ที่ราชบุรีพบนาตึกอาคารสมัยเก่าสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2465 เป็นอดีตที่พักริมท่าน้ำ กลางสวนผลไม้ ใน ต.ท่าชุมพล อ.โพธาราม คาดเป็นชาวจีนใจบุญสร้างไว้ให้คนที่สัญจรผ่านไปมาได้พัก พบหลักฐานที่ผนังปูนเขียนเป็นภาษาจีนด้วยหนึกสีน้ำเงินดำ
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 61 นายประไพ อายุ 68 ปี และนางวันดี เกียรติดำ อายุ 71 ปี 2 สามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 6 ต.ท่าชุมพล อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้นำคณะของว่าที่ ร.ต.เสรี ศรวัฒนา และเพื่อนชมรมจักรยานโบราณเมืองฅนสวย จ.ราชบุรี เข้าไปชมอาคารเก่าเล็ก ๆ ที่เรียกกันว่า “นาตึก” เป็นอาคารสมัยโบราณสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2465 หรือ ประมาณ 96 ปีล่วงมาแล้ว อยู่ในพื้นที่ 11 ไร่ ที่ปัจจุบันให้คนเช่าปลูกผลไม้อยู่ริมคลอง สภาพอาคารปลูกสร้างเป็นลักษณะหินทรายฉาบหนา อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม หลังคาผุพังไปตามกาลเวลา คล้ายกับวิหารแกลบ ด้านข้างเป็นผนังทึบ มีซุ้มประตูเป็นวงโค้งเข้าออกได้ทั้งสองด้านหัวท้าย มีระเบียงนั่งทั้งสองด้านเป็นปูนสูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร ขนาบยาวไปกันตัวอาคารสำหรับไว้นั่งพัก ภายในมีต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ตรงกลางที่มีเศษไม้จากหลังคาคงเหลือให้เห็นอยู่ กำแพงปูนมีรอยแตกร้าว กรวดทรายเริ่มหลุดออกบางแห่งไม่อยู่ในสภาพคงเดิม บางแห่งมีตะไคร่จับเป็นจุด
ที่สำคัญมีอักษรเป็นภาษาจีนเขียนไว้บริเวณผนังด้วยหมึกสีน้ำเงินดำยังมองเห็นเด่นชัด แต่ยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่เก่งภาษามาแปลว่าเขียนว่าอย่างไร ทางด้านหน้าเดินลงท่าน้ำริมคลองมีเป็นขั้นบันไดปูนลักษณะทางขึ้นมาจากลำคลอง ปัจจุบันลำคลองมีกอหญ้าขึ้นรกมองไม่เห็นว่าเป็นลำคลอง ส่วนด้านบนหน้าหลังของอาคารลักษณะเป็นหน้าจั่วทั้งสองด้าน มีปี พ.ศ. 2465 ติดอยู่ ไม่ปรากฏชื่อผู้สร้าง ปลูกอยู่ท่ามกลางสวนลำไย มะพร้าว กล้วยที่กำลังเริ่มเจริญเติบโตมีน้ำอุดมสมบูรณ์
นางวันดี เกียรติดำ เจ้าของที่ดิน เล่าว่า ที่ตรงนี้เป็นที่เก่าแก่ของปู่ และยกให้ป้าเที่ยง ซึ่งเป็นพี่สาวพ่อของตนเอง ป้าเที่ยงไม่มีลูกจึงยกที่ดินให้ตนดูแล ต่อมาป้าเที่ยง เสียชีวิตไปเมื่อ 20 ปีก่อน ส่วนอาคารนี้เขาเรียนกันว่า “นาตึก” เห็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว ป้าเที่ยงเคยเล่าให้ฟังว่า มีคนชาวจีนใจบุญมาสร้างเป็นที่พักให้คนนั่งพักร้อนช่วงทำนา สมัยก่อนพื้นที่เตียนโล่งไปด้วยทุ่งนาข้าว พอเที่ยงจะมีชาวนาเดินขึ้นมานั่งพักกันที่นี่ ตรงข้ามอาคารจะมีสะพานไม้ข้ามคลองไปมาหาสู่กัน อีกทั้งสมัยก่อนลำคลองจะมีเรือวิ่งผ่านค้าขาย ส่วนสาเหตุที่สร้างลักษณะทึบไม่มีหน้าต่างเพราะจะไม่ทำให้ฝนตกสาดเปียก ด้านใน คาดว่าคนที่มาสร้างที่พักให้น่าจะเป็นคนจีน เพราะมีตัวหนังสือภาษาจีนใช้หมึกสีเขียนไว้ยังอ่านไม่ออก น่าจะเป็นคนใจบุญมาสร้างศาลาที่พักริมท่าน้ำให้ชาวนาได้หลบแดดฝน และไม่เคยเห็นพบเห็นที่ไหนมาก่อนน่าจะมีที่นี่แห่งเดียว คิดอยากอนุรักษ์ไว้
