สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ค้านกระทรวงพาณิชย์นำค่าเวชภัณฑ์และค่าบริการทางการแพทย์เป็นสินค้าควบคุม แจง รพ.เอกชนเป็นบริการทางเลือก แนะประชาชนรักษาตามสิทธิ์ ด้านสนธิรัตน์ขอฟังข้อมูลทุกฝ่ายก่อนสรุปมาตรการบังคับใช้
นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน นพ.พงษ์พัฒน์ ปธานวนิช กล่าวว่า จากกรณีกรมการค้าภายใน เตรียมประกาศให้ค่ายา เวชภัณฑ์ และค่ารักษาพยาบาล รพ.เอกชน เป็นสินค้าควบคุมว่า เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในส่วนของค่ายาในโรงพยาบาลเอกชนที่แตกต่างจากร้านขายยา เพราะมีระบบการจัดเก็บที่ต้องอาศัยการควบคุมอุณหภูมิ คุณภาพ มีเภสัขกรดูแล จึงมีต้นทุนที่สูง
ซึ่งตามกฎหมายได้มีการกำหนดนิยามความหมายของยาและค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาลและประกาศของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2541 และล่าสุดที่ปรับในปี พ.ศ. 2561 โรงพยาบาลเอกชนได้ถือปฏิบัติมาโดยตลอด โดยในพระราชบัญญัติมีการกำหนดมาตรฐานทางบัญชีในรายละเอียดค่ารักษาพยาบาลไว้อย่างชัดเจน ทั้งเรื่องชนิดและประเภทการรักษาพยาบาล ยาและเวชภัณฑ์ การบริการทางการแพทย์ และการบริการอื่นๆ ของสถานพยาบาล และสิทธิของผู้ป่วย ดังนั้นค่ายาในโรงพยาบาลเอกชนจึงประกอบด้วยรายละเอียดมากมายไม่ใช่เป็นค่ายาเพียงอย่างเดียว ส่วนกรณีค่าแพทย์ที่มีการระบุว่าเป็นอัตราสูงนั้น เป็นการกำหนดโดยแพทยสภาทั้งสิ้น ไม่ได้ตั้งราคากันเอง
(กราฟฟิค) ทั้งนี้ คนไทยทุกคนสามารถรับการรักษาพยาบาลตามสิทธิ์ของตนเอง ทั้งสิทธิ์หลักประกันสุขภาพ สิทธิ์ประกันสังคม และสิทธิ์ข้าราชการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ รวมถึงในภาวะฉุกเฉินวิกฤตก็มีกฎหมายที่สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายภายในไม่เกิน 72 ชั่วโมง ซึ่งการรักษาพยาบาลตามสิทธิ ก็จะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่หากมารับการรักษาที่ รพ.ที่ไม่ใช่สิทธิการรักษาก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง เพราะฉะนั้นอยากให้ประชาชนเลือกรักษาพยาบาลตามกำลังทรัพทย์ เพราะ รพ.เอกชน เป็นหนึ่งในทางเลือกการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า รพ.ของรัฐ ตามต้นทุนที่สูง แต่ในขณะเดียวกันยังมีโรงพยาบาลเอกชนที่ร่วมรับดูแลผู้ป่วยในระบบหลักประกันสุขภาพและระบบประกันสังคม ซึ่งช่วยรับผิดชอบดูแลจนถึงที่สุดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ผลจากการสำรวจพบว่า 64.8% ของโรงพยาบาลและสถานพยาบาลเอกชนทั่วประเทศ เข้าร่วมในโครงการประกันสุขภาพ และอีก 35.2% ไม่ได้เข้าร่วม สำหรับประเภทประกันสุขภาพ พบว่ามีโรงพยาบาลและสถานพยาบาลเอกชน 62.7% ให้บริการในประเภทกองทุนเงินทดแทน ส่วน 60.4% ให้บริการในประเภทประกันสุขภาพเอกชน 55.5% ให้บริการในประเภทการประกันสังคม 32.9% ให้บริการในประเภทกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ และ 29.3% ให้บริการสำหรับโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
ทั้งนี้ ด้วยนโยบายของประเทศไทยที่จะให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ทำให้ชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามารับการรักษาในประเทศไทยจำนวนมาก โดยเหตุผลของชาวต่างชาติที่เข้ามารักษาในไทยคือค่ารักษาพยาบาลไม่แพง บุคลากรทางการแพทย์เป็นมิตรกับผู้ป่วย และความสามารถของแพทย์ไทยที่มีความเชี่ยวชาญหลายด้าน ประกอบกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย หากมีการกำกับค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนจะทำให้ไม่มีการลงทุนในด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมต่างๆ ที่ทันสมัย ทำให้ศักยภาพในการแข่งขันของประเทศลดลง
