สาวหวั่นติดไวรัสโควิด-19 หลังเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น และเป็นไข้ ย้ำต้องรับผิดชอบต่อสังคม ได้ใช้สิทธิ์ประกันสังคมตรวจเพื่อตรวจเช็ค แนะหากใครเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงอย่านิ่งนอนใจ สามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมตรวจเช็คโควิด-19ได้
วันนี้ (25 ก.พ.) เฟซบุ๊ก "Plernpin Jintakan" ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลหลังตนเองเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวที่สาธารณสุขสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ว่าญี่ปุ่นอยู่ระดับ 3 ซึ่งตนเองอยู่ที่นั่นแล้ว หลังจากกลับมาถึงประเทศไทย ตนเองได้ทำใจไว้แล้วว่ากลับมาแล้วต้องรับผิดชอบต่อสังคม วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 ได้รู้สึกว่าเป็นไข้ และไม่นิ่งนอนใจรีบมาพบแพทย์ ตามที่สาธารณสุขแจ้ง เพื่อป้องกันตัวเองและคนรอบข้าง สิทธิ์ประกันสังคมอยู่ที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต
โดยระบุขั้นตอยดังนี้ STEP 1 : 8.30 - 10.00 น. ตรวจเบื้องต้น ตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด ตรวจจมูกแบบไข้หวัดใหญ่ (ไม้ยาวแหย่ลงจมูก) เนื่องจากเรามี ประวัติการเดินทางไปที่ประเทศที่มีภาวะเสี่ยง
STEP 2 : 11.00 น. เข้าพบคุณหมอ คุณหมอ และพยาบาล มาในชุดป้องกัน ร่างกาย ตา จมูก เพราะเราถือว่าเป็นผู้เข้าข่ายต้องเฝ้าระวัง แล้วก็มีการซักประวัติ ว่าเรามีพฤติกรรมตอนไปเที่ยวต่างประเทศอย่างไร แล้วก็มีการเก็บตัวอย่าง การตรวจจมูกแบบไข้หวัดใหญ่ (ไม้ยาวแหย่จมูก) + ตรวจคอ ( ไม้ยาวแหย่ลงคอ ) ค่อนข้างอึดอัดทรมานอยู่แป๊บนึง
STEP 3 : 12.00 น. พยาบาลมาแจ้งว่า เราได้ขึ้นทะเบียนกับสาธารณสุขว่าเป็นผู้ป่วยต้องเฝ้าระวัง ต้องทำการกักตัวและดูอาการ ที่ห้องปลอดเชื้อ ICU ณ ตอนนั้นตกใจมาก เราเป็นหนักหรอ? ทำไมต้องให้เข้าไปอยู่ห้อง ICU ด้วย มีคำถามวนอยู่ในใจมากมาย พอเซ็นเอกสารยืนยันเข้ารับการรักษา ก็รอเข้าไปที่ห้อง ICU … ซึ่งถ้าเข้ามาถึงขั้นตอนนี้ สิทธิ์ประกันสังคมจะครอบคลุมการตรวจโคโรน่าด้วย เนื่องจากเราเป็นผู้ป่วยที่เข้าข่ายต้องเฝ้าระวัง สำหรับใครที่อยากมาตรวจเองจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 7,000 บาท
STEP4 : 13.00 น. เข้ามาที่ห้อง ICU ห้องปลอดเชื้อ เป็นห้องเดี่ยวๆ ที่ไม่มีอากาศภายนอกเข้ามาได้ ไม่มีทีวี มีแต่เครื่องตรวจวัดตามร่างกาย 5 จุด เครื่องให้ออกซิเจน และเครื่องวัดความดัน ที่จะวัดทุกๆ 1 ชั่วโมง รายงานผลจอมอนิเตอร์ แล้วจะมีการวัดไข้ทุก 4 ชั่วโมง แล้วต้องใส่ออกซิเจนเพิ่มเติม เพราะว่าร่างกายมีออกซิเจนต่ำ แล้วก็ห้ามลงจากเตียง เจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาในห้องทุกครั้ง ไม่ว่าเราจะปวดฉี่ หรือต้องการอะไร จะต้องสวมชุดป้องกัน ใส่หมวก ใส่แมส ใส่แว่นตา กว่าจะได้เข้ามา ค่อนข้างลำบาก แล้วเราก็เกรงใจ ในใจตอนนั้น คือ ตกใจ งง แบบดูจริงจังไปหมด ดูอะไรก็ลำบากไปหมด แต่ก็เข้าใจนะ แล้วก็รู้สึกดีที่มีการป้องกัน และเซฟเจ้าหน้าที่และเรามากขณะนี้
