรณกรรมที่หายาก เพราะสำนักพิมพ์เล็ก มีอำนาจต่อรองน้อยในการได้มาซึ่งพื้นที่บนชั้นวางขายในร้านหนังสือดังๆ โดยส่วนมาก หนังสือเหล่านี้อาจได้วางบนชั้นเพียงไม่นานก็ถูกเก็บไว้ในห้องเก็บสินค้า หรืออาจถึงขั้นไม่ได้วางจำหน่ายในร้านใหญ่เลยด้วยซ้ำ ทั้งที่เป็นหนังสือดี 
การเดทกับหนังสือ คือเปิดมันขึ้นอ่านThe Reading Room เคยจัดกิจกรรม Blind Date Book ที่ห่อปกปิดหนังสือทั้งเล่ม มีเพียงคำจำกัดความสั้นๆ เขียนโปรยไว้ การเลือกหยิบหนังสือแต่ละเล่น ให้ความรู้สึกตื่นเต้นคล้ายกันกับเวลาที่เราถูกจับคู่ให้เดทกับคนแปลกหน้า ที่มีข้อมูลก็เพียงคำแนะนำสั้นๆ จากแม่สื่อ พ่อสื่อเท่านั้น และการค่อยๆ ทำความรู้จัก ก็คือการเปิดหนังสือเล่มนั้นอ่าน นั่นเอง
และนี่ คือความรู้สึกและการให้คะแนนจากผู้อ่าน(คะแนนเต็ม 5) ที่ทาง The Reading Room ทำการบันทึกเอาไว้..The Judgment: Chart KorpjittiRate: 5 ให้เรทเต็ม เพราะปกติก็แอบชอบอ่านงานเขียนประมาณนี้ คำพูดมันทำร้ายและทำลายคนได้จริง ๆ นะ เป็นเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกหดหู่ ผู้แต่งบรรยายได้เห็นภาพชัดเจน ชนิดที่เห็นตัวละครมีความสุข หัวเราะ ร้องไห้ บ้าคลั่ง ราวกับมีชีวิตจริง ๆ อยู่ตรงหน้าเรา ทำให้ต้องหาเล่มต้นฉบับภาษาไทยมาอ่านด้วยเลยค่ะ สัมผัสได้ตั้งแต่คำเปรยบทนำแล้วว่าเรื่องนี้มันจบไม่สวยแน่ ซึ่งก็ใช่ เป็นไปตามนั้น อ่านไปก็ภาวนาไปด้วยว่าขอให้อะไร ๆ มันดีขึ้นเถอะ แต่ยิ่งอ่านโทนเรื่องยิ่งมืดมนขึ้นเรื่อย ๆ ใครอยากอ่านเรื่องที่จบแบบมีความสุขไม่แนะนำ - KARN
คำสารภาพ: มินะโตะ คะนะเอะRate: 5++ รู้สึกชอบมาตั้งแต่ได้ดูหนังแล้ว รู้เลยว่าต้องหาหนังสือมาอ่านให้ได้สักครั้ง พอได้อ่านจริงก็รู้สึกเหมือนเจอคู่แท้ที่หามานาน ถึงฟีลจะต่างจากหนัง แต่พีคเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน เซนเซจะเป็นไอดอลของเหล่าคน 'ไม่เอ็นดูเด็ก' ไปอีกนาน เหมือนที่ 'คำสารภาพ' เล่มนี้จะเป็นหนึ่งในนิยายเล่มโปรดของเราไปตลอดกาล - ธารใส อัจฉริยบุตร 
จิบพม่า ตามหา จอร์จ ออร์เวลล์: Emma LarkinRate: 4 หนังสือเชิงวิเคราะห์วิจารณ์สังคมและมนุษยศาสตร์ที่อ่านไม่ยาก ใครเป็นติ่งของจอร์จ ออร์เวลล์จะอ่านด้วยความสนุกมากยิ่งขึ้น (แบบเรา อิอิ) หนึ่งในหนังสือที่สะท้อนความจริง(ด้านหนึ่ง) และประวัติศาสตร์ของพม่าได้ดี ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้อ่านเพราะเรื่องราวเกี่ยวกับพม่าหาอ่านได้ยากพอควรในประเทศนี้ขอบคุณ The Reading Room ที่หยิบยื่นโอกาสในการรู้จักประเทศเพื่อนบ้านและแบ่งปันให้ติ่งออร์เวลล์ดีใจ - Sritala ชายร้อยปีผู้ปีนออกทางหน้าต่าง: Jonas JonassonRate: 3.5
