ความรักกับความทุกข์เป็นสิ่งมาพร้อมกันเสมอ ไม่งั้นคงไม่มีคำพูดที่ว่า “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์” แต่คนเราก็ยังพยายามที่จะมีความรัก และคาดหวังว่า “รัก” จะมีแต่สิ่งสวยงาม ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว “รัก” มักมาพร้อมกับความคาดหวัง ความทุกข์ และการยึดมั่น ถือมั่นที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งเพราะแบบนี้เองที่ทำให้ความรักไม่ได้สวยงามเสมอไป
“รัก” ตามแนวพุทธ รักยังไง
“รัก” ในทางโลกคือความห่วงใย เป็นอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับความเสน่หา และความผูกพันอย่างแรงกล้า แต่สำหรับทางธรรมแล้ว “รัก” คือความใจกว้างเห็นแก่ผู้อื่นจนไม่มีตัวตนเหลืออยู่ คือความทุกข์ ความร้าย ความทารุณ เพราะไม่ว่าใครก็อยากสมหวังในความรัก แต่ความรักไม่เคยให้ใครสมหวังเกินครึ่งของความต้องการ ยิ่งถ้าเป็นรักที่แฝงไปด้วยความเสน่หา ก็ยิ่งเป็นพิษ ทำให้ทุรนทุราย จะเป็นจะตายกับความรัก
แม้บางครั้งความรักจะทำให้มีความสุข แต่สุขที่เกิดขึ้นก็เป็นแบบฉาบฉวย ไม่ได้สวยงามยั่งยืน เพราะเมื่อยึดติดกับความรักมากเกินไป จิตใจก็จะสร้างความหวังขึ้นมา และทุกครั้งที่หวัง ความผิดหวังก็รออยู่ กลายเป็นความทุกข์มหาศาลภายหลัง
ดังนั้น ในทางธรรมจึงมักสอนว่าถ้าคิดจะรักก็ต้องรักให้เป็น รักอย่างมีสติเพื่อไม่ให้เป็นทุกข์มากเกินไป เตือนสติตัวเองตลอดเวลาว่าเมื่อมีความรักก็ย่อมต้องมีทุกข์และสุขปะปนกันไป เข้าใจและยอมรับให้ได้ถึงจะเรียกว่ารักเป็น
หลักการก็คือต้องใช้ความจริงเป็นที่ตั้ง คิดตามความเป็นจริง เข้าใจธรรมชาติของความรัก เพราะท้ายที่สุดพระพุทธศาสนาไม่ได้บอกว่าความรักไม่ดีหรือบอกว่าให้ทุกคนไม่ต้องมีความรัก เพียงแต่เตือนสติเท่านั้นว่า “เมื่อคิดจะรัก ก็ต้องทุกข์ให้เป็น”
เมื่อเลิกรัก ก็ต้องเลิกอย่างเข้าใจ
จะหักอื่น ขืนหัก ก็จักได้
หักอาลัย นี้ไม่หลุด สุดจะหัก
สารพัด ตัดขาด ประหลาดนัก
แต่ตัดรัก นี้ไม่ขาด ประหลาดใจ
-สุนทรภู่- (นิราศอิเหนา)
เพราะความรักเป็นเรื่องเข้าใจยาก ยิ่งเลิกรักยิ่งทำได้ยาก “สุนทรภู่” ถึงได้ประพันธ์นิราศอิเหนาที่ตัดรักไม่ขาดนี้ขึ้นมา และอย่างที่รู้กันว่า “รัก” ไม่จำเป็นต้องสมหวังและสวยงามตลอดเวลา บางครั้งมันก็ไม่ได้แฮปปี้เอ็นดิ้ง บางครั้งก็เจ็บปวด สูญเสียและเป็นทุกข์แทบเจียนตาย
นั่นก็เพราะเราไปยึดติด ยึดมั่น ถือมั่นกับความรักมากเกินไป จนกลายเป็นตัวการสร้างความทุกข์สารพัดอย่าง พระพุทธศาสนาถึงสอนว่าต้องรักให้เป็น “เมื่อคิดจะรัก ก็ต้องทุกข์ให้เป็น” ไม่คาดหวัง ไม่ยึดติด แม้จะรักแค่ไหนก็ต้องเรียนรู้และเผื่อใจว่าความสัมพันธ์อาจจบลงแบบไม่สวยงามได้ทุกเมื่อ
อย่าลืมว่าโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป มีแต่ความทุกข์ทั้งนั้น ขนาดต้นไม้ใหญ่ยังสั่นไหว นับประสาอะไรกับความรัก ก็ต้องมีสั่นคลอน เมื่อถึงเวลาที่ความรักจากไป เราจะจัดการอย่างไร จะเลือกจมอยู่กับทุกข์ไปแบบไม่รู้จบ หรือจะเลือกเข้าใจในธรรมชาติของกันและกัน เข้าใจทั้งตัวเขาและตัวเราว่าเมื่อเราไปยึดติดกับมัน สุดท้ายความรักก็เป็นได้แค่ความทุกข์ที่กัดกินตัวและใจของเรานั่นเอง
ไม่มีใครอยู่บนโลกนี้โดยปราศจากความรัก
และไม่มีใคร ไม่เคยเป็นทุกข์เพราะความรัก
แค่ต้องรักให้เป็น และเข้าใจความจริง
Ja-aE บทความดีๆ
23 ก.พ. 2561 เวลา 12.41 น.
shin จดจำแต่สิ่งดีๆ แล้วความรักจะมีแต่สุขครับ
23 ก.พ. 2561 เวลา 15.47 น.
ตุ๊กตา เป็นความจริงที่สุดของสัตว์โลก
23 ก.พ. 2561 เวลา 14.21 น.
สุดยอดค่ะ
23 ก.พ. 2561 เวลา 14.13 น.
QLER²³⁶² เรายึดติดกับคำว่ารักมากเกินไป :)
23 ก.พ. 2561 เวลา 13.41 น.
ดูทั้งหมด