ในด้านผลการดำเนินกิจการปี 2559 พบว่า การดำเนินกิจการในโรงพยาบาลและสถานพยาบาลเอกชน ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในระบบเศรษฐกิจของประเทศถึง 99,427 ล้านบาท ซึ่งมาจากมูลค่ารายรับจากการดำเนินกิจการ 234,327.2 ล้านบาท หักด้วยค่าใช้จ่ายขั้นกลางในการดำเนินการ 134,900.2 ล้านบาท
ซึ่งในการประชุมด่วนร่วมกันระหว่าง รมว.พาณิชย์ รพ.เอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(11 ม.ค). ที่ประชุมก็ได้รับฟังข้อมูลจากทางสมาคมมากพอสมควร รวมถึงประเด็นที่ รพ.เอกชนต้องอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.สถานพยาบาล ซึ่งข้อกำหนดนั้นทำให้เกิดต้นทุนค่ารักษา ค่ายาเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ประชุมก็จะนำกลับไปพิจารณาถึงรายละเอียดเพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่มีผลกระทบมาก
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ระบุ กระทรวงฯยังคงยืนยันว่าจะเดินนหน้าดูแลค่ารักษาพยายาบาล ตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร. เห็นชอบให้นำค่าเวชภัณฑ์และค่าบริการรักษาพยาบาล เข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าและบริการควบคุม
แต่ก่อนจะนำเรื่องเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา จะขอรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย โดยอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดเพื่อประเมินผลกระทบทั้งหมด และจะหาข้อสรุปถึงมาตรการในการดูแล ยืนยันว่ามาตรการที่จะบังคับใช้ ทุกฝ่ายจะต้องเห็นพ้องร่วมกัน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
P'กานต์ ราคาแพง ก็คือ แพง ครับหมอ .... คนป่วยที่จ่ายเงิน ไปแต่ละโรงบาล ไปคลีนิค เขารู้ดีว่าราคาต่างกันมากครับ
16 ม.ค. 2562 เวลา 13.24 น.
จนแล้วยังงัยวะ... คนจนก้อยากจะรักษาโรงบาลที่ดีๆเหมือนกับพวกมึงนั่นแหละ.. คนจนก้อคน... หายใจเอาอากาสธาตุเหมือนพวกมึงนั่นแหละ... ไอ้พวกคนรวยถ้ารวยด้วยความซื่อสัตย์สุจริตกุขอให้พวกท่านโคตรๆรวยต่อไป... แต่ไอ้พวกรวยแบบที่ไปโกงกินคนอื่นเขาพวกที่โกงกินภาษีบ้านเมืองก้อขอสาบแช่งให้พวกมึงชิบหายไวๆพวกมึงจะได้รู้บ้างงัยว่า... ที่เค้าว่าจนมันเป็นยังงัย
16 ม.ค. 2562 เวลา 08.51 น.
S. แผนคืออยากแบ่งเบาภาระ รพ รัฐ
แล้วมันแฟร์ไหม
มันคือธุรกิจทางเลือก
สำหรับคนที่วางแผนชีวิต
ทำงานเก็บเงิน ซื้อประกันสุขภาพดีๆ
เพื่อไว้รักษา รพ เอกชน
ทุกรัฐบาลก็อยากเอาสวัสดิการไปปรนเปรอ
เพื่อสร้างคะแนนเสียง
กับคนอีกกลุ่มที่ใช้ชีวิตไปวันๆ
กินเหล้า เล่นหวย เล่นพนัน
ใช้ชีวิตเป็นขอทาน
15 ม.ค. 2562 เวลา 15.24 น.
ไม่มีศักยภาพในการสร้างโรงพยาบาลรัฐ ให้มาก และ คุณภาพการรักษาและบริการดีพอ
เลยคิดจะมาบีบคั้น รพ เอกชน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลทางเลือก และเป็นองค์กรที่ต้องแสวงหาผลกำไร
มันไม่ทุเรศไปหรอครับ ในเมื่อ รพ รัฐก็มีเป็นทางเลือกหลักๆ อยู่แล้ว
ไม่ยากหรอกครับ ถ้าบีบคั้นมาก ก็เบนเข็มไปสู่ธุรกิจอื่น
โรงแรม ที่พัก อพาร์ทเม้นท์หรูๆ ให้เช่า ล้วนแต่ทำกำไรดีไม่แพ้ รพ เอกชน หรืออาจจะทำได้มากกว่าด้วยซ้ำ
ทยอยกันยกเลิกธุรกิจประเภทนี้ กันจนไม่เหลือ
แล้วก็จะเหลือแต่ รพ รัฐ พวกที้ลำบาก ก็คือคนจน
15 ม.ค. 2562 เวลา 14.35 น.
Jew1565 รพ.เอกชน เป็นธุรกิจที่ทำกำไรมหาศาล ขูดรีดผู้ป่วยทุกขั้นตอน ควรมีกฎหมายควบคุมราคาทุกขั้นตอนและบังคับใช้ให้เข้มงวด เพื่อปชช.คนไทยทั้งประเทศ
15 ม.ค. 2562 เวลา 14.02 น.
ดูทั้งหมด