อ่านแล้วคิดถึงสถานการณ์สมัยนี้เลยอ่ะแต่จะบอกว่า ไม่ต้องรอให้ถึงวันเกิดอายุ 100 ปี แต่จะปีนออกจากหน้าต่าง (แล้วออกไปผจญภัยแบบไม่ก่ออาชญากรรม) ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลย- Mintดอกไม้ไร้ราก: ANCHEE MINRate: 5
เป็นหนังสือที่หลากหลายอารมณ์ในเล่มเดียวกัน ครั้งแรกที่อ่านจะรู้สึกเหมือนเปิดโลกทัศน์เกี่ยวกับคอมมิวนิสต์จีนแต่ต่อมากลับพบว่า การถูกปิดกั้นความจริงจากโลกภายนอกเป็นสิ่งเลวร้าย เมื่อเราต้องพบเจอกับโลกแห่งความเป็นจริง เหมือนกับที่ อันฉี หมิน ล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายครั้ง เมื่อมาอเมริกาเป็นครั้งแรก บางครั้งก็หงุดหงิดกับความใจอ่อนและการตัดสินใจผิดพลาด แต่ก็เอาใจช่วยเธอทุกครั้ง และนับถือในความเข้มแข็ง และใจดีของเธอ - ขวัญไพร
แสงริบหรี่ที่ปลายอุโมงค์: Franz KafkaRate: 5
หนังสือเล่มนี้สนุกมากค่ะ เป็นแบบที่ไม่เคยอ่านมาก่อนขอบคุณโครงการนี้นะคะ ที่ทำให้รู้จักผู้แต่งหนังสือเล่มนี้ (และจะหาเล่มอื่นมาอ่านต่อ)ขอบคุณค่ะ - หนึ่ง อเมริกันก็อดส์: NEIL GAIMANRate: 4.5
เป็นหนังสือที่วางพลอตเรื่องไว้ได้ดีมาก ตัวละครเยอะ แต่กลับสัมพันธ์กันหมด บางตอนก็ตลอก บางตอนก็สยอง บางตอนก็ตื่นเต้นแบบแทบหยุดหายใจ ถึงตอนแรกเริ่มจะมาเอื่อย ๆ แต่เหมือนค่อย ๆ เพิ่มระดับความสนุกตามจำนวนหน้า ครึ่งหลังจะวางหนังสือไม่ลง ลุ้นตลอด โดยรวมแล้วเป็นหนังสือที่ดีและสนุก ถึงตอนจบจะง่ายไปนิด แต่ก็ยังถือว่าโคตรสนุก - Alien II
เป็นประกาย: เอคุนิ คาโอริRate: 4.5
เป็นนิยายรักเล่มหนึ่งที่ทำให้เข้าใจว่ารักบริสุทธิ์ที่จริง ๆ เป็นยังไง ยากที่จะอธิบายด้วยคำพูด แต่อ่านไปแล้วยิ้มไปค่ะ ชอบทุก ๆ อย่างที่สื่อออกมาในหนังสือเล่มนี้เลย - INGING
หมาหัวคน: วิภาส ศรีทองRate: 4 รู้สึกคาใจกับปมบางอย่าง เช่น พวกกลายพันธุ์คนอื่น ๆ เป็นอย่างไรบ้าง และอยากรู้ถึงสภาวะของสงคราม แต่ความคาใจนี้ก็เป็นจุดดีส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ มันทำให้ลุ้นไปกับเดียว และรู้สึกเหมือนเราเป็นตัวละครนั้นเหมือนเราเองก็ค่อย ๆ เรียนรู้ไปพร้อมกับเดียว การเดินทางของเดียวและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เขาพบ ทำให้นึกถึงความจริงบางอย่างที่เราเผลอมองข้ามไป เช่น ชีวิตของผู้คนในเมืองศูนย์ ที่ใช้ชีวิตกันอย่างปกติ ไม่ใส่ใจกับเมืองรอบนอกเท่าไหร่ ทำให้นึกถึงประเทศเรา ที่แม้ชายแดนใต้จะรบกันอยู่ แต่กลับถูกละเลยจากคนส่วนมากในประเทศ - น.ส. ปฏิมา ทองนอก
ศรีนวลจัดหนัก รวมเรื่องสั้นสตรีเล่า (แดนอรัญ แสงทอง ร่วมแปล)Rate: 4 เหมือนได้เดทกับผู้หญิงลึกลับ เย้ายวน ในขณะเดียวกันก็เหมือนพายุคลั่ง ทว่าแสนโศกเศร้า เสียดายนิดหน่อยที่ครั้งนี้มีเวลาให้พวกเธอไม่มาก ไว้วันหลังจะพาเธอไปเดทอีก - gp
นายคำ: ชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์Rate: 4