STEP5 : 17.00 น. คุณหมอเข้ามาตรวจ ขออนุญาตเอ่ยชื่อ (นพ. ณวร) เพราะคุณหมอน่ารักมากๆ คุณหมอได้เข้ามาตรวจปอด ตรวจคอ ตรวจออกซิเจนในร่างกาย แล้วพูดคุยกับเรา รวมถึงอธิบายให้ฟัง ว่าผลตรวจที่กำลังจะออกเป็นผลที่แน่ชัด มีการตรวจลึกถึงรหัสพันธุกรรม ถ้าเกิดไม่มีเชื้อก็สามารถกลับบ้านได้ แต่ถ้ามีเชื้อก็ต้องทำการรักษาอย่างเร่งด่วนเลย โชคดีที่คุณได้มาอยู่ในห้องนี้ หมอไม่รู้ว่าในจังหวัดเรามีห้องแบบนี้กี่ที่ แต่คงมีไม่มาก อยากให้คุณมั่นใจว่าห้องที่คุณอยู่เป็นห้องที่ดีและปลอดเชื้อ หมอเข้าใจว่าห้องนี้มันเป็นห้องที่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน หมอจะพยายามให้คุณรีบออกไปให้ได้มากที่สุดนะ …. พอคุณหมอเข้าไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เราก็ได้มองเห็นว่าคุณหมอเขาทำการเทรนพยาบาลอีกครั้ง เพื่อให้รัดกุม ว่าต้องปฏิบัติตัวกับเราแบบไหน ใส่ชุดยังไง ป้องกันกี่ชั้น รักคุณหมอตรงนี้ ที่ใส่ใจ
ความรู้สึกหลังจากที่คุณหมอเข้ามา เราก็เผื่อใจไว้แล้ว 50/50 ภาพในหัวทุกอย่างลอยมาหมดเลย ภาพหน้าคนที่เรารัก และหลายๆอย่าง แต่เราเชื่อมั่นในกระบวนการสาธารณสุขของประเทศไทย เพราะว่าเราได้มาสัมผัสจริงๆ มาทั้งหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ แล้วก็ระบบการตรวจที่รัดกุม ดีมาก ต่อให้เราเป็น เราก็มั่นใจว่าเราจะหายเพราะว่ามีคนที่รักษาหาย
STEP6 : 01.00 น. ผลตรวจเลือดออกมาแล้ว แต่ตอนนั้นเราหลับอยู่ พยาบาลไม่ได้ปลุก แต่ก็ไม่ได้หลับสนิท ( ไม่เคยหลับสนิทเลย ไม่ใช่เพราะเครียดนะ 555 แต่เป็นเพราะว่า ความดันมันวัดทุกๆชั่วโมง มันจะบีบแขนเราทุกชั่วโมง )
STEP7 : 05.30 น. พยาบาลมาแจ้งผลตอนเช้า ผลตรวจออกมาว่า ไม่มีเชื้อโคโรนา เป็นแค่ไข้ธรรมดา คุณพระ เหมือนถูกหวยยังไงยังงั้น ยกภูเขาเอเวเรสออกจากอก แถมพยาบาลเล่าว่า คุณหมอโทรเข้ามาที่โรงพยาบาล ตอนกลับบ้านไปแล้ว เพื่อติดตามฟังผลเราอยู่ตลอด พยาบาลเอาใบผลมาให้เราดูเพื่อความสบายใจ และพยาบาลก็มาแจ้งให้เราย้ายไปห้องปกติ เพื่อรอพบคุณหมอช่วงเช้า ที่สำคัญคือ พยาบาลเข้ามาอาบน้ำเช็ดตัวให้บนเตียง เราก็บอกว่าเราอาบเองได้นะ เราเกรงใจแล้วเราก็เขินด้วย พยาบาลขำ แล้วบอกไม่เป็นไรค่ะยังลงจากเตียงไม่ได้นะ เดี๋ยวทำให้หมดเลยค่ะ ไม่เป็นไรเลย ให้หัวใจพยาบาลอีกดวง
STEP 8 : 07.00 น. พยาบาลมาตรวจคลื่นหัวใจ แล้วแสกนปอดอีกครั้ง ( แม้ผลจะออกมาแล้ว ก็ยังตรวจนุ้นนี่นั่นให้ต่อ )