ว่าที่ ร.ต.เสรี ศรวัฒนา ประธานชมรมจักรยานโบราณเมืองฅนสวย จ.ราชบุรี เผยว่า ได้มีโอกาสมาเที่ยวชมนาตึกโบราณที่เก่าแก่มีอายุเกือบร้อยปี พร้อมกับเจ้าของที่ อนุญาตให้ซ่อมแซมนาตึกสภาพทรุดโทรม เพื่อไม่ให้เกิดรอยร้าวเสียหายไปมากกว่านี้ จะซ่อมแซมแค่ให้หยุดการแตกร้าวเพิ่ม พร้อมกับตัดต้นไม้ที่อยู่ด้านในศาลาออก และทำความสะอาดพื้นที่ข้างศาลา เพื่ออยากจะอนุรักษ์นาตึกเก่าโบราณแห่งนี้ให้คงสภาพสวยงาม แต่จะขอบอกกล่าวเจ้าของสถานที่ก่อน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่การทำงานปรับปรุงเรื่องนี้ให้เสร็จเรียบร้อย
นอกจากนี้ชมรมจักรยานโบราณเมืองฅนสวย จ.ราชบุรี ยังพาไปชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้านไม่ห่างจากนาตึกมากนั้น ซึ่งเป็นพื้นที่ของนายรัตนะ มุมเกตุ อายุ 66 ปี และนางกาญจนา มุมเกตุ สองสามีภรรยา มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ เป็นพระนอนเก่าแก่ขนาดใหญ่ยาวประมาณ 4 เมตร ประดิษฐานอยู่หน้าบ้าน ตามประวัติเล่าสืบต่อกันมานาน มีอายุนับร้อยปี ลักษณะสร้างด้วยปูนปั้นแบบโบราณหันเศียรไปทิศตะวันออกสภาพเก่ามีร่องรอยของการแตกร้าวบริเวณองค์พระ ด้านหลังพระมีลักษณะเป็นเสาปูนปั่นสี่เหลี่ยมคางหมูมีผ้าสีผูก ด้านหน้ามีเชิงเทียน และกระถางธูปสำหรับให้คนกราบไหว้สักการะบูชาขอพร
นายรัตนะ มุมเกตุ อายุ 66 ปี เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า สมัยก่อนที่ตรงนี้เป็นโรงทานปลูกสร้างด้วยสังกะสี มีชาวบ้านทำมาค้าขายกันทางเรือและจะมาขึ้นที่ท่าแถวนี้เยอะมาก เวลามีงานประเพณีหาดทรายโพธาราม ก็จะมีการตั้งขบวนเริ่มแห่จากที่นี่ขึ้นไปถึงที่จัดงาน ส่วนพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่ประดิษฐานอยู่หน้าบ้านตนเองนั้น ได้ก่อสร้างมานานตั้งแต่สมัยก๋งของตนเองยังมีชีวิตอยู่ คาดว่าน่าจะมีอายุประมาณกว่า 100 ปี ไม่ทราบขนาดที่แน่ชัด ฐานก่อสร้างด้วยศิลาแลง ก่อนหน้านี้เคยมีขโมยมาทุบบริเวณปลายเท้าพระเพื่อจะค้นหาสมบัติ จึงได้ซ่อมแซมองค์พระบริเวณนั้นใหม่ ส่วนความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปองค์นี้มีการเล่ากันว่ามีรถรับจ้างมาส่งคน แต่พอเวลาจะขับรถกลับหลงกลับไม่ถูก สมัยก่อนทางยังไม่เจริญเหมือนสมัยนี้ จึงต้องมาบนบานศาลกล่าวถึงจะออกไปได้ พระพุทธรูปปางไสยาสน์ เล่ากันว่า มีอดีตพระชาวยวนเป็นผู้สร้างขึ้นในสมัยโบราณไม่ทราบการสร้างแน่ชัด จึงเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “หลวงพ่อยวน” มีคนมากราบไหว้ขอพร ให้พระพุทธรูปปางไสยาสน์คุ้มครองปกปักรักษาแคล้วคลาดปลอดภัย หรือจะบนบานศาลกล่าวอะไรก็มักจะสัมฤทธิ์ผล จึงเป็นที่กราบไหว้ของคนใน ต.ท่าชุมพล อ.โพธาราม ตลอดมา
สันต์ ถ้าเป็นตัวหนังสือที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนหรือไม่มีในโลกนี้แสดงว่ามนุษย์ต่างดาวสร้าง
17 ธ.ค. 2561 เวลา 04.28 น.
Phatphoom😎 ถ้าลายมือปูตรู ปูตรูคนสร้าง😂
17 ธ.ค. 2561 เวลา 02.27 น.
MINNIE monty ถ้ามีภาพวาดรุปมือแสดงว่ามานุดยุคหินสร้าง
17 ธ.ค. 2561 เวลา 01.54 น.
กะเพา นึกถึงข่าวใน มาเล เจอ โบรานสถาน ของศาสนาพุทธ ทุบ เละเลย ไปหาอ่านดู น่จะยังมีอยู่ แต่เมืองไทยไม่ว่าไรใจดีๆ
16 ธ.ค. 2561 เวลา 22.24 น.
ถ้ามีตัวหนังสือลาว ก็คือคนลาวสร้าง
16 ธ.ค. 2561 เวลา 19.59 น.
ดูทั้งหมด