รู้สึกได้ถึงมุมมองของความรักที่เกี่ยวข้องกับนักเขียนแต่ละคน และได้รับความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไปในตัวด้วย - ศักดิ์สิทธิ์ ฤกษ์ดีทวีทรัพย์
แม้กิจกรรมนี้จะจบไปแล้ว แต่หากหลังจากอ่านรีวิวนี้ ใครสนใจจะขอยืมหนังสือ (หรือภาพยนตร์) ในห้องสมุด เพียงกรอกชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล์ให้กับทาง The Reading Room เงื่อนไขคือยืมได้เดือนละ 1 ครั้ง และยืมได้นาน 1 เดือน ย้ำว่า ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น 
หรือถ้าหากไม่อยากยืม แต่อยากหาที่นั่งพักระหว่างเดินทาง เพื่อรอเพื่อน เพื่อนั่งทำงานสงบๆ แม้กระทั่งแอบงีบก็ยังได้ The Reading Room ยินดีต้อนรับทุกคน 

เพิ่มเติมจากพื้นที่ไว้ อ่าน คือคิด-เห็น-ฟัง-พูดนอกจากหนังสือ ภาพยนตร์ และพื้นที่นั่งทำงานหรือแวะพักแล้ว ที่นี่ยังเป็น “พื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น” ทั้งกิจกรรมฉายหนัง กิจกรรม Workshop และกิจกรรมเสวนาพูดคุยเรื่องศิลปะ วรรณกรรม วัฒนธรรม ไปจนถึงในประเด็นความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม กระทั่งหากใครสนใจจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องโดยยังอยู่ในขอบเขตของศิลปะและวัฒนธรรม ทางห้องสมุดก็เปิดรับในการมาใช้พื้นที่ร่วมกันได้ 

 จากปีแรกจนถึงปีนี้ในการเริ่มก่อร่างสร้าง The Reading Room คุณเกี๊ยวไม่เคยคาดหวังเลยว่า พื้นที่เล็กๆ นี้ จะเปิดรองรับผู้คนมานานถึง 10 ปีแล้ว แต่กว่าจะมาถึงอายุหลักสิบ The Reading Room ได้ผ่านเรื่องราวต่างๆ มาไม่น้อย บอกเลยว่าไม่ง่ายในการรักษาพื้นที่ตรงนี้ให้คงอยู่ตามความตั้งใจเดิม 
แต่นี่แหละ คือข้อพิสูจน์ว่า ผู้คนต้องการพื้นที่แวะพักที่สงบปลอดภัย ต้องการพื้นที่แลกเปลี่ยนทางความคิด และต้องการพื้นที่สำหรับการเสพความรู้ แบบที่ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ การศึกษา หรือกำลังทรัพย์ 
The Reading Room เปิดวันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา 13.00 - 19.00 นเลขที่ 2 ถนนสีลม ซอย 19 โทร.0-2635-3674แผนที่ http://bit.ly/2TcPaGHhttp://bit.ly/2F4rMWw

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 5
  • luckyka ② ϟ ⑧ ❃
    น่าสนใจ
    02 เม.ย. 2562 เวลา 08.27 น.
  • cob
    สุดยอดชื่นชมครับ
    22 มี.ค. 2562 เวลา 01.38 น.
  • SUPARAK
    ผมจะแวะไปอ่านด้วยน่ะครับ
    21 มี.ค. 2562 เวลา 02.26 น.
  • ป๋อคัฟฟฟ+
    ดี
    02 เม.ย. 2562 เวลา 08.16 น.
  • Nichapon
    อ่านเล่มแรกจนวันนี้ก็หลายปีแล้ว ไม่จบสักทียาวกว่าแฮรี่พ็อตเตอร์อีก # บันทึกรักของนางฟ้า
    30 มี.ค. 2562 เวลา 01.49 น.
ดูทั้งหมด