++
เหมือนถูกที่ถูกเวลา “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” กับตำแหน่งรัฐมนตรีการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เนื่องจากคนรุ่นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย มีความตื่นตัวทางการเมือง ไม่ต่างสมัยช่วงก่อนและหลัง 14 ตุลาคม 2516
40 กว่าปีที่แล้ว “เอนก” คือผู้นำนักศึกษา ไม่ต่างจากเพนกวิน หรือหลานๆ อีกหลายร้อยคนที่ลุกขึ้นมาจากกิจกรรมแฟลชม็อบในรั้วมหาวิทยาลัย พ.ศ.นี้
อ่านข่าว… มหาชนภาค 2 พรรค"เหล่าธรรมทัศน์"
ครอบครัว “เหล่าธรรมทัศน์”
เอนกเป็นนิสิตแพทย์ และนายกสโมสรนิสิตจุฬาฯ หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มุ่งสู่เทือกเขาบรรทัด ก่อนเคลื่อนไปสู่ภูพยัคฆ์
จากวนาคืนสู่นาคร เป็นอาจารย์สอนหนังสือด้านรัฐศาสตร์ ก่อนเข้าสู่โหมดการเมือง ทั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ,หัวหน้าพรรคมหาชน และผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย
++
บทเรียน 6 ตุลา
++
เหตุการณ์ 14 ตุลา นำมาซึ่งกระแสสูงแห่งการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทย ขบวนการนักศึกษาก้าวรุดหน้าไปอย่างฮึกห้าวเหิมหาญ แต่ก็ใช่ว่า ความคิดของนิสิต นักศึกษาจะไปทางเดียวกัน 100% หากแต่ยังมีความแตกต่างความคิด และการต่อสู้เชิงอุดมการณ์ภายในสถาบันการศึกษาอยู่
จุฬาฯ ได้ชื่อว่าเป็นสถาบันที่มีระบบโซตัสแข็งแกร่ง กลุ่มนิสิตหัวก้าวหน้า-ภูมิธรรม เวชยชัย และเกรียงกมล เลาหไพโรจน์ ได้จัดตั้ง "พรรคจุฬา-ประชาชน" ถือว่าเป็นพรรคปีกซ้ายในจุฬา
พรรคจุฬา-ประชาชน พยายามส่งคนเข้าชิงตำแหน่งนายกสโมสรนิสิตจุฬาฯ (นายก สจม.) แต่ก็พ่ายแพ้แก่พรรคแนวคิดอนุรักษนิยม 2 ปีซ้อน
ปีการศึกษา 2519 “ภูมิธรรม-เกรียงกมล” ดันสุธรรม แสงปทุม นิสิตจุฬาฯ เป็นเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ศนท.) และพรรคจุฬา-ประชาชน ส่ง “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” เข้าชิงนายก สจม. คราวนี้ฝ่ายซ้ายจุฬาฯได้รับชัยชนะ
เอนกในฐานะนายก สจม. ได้นำนิสิตจุฬาฯ เข้าร่วมการชุมนุมต้านการกลับมาของจอมพลถนอมที่ธรรมศาสตร์ จนเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา
หลังรัฐประหาร เอนกและเพื่อนๆ เดินทางล่องใต้เข้าร่วมการต่อสู้ด้วยอาวุธในเขตเทือกเขาบรรทัด (พัทลุง ตรัง สตูล) ภายใต้ร่มธงพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ต่อจากนั้น เอนกขึ้นไปอยู่สำนัก 61 (สำนักผู้นำนักศึกษา) ภูพยัคฆ์ น่านเหนือ
ปี 2524 เอนกคืนสู่นาคร ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทางการศึกษาจากแพทย์ศาสตร์มาศึกษาด้านรัฐศาสตร์ ที่สหรัฐอเมริกา ก่อนจะกลับมาเป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและคณบดี คณะรัฐศาสตร์
อาจารย์เอนก กับลูกชาย และหลานสาว แห่งพรรค รปช.
++
คนรุ่นใหม่-คนรุ่นเก่า
++
จากเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 เอนกในบทบาทนักวิชาการมาโด่งดังจากงานวิชาการเรื่อง ‘สองนคราประชาธิปไตย’ ที่ว่า “คนต่างจังหวัดตั้งรัฐบาล คนกรุงเทพฯ ล้มรัฐบาล”
เมื่อปี 2561 เอนกให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อออนไลน์ The 101 World เกี่ยวกับการอธิบายสังคมไทยด้วยเรื่องคนรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ ว่า “ผมเองก็เคยเป็นคนรุ่นใหม่ครับ เคยเป็นเยาวชน และตระหนักเสมอว่าคนรุ่นใหม่สำคัญ ประเด็นสำคัญคือไม่มีใครผูกขาดความเป็นคนรุ่นใหม่ได้ คนรุ่นใหม่ไม่ได้เพิ่งมี มีมานานแล้ว”
อย่างไรก็ตาม อเนกยังมีความเชื่อว่า คนรุ่นเก่า-ใหม่ จะไม่หักโค่นกัน
“ในสยามหรือในไทยนั้น ประวัติศาสตร์มักจะเปลี่ยนแปลงแบบไม่หักโค่น คนสองรุ่น เก่า-ใหม่ มักไม่ห้ำหั่นกัน ตรงข้าม มักจะต่อรอง กดดัน พลาง แต่ก็ปรองดองไป เจรจาไปพลางด้วย หรือ บ่อยครั้งก็กลับมาปรองดอง รอมชอมกันได้เสมอ”
ความขัดแย้งระหว่างเก่า-ใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย รอต้อนรับรัฐมนตรีคนเดือนตุลาอยู่แล้วในนาทีนี้
นิ'บล อย่าลืมเข้าไปปรับปรุงระบบการศึกษา ให้เยาวชนปัจจุบันเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม จารีตประเพณี แบบไทยๆด้วย
12 ส.ค. 2563 เวลา 05.27 น.
Archangel Que ตอนไปอยู่เขาบรรทัด ท่านๆ จัดไปกี่ชีวิตแล้วครับ ได้ข่าวว่าตายกันเยอะ เสร็จแล้วก็ออกมาเป็นนักการเมือง รวยๆ กันทุกคน
12 ส.ค. 2563 เวลา 04.27 น.
บ่าง น่าจะบอกตรงๆเลยว่า
ในอดีตเป็นการทำ
"เพื่อตนเอง"หรือ"เพื่อชาติ"
..ไม่ต้อง"กั๊ก"..
12 ส.ค. 2563 เวลา 05.33 น.
Chumroen.. ภูมิหลังที่แท้จริงจะถูกเปิดออกมาทั้งบวกและลบ
12 ส.ค. 2563 เวลา 05.06 น.
khem อยากเป็นรัฐบาลจนตัวสั่น หลอกเด็กเพื่อให้ถึงจุดนั้น
12 ส.ค. 2563 เวลา 07.15 น.
ดูทั้งหมด