STEP 8 : 14.00 น. หมอให้กลับบ้านได้ ถือว่าร่างกายปลอดภัยจากไวรัส 100% ไม่ต้องกักตัวหรืออะไรต่อ
อย่างไรก็ตาม ผู้โพสต์ได้ฝากทิ้งท้ายว่า "สำหรับคนที่เดินทางไปต่างประเทศเสี่ยง ช่วงก่อนสาธารณสุขประกาศแบบตน มีอาการรีบพบแพทย์ ถ้าอยากชัวร์มาตรวจเองเลย ที่โรงพยาบาลยอมเสียค่าตรวจ ถ้าอยากสบายใจ สำหรับคนที่คิดจะลังเล ไปหรือไม่ไปตอนนี้ สาธารณสุขประกาศแล้ว ถ้าเป็นไปได้ แนะนำปรึกษากับสายการบินและกรุ๊ปทัวร์นะคะ ถ้าเลื่อนได้ยกเลิกได้ แนะนำให้ทำ เพราะหากกลับมาแล้วเป็นอะไรไปมันไม่คุ้มเลย ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงต่อคนที่เรารัก และคนรอบข้างทุกคน ไม่ว่าจะเป็นสังคมที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าเขาจะรังเกียจเราหรือเปล่า สุขภาพตัวเองที่เราไม่รู้ว่าเราเซฟตัวเองดีแล้ว แต่มันเซฟได้ 100% หรือเปล่า รวมถึงถ้าเป็นอะไรที่ไม่น่าไว้ใจ ก็ต้องมานอนที่โรงพยาบาลหลายชั่วโมงแบบเราเพื่อตรวจ จิตตกและเสียเวลา ด้วย เข้าใจดีว่าเสียดายเงิน ที่ได้จองไป แต่เงิน..หาเมื่อไหร่ก็หาได้ ตราบใดที่เรายังไม่ตาย แต่ถ้าเราตายเราจะไม่มีโอกาสได้หาเงินไปเที่ยวที่อื่นๆต่อนะ ด้วยรักและหวังดี"
Jim ใครจะชมก็ชมมันไป....กูขอด่า
เม่งโรคกำลังระบาด ยังห่วงเที่ยว สันดาน
ไม่รู้สี่รู้แปดเฮี้ยอะไรเลย ยังมาโชว์โง่รับผิดชอบต่อสังคม
มึงไปเที่ยวก็ความสุขของมึง อย่าเอาวังคมมาอ้าง อิห่าน
25 ก.พ. 2563 เวลา 14.08 น.
TOMMY00 เพื่อนของเพื่อนเพิ่งกลับจากไป ‘เที่ยว’ ญี่ปุ่นอาทิตย์ที่แล้ว เดินผ่านจุดคัดกรองที่สนามบินง่ายๆ อีกวันก็มาทำงาน เพื่อนบอกแทบไม่กล้าเข้าใกล้ คนพวกนี่ละที่จะทำให้ไทยเข้าสู่เฟสสาม เฟสไฟรามทุ่ง
25 ก.พ. 2563 เวลา 12.47 น.
Siripong สู้ GGM. ของผมไม่ได้ เป็นคนที่กลับจากประเทศเสี่ยง บริษัทให้กลับบ้านทันที่ ไม่ยอมกลับ รักงาน รักหน้าที่ ถ้าติดเชื่อมานะรับรองหนักกว่ามนุษย์ป้าเกาหลีอีก
25 ก.พ. 2563 เวลา 12.31 น.
Thirachai ทำถูกต้องแล้วครับ. แต่จะให้ดีควรหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงนี้ครับ ลองนึกภาพดูว่าแต่ละคนที่เดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงเกิดติดเชื้อมาหรือไม่ติดเชื้อแต่ไม่สบาย ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาล. โรงพยาบาลคนไข้ปกติก็เยอะอยู่แล้วและยังต้องมาตรวจคนที่ไปเที่ยวอีก จะมีห้องเพียงพอต่อการรักษามั้ย. และจำนวนบุคลากรทางการแพทย์จะมีเพียงพอมั้ย. เราต้องช่วยกันรณรงค์งดเที่ยวต่างประเทศกันนะครับ. เพื่อประเทศเราไม่เข้าสู่ระยะที่ 3
25 ก.พ. 2563 เวลา 12.18 น.
ming@ta เป็นผมตอนเข้าicu นี่จะขอกระดาษมาเขียนพินัยกรรม
25 ก.พ. 2563 เวลา 12.14 น.
ดูทั้งหมด