บันเทิง

ช้ำหนักน้ำตาทะลัก "ชาคริต-แอน" เคลียร์ประเด็นรักเพราะท้องจึงจำต้องแต่ง ?

new18
อัพเดต 01 เม.ย. 2563 เวลา 08.59 น. • เผยแพร่ 01 เม.ย. 2563 เวลา 04.00 น. • new18
“ชาคริต-แอน” ย้อนเล่าดราม่าน้ำตาหลั่งริน เมื่อครั้งประกาศแต่งงาน เจอจัดหนักถึงขั้นเครียด … !?

กว่ารักจะลงตัวเสียน้ำตาไปแล้วเท่าไร “ชาคริต-แอน” ย้อนเล่าดราม่าน้ำตาหลั่งริน เมื่อครั้งประกาศแต่งงาน เจอจัดหนักถึงขั้นเครียด … !?

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

"ชาคริต แย้มนาม" อดีตฉายาพระเอกไม้เลื้อย ที่วันนี้ควงภรรยา"แอน ภัททิรา" ได้เปิดเผยชีวิตครอบครัวอันแสนอบอุ่น พร้อมเคลียร์กระแสดราม่าหลังประกาศแต่งงาน ในรายการ คุยแซ่บShow ที่ออกอากาศทางช่องone31 ซึ่งทั้งสองได้เล่าว่า
โดนผลกระทบเยอะไหม ?
ชาคริต : ไม่นะครับ เราเอง พอเรารู้เรื่อง เราก็ติดตามข่าวตั้งแต่มันเกิดที่เมืองนอก พอเริ่มมาที่บ้านเรา ก็เข้าใจว่าควรอยู่ที่บ้านให้มากที่สุด ถ้าไม่จำเป็น ถ้าคุณไม่ได้มีหน้าที่อะไรอย่าออกมา เพื่อเซฟตัวเอง และด้วยความที่เราสองคนลูกยังเล็กมากมันก็วิตกจริตอยู่ตลอดอยู่แล้ว อย่างแอนเขาทำโฮมออฟฟิศอยู่แล้ว ส่วนของผมยังอยู่ในวงการบันเทิงที่ออกไปต้องเจอคนร้อยพ่อพันแม่ ช่วงแรกกล้บไปบ้านแล้วมองหน้าลูกน้ำตาจะไหล คือเราเจอคนเยอะมาก เราจะแตะตังค์เขาได้ไหม คือเราเองก็ไม่รู้ว่ายังไง จนมันเริ่มเป็นไรวะหายใจไม่ออก แน่น จนไปโรงพยาบาล สุดท้ายเป็นกรดไหลย้อน คือเครียดจนเป็นกรดไหลย้อน ผมอยู่บ้านวัดไข้ตัวเองวันละ 3-4 รอบ
แอน : ใช่ค่ะ ทั้งบ้าน คือต้องซื้อปรอทให้ทุกคน พนักงาน แม่บ้าน คนรถ คนละอันแล้วเขียนในกรุ๊ปบอกว่าให้ส่งอุณหภูมิของแต่ละคนทุก 4 ชม. เข้ามา

อัพเดตชีวิตหน่อย เป็นครอบครัวมากี่ปีแล้ว ?
ชาคริด : เกือบ 3 ปีแล้ว มีความสุขมาก มันเรียบง่าย ได้อยู่กับธรรมชาติ ทำงานเสร็จก็กลับไปทำสวนที่จันทบุรี
เหมือนที่เราฝันไว้ไหม ?
ชาคริต : ผมค่อนข้างมองชีวิตเป็นอะไรที่เรียบง่ายอยู่แล้ว ด้วยสายงานที่วุ่นวายอยู่แล้ว การที่เราทำงานตื่นมาแล้วต้องไปเป็นใครก็ไม่รู้ในเรื่องของการแสดง พอเรากลับมาบ้านก็อยากจะอยู่บ้านให้แบบเรียบง่ายที่สุด เพราะจริงๆ แล้วผมเป็นคนยังไงก็ได้ สบายๆ
แอนคิดไหมว่าชีวิตแต่งงานจะเป็นแบบนี้ ?
แอน : เกินกว่าสิ่งที่คิดไว้ ก็ต้องขอบคุณพี่เขาที่ทำให้รู้สึกว่าชีวิตมันมีคุณค่ามากขึ้น เขาสอนให้เรารู้จักว่าความรักคืออะไร สอนให้เรารู้จักว่าการมีคุณค่าในแต่ละวันมันคืออะไร เมื่อก่อนเป็นคนห้าวๆ อยากไปไหนก็ไป แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกอยากกลับบ้าน รู้สึกว่าเขาเติมเต็มจนเกิน รู้สึกว่าการกลับมาอยู่บ้าน การมีความรักในครอบครับ มันเป็นสิ่งที่วิเศษมากๆ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ครอบครัวนี้สมบูรณ์แบบเพราะว่ามีลูกแล้ว ?
ชาคริต : ใช่ น้องโพธิ์จะครบ 2 ขวบปลายเดือนเมษายนนี้ครับ
น้องโพธิ์เวลาอยู่ที่บ้านดื้อไหม ?
ชาคริต : ไม่มีความดื้อ แค่ซนมาก
พ่อแม่ดุไหม ?
ชาคริต : ผมไม่ดุ
แอน : นิดนึงค่ะ ต้องสอนเขา บางทีต้องใช้เสียงเข้าข่มบ้าง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่กว่าจะมาถึงตรงนี้ต้องผ่านขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ที่ต้องฝ่าฟันต่างๆ นานา โดยเฉพาะคุณแอน มีคอมเมนต์ต่างๆ ว่าไม่เหมาะสม ไม่สวย กระแสตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง ?
แอน : ค่อนข้างแรงมากด้วยค่ะ อย่างเรื่องงานแต่งงาน เราก็มีการเตรียมมาพอสมควร เพียงแค่เราไม่ได้บอกใคร เพราะเราอยากแต่งกันเงียบๆ แต่ว่าก็จะมีผู้หลัก ผู้ใหญ่ที่เราเชิญ หรือว่าเพื่อนฝูงที่เราเชิญ เขารู้ว่าต้องมางานวันนี้ แต่พอวันที่ข่าวออกมันใกล้กับวันที่แต่งเต็มที่แล้ว เราก็เลยช็อก แล้วมันก็โดนกระแสค่อนข้างแรงมาก
อะไรบ้างที่แรงที่สุด ที่เราจำจนถึงวันนี้ ?
แอน : ที่แรงสุดๆ คงจะด่าครอบครัวว่าเลี้ยงลูกมายังไงให้จับผู้ชายแล้วท้อง มันจี๊ดนะคะ ค่อนข้างจะรู้สึกว่าไม่ได้รู้จักเรา แต่ตัดสินเราด้วยอะไร ซึ่งเราก็คุยกันตลอด สิ่งที่มันทำให้เราผ่านมาได้ก็คือตัวเขาด้วย ตัวครอบครัวด้วย

เคยร้องไห้กับชาคริตไหม ?
แอน : หูย….ร้อง
ชาคริต : ร้องครับ ก็เสียใจว่าเขาทำอะไรผิด ผมก็บอกขอโทษเขาไป สิ่งที่เราไม่ได้บอกใครตอนนั้นเพราะว่าเราเองก็อยากมีชีวิตเหมือนคนทั่วไป ซึ่งผมพูดหลายครั้งแล้วล่ะ เพราะเรารู้ว่ามันจะเป็นยังไง ถ้าเกิดคนเริ่มเข้ามามีความอยากรู้ อยากสนใจ เพราะด้วยความที่เป็นตัวเราเอง สิ่งที่ผมกลัวที่สุดที่ทำให้อยู่กันไม่ได้ ก็คืออาจจะเป็นไปกระทบกับครอบครัวเขาหรือเปล่า ที่แบบภายใน 3 ชม. ภายในข้ามคืนทุกคนมาสนใจ เขาจะช็อกหรือเปล่า เพราะเขาใช้ชีวิตปกติมาตลอด นั่นคือสิ่งที่เราเป็นห่วงมากกว่า มันจะทำให้เรากับเขาจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน เราโทษที่ตัวเรามากกว่า ซึ่งอาชีพนักแสดง แต่ว่าบางทีมันมาพร้อมกับสื่อสังคมอะไรอย่างนี้มันมาเป็นของคู่กัน ซึ่งตรงนี้มันต้องใช้ระยะเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์กว่าที่คนจะเริ่มเข้าใจ แต่กว่าจะถึงวันนั้นผมกลัวว่าเขาจะอยู่กับเราไม่ไหว มันก็เลยกลายเป็นเครื่องพิสูจน์ ไม่ได้พิสูจน์เราเองกับสังคมแต่ว่าเป็นเป็นการพิสูจน์เราสองคนเองด้วยซ้ำว่าเรารักกันจริงหรือเปล่า เราอยู่ด้วยกันได้ไหม ทุกวันนี้มันก็เป็นบทสรุปที่ออกมา ผมว่ามันเป็นสิ่งที่สวยงาม ก็ดีใจที่ทุกคนเข้าใจ และทุกวันนี้ประเด็นพวกนี้ก็หายไปแล้ว

กับคำถามที่ว่าถ้าไม่ท้องก็ไม่แต่ง ?
แอน : วันนั่นที่เกิดเหตุการณ์ พี่คริตก็มาขอโทษที่ทำให้เราต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ แต่ถามว่าไม่ท้องก็ไม่แต่ง คือจริงๆ เราสองคนมีการคุยกันไว้นานมากแล้ว ตั้งแต่พอเริ่มคบกัน เราบอกว่าเราจะไม่เสียเวลากับการคบกัน ถ้าเราคบ เราจริงจัง เรามีลูกเลยนะ เราคุยกันแบบนี้เลย ชัดเจน
ชาคริต : ไม่ได้คิดว่าจะจัดงานแต่งงานเลยด้วยซ้ำ คือผมเองก็เคยผ่านชีวิตการมีคู่ ซึ่งตั้งแต่แฟนมามีคู่แล้วมันก็ไม่ประสบความสำเร็จ มันก็เลยทำให้มุมมองชีวิตเป็นอีกแบบหนึ่งกับที่ผมรู้สึกว่า…เห้ย..โฟกัสที่ตัวเราดีกว่าอย่าไปโฟกัสในวงกว้าง มีความสุขแค่ไหน ยังไง เราอยากเป็นแบบไหน เราก็เป็นอย่างนั้น บางคนแต่งงานอาจจะไม่อยากมีลูกก็ได้ แต่การที่เรามีลูก เราอยากมีลูกไม่ใช่ว่าเราต้องแต่งหรือเปล่า แต่สุดท้ายมันเหมือนจัดงานเลี้ยง เพื่อให้เพื่อนๆ ผู้ใหญ่มารับรู้ เพื่อให้เกียรติกับทางครอบครัวเขา กับทางฝั่งของผมอีกทีหนึ่ง เพื่อที่ให้เขามาเจอมารู้จักกัน

ตกลงคุณแพลนว่าจะมีลูกคนที่ 2 ?
ชาคริต : แพลนว่าจะมี แล้วยังยืนยันว่าอยากมีแน่นอน
แต่มีข้อแม้ ?
แอน : ก็คือมันจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่แพลนว่าจะมี แต่เขาเป็นคนที่ทำงานหนักตลอดเวลา แล้วเขาบอกว่าอยากมีลูกผู้หญิง ตัวเราก็อยากมีลูกผู้หญิงทีนี้จะทำยังไง เคยคุยถึงขั้นทะเลาะกันว่าไปปรึกษาคุณหมอ ทำเลยไหม เขาบอกว่าไม่เธอไม่ต้องมาคุยกับฉันเรื่องนี้อีกนะ ยังไงฉันก็จะธรรมชาติ เราก็เลยตัดสินใจโหลดแอพฯ เห็นทุกคนบอกว่ามีแอพฯ เราก็เลยโหลดดูว่าวันไหนยังไง วันไหนได้ผู้หญิง วันไหนได้ผู้ชาย แต่ทุกครั้งแบบ ตัวเองๆ วันนี้ไข่ตก มันก็กลายเป็นว่าแทนที่เราจะสวีตหวาน มันกลายเป็นหัวเราะ แล้วก็เฟลกันไป
ชาคริต : กลับมาบ้าน ทำงานเสร็จ เหนื่อยก็เหนื่อย สักพักมาละ ตัวเองๆ วันนี้ไข่ตก ผมบอก…โอ๊ย มันกลายเป็นเหมือนข้อบังคับยังไงก็ไม่รู้ มันกลายเป็นหน้าที่มาก คือผมแค่ยังรู้สึกว่าให้ถึงที่สุดจริงๆ ก่อนว่าเราไม่มีความสามารถทำให้ติดโดยธรรมชาติแล้วตรงนั้นเราถึงค่อยไปปรึกษาหมอ ผมมีความเชื่อว่าพอถึงจุดหนึ่งไม่ว่าจะธรรมชาติหรือไม่ธรรมชาติมันอาจจะเป็นช่วงจังหวะ เหมือนตอนที่โพธิ์มา ผมเชื่อว่าเขาส่งสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ เราก็เลยยังเชื่อว่าพอถึงเวลาเดี๋ยวเขาก็มาเอง เราก็จะได้ลูกอีกหนึ่งคนที่ดีที่สุด

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 60
  • คนเราถ้าหากไม่มีวาสนาต่อกัน ผ่านเข้ามา&ก็จะผ่านไป หากอดีตชาติเคยทำบุญร่วมกันมา ต่อให้มีความแตกต่างเชื้อชาติ อยู่คนละมุมโลกยังงัยก็ยังต้องโคจรมาเจอกันอยู่ดี น้องโพธิ์น่ารัก
    02 เม.ย. 2563 เวลา 02.23 น.
  • Ople
    เรื่องธรรมดาไม่แปลก ถ้าแปลกคือพวกแต่งแล้วไม่ยอมท้อง
    02 เม.ย. 2563 เวลา 02.10 น.
  • ตัวเล็ก
    มันก็จริงนั่นแหล่ะ ถ้าไม่ท้องคงไม่แต่ง ไม่เชื่อหรอกที่ว่าเตรียมงานมานาน ตรงนี้ต้องยอมรับ อย่าโกหก ก็เหมือนศรรามนั่นแหล่ะ แต่ก็นับถือ ผช ทั้ง2 คน นี้นะ มีความรับผิดชอบ ขอให้มีความสุขจ้า
    02 เม.ย. 2563 เวลา 01.51 น.
  • เราว่าคุณแอนสวยกว่าวุ้นเส้นอีก แบบธรรมชาตินะ ที่สำคัญเธอไม่แรด
    02 เม.ย. 2563 เวลา 01.41 น.
  • thapepuksa (Thap)
    แอนและชาคริต. เหมาะสมกันดี. มีลูกน้องโพธิ์. ติดตามคลิป. บักโพธิ์. แม่แอน. อารมณ์ดี. สนุกสนาน. ธรรมชาติ. ตลก. ไม่หยิ่ง. ขนาดครัวครัว. แอน มีเงิน. แต่ไม่เวอร์. มีเงิน. มีสวนมีทุกอย่างเหมือน. คนทั่วไปต้นทุนคนต่างคนไม่มี. คําพูด. แง่ลบ. แค่ไม่ดี. ทุกคน. พูดได้. สังคม. มีคนรัก. สังคมมีคนเกลียด เป็นธรรมดา. ทุกคน. ถ้า. ปล่อยวาง. คิดแง่บวก. ไม่กล่าวว่าร้ายคนอื่น. ปัญหาทุกอย่างก็ไม่เกิด. เราสิ่งที่พูดเป็น. พลังเป็นแรงผลัดดันตัว. ครอบครัวแย้มนาม. ขอเป็นกําลังใจให้หนึ่งครอบครัว/ นามสกุล ไตรธรรม
    02 เม.ย. 2563 เวลา 01.34 น.
ดูทั้งหมด