วันนี้ (25ส.ค.62) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ในฐานะทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบหมายให้ตนไปฟังคำพิพากษาแทน เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ในคดีแพ่งตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6646-6647/2561 ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับการวางเพลิงเผาทรัพย์ช่วงระหว่างการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยมีการฟ้องเรียกค่าเสียหาย ซึ่งคดีนี้มีนางนุชทิพย์ บรรจงศิลป์ โจทก์ที่ 1 นายสิริเชษฐ์ สุขประสงค์ดี โจทก์ที่ 2 นางมนัสนันท์ สุขประสงค์ดี โจทก์ที่ 3 และบริษัท ยูแอลซี ซอฟแวร์ โจทก์ที่ 4 ฟ้องจำเลย 11 คน ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กระทรวงการคลัง กระทรวงกลาโหม กองทัพบก นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายทักษิณ ชินวัตร กรุงเทพมหานคร (กทม.) และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร โดยโจทก์ฟ้องว่าได้รับความเสียหายจากการวางเพลิงเผาอาคาร จำนวน 3 คูหา ตั้งอยู่ที่บริเวณถนนราชปรารถ กรุงเทพฯ ในช่วงระยะเวลาที่มีการชุมนุมของกลุ่มนปช. จึงฟ้องเรียกค่าเสียหายทั้งสิ้น 385,920,800 บาท ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และกทม. ส่วนจำเลยคนอื่นยกฟ้อง ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
นายราเมศ กล่าวต่อว่า แต่ศาลฎีกาพิพากษากลับให้นายจตุพร นายณัฐวุฒิ และนายอริสมันต์ ร่วมกันรับผิดชอบใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 1,347,000 บาท นอกจากนี้ยังให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่ 2 และโจทก์ที่ 3 เป็นเงิน 12,000,000 บาท และร่วมกันรับผิดชอบใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่ 4 เป็นเงิน 6,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตรา ร้อยละ 7.5 ต่อปี จากคำพิพากษา พบว่าศาลฎีกาให้เหตุผลสรุปสาระสำคัญว่าคำพูดของนายจตุพร นายณัฐวุฒิ และนายอริสมันต์ ล้วนเป็นการปราศรัยที่ยุยงส่งเสริมหรือสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมร่วมกันแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ต่อการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ในคำพิพากษาระบุอีกว่า ตามพฤติการณ์แห่งคดีมีเหตุให้เชื่อได้ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่อาคารและทรัพย์สินที่ถูกบุคคลผู้ชุมนุมในกลุ่มนปช.วางเพลิงเผาทำลายนั้น เป็นผลที่เกิดขึ้นจากคำกล่าวปราศรัยของนายจตุพร นายณัฐวุฒิ และนายอริสมันต์ด้วย โดยเข้าลักษณะเป็นผู้ยุยง ส่งเสริม ในการทำละเมิดของบุคคลผู้ชุมนุมในกลุ่ม นปช. ที่ร่วมกันเผาอาคารและทรัพย์สิน
ทั้งนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ศาลฎีกาพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหาย ขณะที่จำเลยคนอื่นๆ ศาลยกฟ้อง ทั้งนี้ คำพิพากษาศาลฎีกาต้องถือว่าเป็นที่สุด และว่ากันต่อด้วยเรื่องชำระค่าเสียหายให้กับโจทก์ผู้ที่ได้รับความเสียหายต่อไป ส่วนคดีอื่นๆที่ยังค้างการพิจารณาอยู่ในหลายคดี ตนเชื่อว่าจะมีการนำคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับนี้ไปประกอบด้วย เพราะมีรายละเอียดที่น่าสนใจ
สมศักดิ์
ทุกอย่างที่มันเกิด ผมว่ามันไม่ใช่ อุดมการณ์ มันเป็นแค่การเสี่ยงดวง ห้อยโหน ผลลับทั้งหมดมันอยู่ที่ความอยู่รอด ทุกคนทำเพื่อตัวเองทั้งสิ้น ไม่ว่าฝ่ายไหน มีบทบาทเยอะถ้ารุ่งคือ สบาย แต่ถ้าร่วงคือ จบ มีตัวอย่างเพียบ แล้วแต่จังหวะใคร อย่าซีเรียสกับเรื่องนี้ ไม่มีใครทำเพื่อส่วนรวม มีแต่เพื่อตัวเองทั้ง
26 ส.ค. 2562 เวลา 02.33 น.
ยุ้ย 59💖💵💰🏠 บ้านเมืองของเรา บ้านเกิดของบรรพบุรุษทำไมพวกมึงเผาลง
ไม่รักประเทศชาติบ้างเลยรึไง ไม่น่าจะเกิดเป็นคนไทยเลยนะ
เผาได้ลงคอ
25 ส.ค. 2562 เวลา 14.29 น.
สมศักดิ์ คนที่อยู่เมืองนอกบอกว่าถ้ามีการปราบปรามให้ไปรวมกันที่ศาลากลาง
คนที่สองบอกว่าให้นำขวดเปล่าน้ำมันไปหาเอาข้างหน้า
คนที่สามพูดว่าให้ไปรวมตัวที่ศาลากลาง ฟังสัญญานจอดับเมื่อไหร่ตัดสินใจได้ทันที
คนที่สี่เผาเลยครับพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง
สรุปคนเหล่านี้ชั่ว คนไทยเลิกด่ากันเอง แล้วรวมหัวกันกำจัดคนชั่วจะดีกว่ามั๊ย
25 ส.ค. 2562 เวลา 14.09 น.
TARNIYAR ยึดสนามบิน ไม่เห็นเป็นไร
25 ส.ค. 2562 เวลา 11.07 น.
สิงโตทะเล ศาลากลางจังหวัดผมก็โดนเผาเหมือนกันครับ ทำไมพวกยุยงไม่โดนบ้าง
25 ส.ค. 2562 เวลา 10.37 น.
ดูทั้งหมด