วันนี้(12 พ.ย.62) หลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กับพวกรวม 4 ราย ประกอบด้วย นายบุญแทน บุษราคำ, นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ เดินทางเข้ามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับของ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีฆาตกรรมอำพราง นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย ที่หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา จนพบว่าถูกฆ่าเผายัดถังน้ำมัน 200 ลิตร ถ่วงน้ำอำพรางคดี
ล่าสุดหลังจากที่รับทราบข้อกล่าวหาแล้วพนักงานสอบสวนโดยพ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าว ได้รับตัวไว้และบันทึกการจับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา รวมทั้งพฤติการณ์แห่งการกระทำผิดให้ทราบตามกฎหมาย ทั้งนี้หลังจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ได้ใช้สิทธิ์ขอให้มีการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการสอบสวน ต่อคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเห็นว่า มีความจำเป็นที่จะต้องควบคุมตัวไว้ระหว่างการสอบสวนต่อไป จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อขอให้มีคำสั่งให้ควบคุมตัวระหว่างการสอบสวน
โดยระหว่างถูกควบคุมตัวมาขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นายชัยวัฒน์ ได้กล่าวสั้นๆว่า จะทำเรื่องขอประกันตัวต่อสู้ ขณะที่ผู้ต้องหารายอื่นๆไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนแต่อย่างใด
ด้านพ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้มีการแจ้งข้อหาไปที่เรียบร้อยแล้วซึ่งในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไม่ได้ใช้สิทธิ์ในการยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวพนักงานสอบสวนจึงมีเหตุจำเป็นที่จะต้องนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เบื้องต้นทั้ง 4 คนให้การปฏิเสธ
อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการลงพื้นที่ 5 จุดในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างการส่งผลการตรวจสอบมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ในขณะนี้
สำหรับข้อกล่าวหาของนายชัยวัฒน์และพวก ประกอบด้วย 6 ข้อหาหนัก ได้แก่ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นโดยใช้อาวุธ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายและมีอาวุธมาขู่เข็ญ ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธ ร่วมกันทุจริตอำพรางคดีโดยกระทำการแก่ศพให้ผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
นอกจากนี้ยังมีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 148, 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 123/1 และมาตรา 172 อันเป็นความผิดที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่ได้ไต่สวนพบมูลความผิดแล้วอีกด้วย
ซึ่งหลังจากนี้ผู้ต้องหามีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิ์ขอประกันตัวในชั้นศาลซึ่งเป็นดุลพินิจของศาลที่จะเป็นผู้อนุมัติ และทั้งหมดนี้เป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
DSI รุกคืบ! ค้นไร่”ชัยวัฒน์”หาซากรถ”บิลลี่”
เปิดเนื้อใน! หมายจับ”ชัยวัฒน์”ร่วมฆ่า”บิลลี่”ดีเอสไอ เตรียมล่าตัว
รู้จักตัวตน! “ชัยวัฒน์”บอกผมไม่ได้ฆ่า”บิลลี่”ลั่นตลอดชีวิตทำเพื่อแผ่นดิน
“ชัยวัฒน์” เปิดใจลั่น! พร้อมสู้คดีฆาตกรรม “บิลลี่” (คลิป)
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
ชาติชาย ไม่อำมหิตคงจะไม่กล้าเผายุ้งข้าวและบ้านเขาหรอก
12 พ.ย. 2562 เวลา 10.19 น.
คุณบิลลี่จะได้ไปสบายขอให้คนทำรับกรรม
12 พ.ย. 2562 เวลา 10.18 น.
Ing Chutiprapruet ดีเอสไอ.เอาให้หนักศาลก็จัดมันให้หนักนะคนร้ายใครตะบอกว่าผมฆ่าไอ้เหิ้ยปิดยังตัวเองมานาน
12 พ.ย. 2562 เวลา 10.04 น.
Tham กรรม ใด ใคร ก่อ.. กรรม นั้น ตาม ทัน
12 พ.ย. 2562 เวลา 10.02 น.
kai เค้าเป็นข้าราชการ ข่าวก็เห็นว่าเขาปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็ง แต่ทำกับเค้าเหมือนเป็นมหาโจร เกินไปหรือเปล่าครับ
12 พ.ย. 2562 เวลา 10.02 น.
ดูทั้งหมด