สายสื่อสารหย่อน เกี่ยวคอ นศ.สาว หวิดขาด

นักศึกษาการโรงแรมวิทยาลัยเอกชน ซ้อนรถเพื่อนรุ่นพี่ไปทานอาหารระหว่างทางถูกสายสื่อสารเกี่ยวคอหงายหลังตกรถ โชคดีใส่หมวกกันน็อคทำให้รอดตาย บาดเจ็บลำคอ ไหปลาร้าหัก
เรื่องราวหน้าหวาดเสียวนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเพจ มีด่านบอกด้วย อุบลราชธานี ระบุเหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือหญิงสาวนักศึกษาการโรงแรมแห่งหนึ่งในเขตอำเภอเมืองอุบลราชธานี หลังประสบอุบัติเหตุตกรถจักรยานยนต์ บริเวณแยกทางเข้าสนามบินนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจากการรายงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบว่าสาเหตุของการตกรถจักรยานยนต์มาจาก มีสายสื่อสารหรือสายเคเบิ้ลหย่อนลงมาขวางถนนทำให้สายดังกล่าวเกี่ยวคอหญิงสาวเคราะห์ร้ายรายนี้จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุไม่พบสายสื่อสารหรือสายเคเบิ้ลหย่อนพาดลงมาแต่อย่างใดแต่พบเศษของสายเคเบิ้ลตกอยู่ใกล้สายไฟ ด้านบนพบสายไฟจำนวนมากถูกมัดดึงด้วยเชือกไม่ให้หย่อนลงมาบางเส้นถูกผูกติดกับเสาไฟฟ้าโดยไม่ทราบว่าเป็นสายสื่อสารของค่ายใด
เมื่อค่ำวันที่ 16 ก.ค.62 ที่ผ่านมา เกิดเหตุ นักศึกษาสาว ประสบอุบัติเหตุ โดนสายสื่อสารที่ห้อยโตงเตง เกี่ยวคอ บริเวณแยกทางเข้าสนามบินนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานี จนหงายหลังตกรถจักรยานยนต์ ซึ่งโชคดีที่เธอใส่หมวกกันน็อก ทำให้ได้รับบาดเจ็บเพียงบริเวณไหปลาร้าหัก

หลังจาก น.ส.วาสนา ทองเปลว อายุ 20 ปี นักศึกษาสาวผู้เสียหาย รักษาตัว จนอาการปลอดภัยแล้ว
ทีมข่าวอีจัน ได้พูดคุยกับเธอ และ น.ส.จริยา ปาบุตร อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ในวันเกิดเหตุ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเธอเล่าว่า
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ค.เวลาประมาณ 21.00 น. หลังจากเธอเลิกทำงานพิเศษก็ได้ขับรถจักรยานยนต์ไปรับ นางสาววาสนา ซึ่งเป็นเพื่อนเพื่อไปกินข้าวริมอ่างเก็บน้ำห้วยวังนอง แต่ขณะที่ขับรถมาถึงแยกสนามบินนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวะที่สัญญาณไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียว จึงได้เร่งเครื่องข้ามแยก โดยไม่เห็นว่ากลางแยกมีสายสีดำพาดขวางถนนอยู่ตรงหน้าระยะประชิด ตนจึงได้ก้มหลบ แต่สายดังกล่าวได้เกี่ยวคอของ น.ส.วาสนา จนตกรถได้รับบาดเจ็บ

ด้าน น.ส.วาสนา เล่าว่า วันนั้น โชคดีที่ น.ส.จริยา ถอดหมวกกันน็อกให้ตนใส่ เมื่อถูกสายกระชากจนตกรถอยู่กลางถนน ก็มารู้ตัวอีกทีตอนที่ น.ส.จริยา เรียกและรถกู้ภัยเข้ามานำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งผลการตรวจร่างกายพบว่ากระดูกไหปลาร้าด้านซ้ายหัก ลำคอมีบาดแผลคล้ายเชือกเป็นแนวยาว เบ้าตาด้านซ้ายบวมช้ำบาดเจ็บ ส่วนศรีษะไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะสวมหมวกกันน็อกไว้

น.ส.วาสนา บอกอีกว่าอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบ ดูแลสายสื่อสารของตัวเองรักษาไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เพราะถ้าหากผู้ที่รับผิดชอบดูแลให้ดีก็จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
ซึ่ง น.ส.วาสนา และ น.ส.จริยา ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อสืบสวนหาเจ้าของสายสื่อสารดังกล่าวไว้แล้ว
ส่วนอาการบาดเจ็บของ น.ส.วาสนา แพทย์ให้หยุดพักงานรอให้กระดูกที่หักประสานตัวก่อน หากไม่ดีขึ้นก็จะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด

เหตุการณ์สายสื่อสารเกี่ยวคอคน ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกใน จ.อุบลราชธานี เพราะเมื่อเดือนธันวาคม 2561 สาววัย 19 ปี และตำรวจตระเวนชายแดน ในเขตตำบลขามใหญ่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี โดนสายสื่อสารเกี่ยวคอจนได้รับบาดเจ็บมาแล้ว
ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นร้อนถึงสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ เขต 22 อุบลราชธานี (กสทช.) ต้องลงพื้นที่ตรวจสอบหาเจ้าของสายสื่อสารต้นเหตุ จนมีค่ายมือถือยักษ์ใหญ่รายหนึ่งออกมาแสดงความรับผิดชอบแก่ผู้บาดเจ็บ โดยการดูแลค่าเสียหายให้กับผู้บาดเจ็บ ทั้งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า สายสื่อสารต้นเหตุนั้นเป็นของตัวเองหรือไม่

อย่างที่ ผู้เสียหายในครั้งนี้บอกเอาไว้ หากผู้ที่รับผิดชอบดูแลให้ดีก็จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก