OCCRP - องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร(NGO) แห่งหนึ่ง ในวันอังคาร(22ม.ค.) คาดหมายว่าสหภาพยุโรป(อียู) จะเผยแพร่รายงานในวันพุธ(23ม.ค.) เรียกร้องรัฐสมาชิกเพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมโครงการวีซ่าทอง(Golden Visa) ในแต่ละชาติ โดยเตือนว่าโครงการนี้ได้ถูกฉวยประโยชน์โดยบุคคลหรือองค์กรอาชญากรรมต่างๆ สำหรับการฟอกเงิน, คอรัปชันและเลี่ยงภาษี
The Organized Crime and Corruption Reporting Project (OCCRP) องค์กรสื่อมวลชนที่ไม่แสวงหาผลกำไรต่อต้านคอรัปชัน คาดหมายว่ารายงานดังกล่าวของอียูจะมอบคำแนะนำแก่รัฐสมาชิกในการวางกฎระเบียบโครงการดังกล่าวที่อนุญาตให้เศรษฐีกระเป๋าหนักซื้อถิ่นที่อยู่อาศัยหรือความเป็นพลเมืองแลกกับการลงทุน
ก่อนมีการเปิดเผยรายงานดังกล่าว บัลแกเรียในวันอังคาร(22ม.ค.) แถลงเปิดตัวร่างกฎหมายใหม่ที่จะหยุดขายสัญชาติแก่นักลงทุนต่างชาติ หลัง OCCRP เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับผลกระทบทางลบของโครงการนี้เมื่อปีที่แล้ว
รัฐสมาชิก 20 ชาติในนั้นรวมถึงสหราชอาณาจักร, ไอร์แลนด์และสเปน ต่างขายใบอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ ส่วนมอลตา, ไซปรัส และบัลแกเรีย ปัจจุบันก็มีโครงการซื้อขายสัญชาติ
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส อ้างเนื้อหาของรายงานฉบับร่างระบุว่าโครงการมอบสิทธิพลเมืองและถิ่นที่อยู่แก่นักลงทุน "ได้ก่อความเสี่ยงต่างๆนานาแก่รัฐสมาชิก และแก่สหภาพยุโรปทั้งมวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงด้านความมั่นคง ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการแทรกซึมเข้ามาขององค์กรอาชญากรรมนอกอียู เช่นเดียวกับความเสี่ยงของการฟอกเงิน, คอรัปชันและเลี่ยงภาษี"
รายงานดังกล่าวคือผลการตรวจสอบเบื้องต้นของคณะกรรมาธิการอียูต่อโครงการนี้ ซึ่งพวกเขาพบข้อกังวลจำนวนมาก ในนั้นรวมถึงมาตรฐานการตรวจสอบด้านความมั่นคงและภูมิหลังของผู้ยื่นคำร้อง รวมถึงบ่อเกิดแห่งความร่ำรวยของคนเหล่านั้น
การมอบวีซ่าทองแก่บุคคลและองค์กรต่างๆซึ่งเป็นที่สงสัยเคยถูกทาง OCCRP เปิดโปงมาแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยกตัวอย่างเช่นกรณี ไซปรัส ทำงานมหาศาลจากการมอบสิทธิพลเมืองแก่นักลงทุนต่างชาติ 1,685 คนนับตั้งแต่ปี 2008 หลายคนมาจากประเทศอดีตสหภาพโซเวียต, จีน,อิหร่าน และซาอุดีอาระเบีย ในนั้นรวมถึง โอเล็ก เดริปาสกา มหาเศรษฐีชาวรัสเซียผู้มีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน
OCCRP ระบุว่ามอนเตเนโกรก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งหลบภัยของมหาเศรษฐีกระเป๋าหนัก ได้มอบสิทธิ์พำนักอาศัยแก่บุคคลต่างๆ ในนั้นรวมถึง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ผู้ถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานคอรัปชัน หลังหลบหนีออกนอกประเทศในปี 2008 และ โมฮัมเหม็ด ดาห์ลาน อดีตนายกรัฐมนตรีปาเลสไตน์ ซึ่งถูกกล่าวหาฉ้อโกงเงินหลวง
ข้อมูลเมื่อเร็วๆนี้จากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติและโกลบอล วิทเนส พบว่าตลอดช่วง 10 ปีหลังสุด รัฐต่างๆของอียูทำเงินจากโครงการวีซ่าทองเกือบ 29,000 ล้านดอลลาร์ โดยสหราชอาณาจักร, สเปนและโปรตุเกส อยู่ที่ลำดับต้นๆของผู้โกยรายได้สูงสุดจากโครงการนี้ ด้วยพวกเขาแต่ละชาติทำการขายวีซ่าแก่บุคคลต่างๆมากกว่า 10,000 ราย
ⒶⓇⓉ peerapol กินหัวคิวจากคนโกงอีกต่อ ไม่ต้องลงทุนเลย
23 ม.ค. 2562 เวลา 07.19 น.
KAI ความจริงก็คือความจริง เงินตัวเดียว
23 ม.ค. 2562 เวลา 07.15 น.
สาธิต โสมพงษ์ แหล่งข่าวนี้ไม่เคยทำให้คนปลองดองกันเลยนอกจากเสี้ยมให้แตกแยก
23 ม.ค. 2562 เวลา 07.06 น.
n0ng ก็เพราะโกงไปไหนคนก็รังเกียจสามพี่น้องสังคมรังเกียจแล้วไทยจะเอามาทําไหมอย่าเลือกลูกน้องเด็ดขาดหยุดเขาให้ได้เลือกครั้งนี้ให้เป็นบทเรียนคนไทยต้องรักกันไ่ม่มีใครทําอะไรได้
23 ม.ค. 2562 เวลา 06.37 น.
ชัยณรงค์ โดนรังแกอีกแล้ว
23 ม.ค. 2562 เวลา 06.29 น.
ดูทั้งหมด