ทั่วไป

เสียงสะอื้น จากเจ้าของอาบอบนวด ในวันที่ถูกสั่งปิด เเต่ต้องแบกรายจ่ายหลักล้าน

อีจัน
อัพเดต 21 ม.ค. 2564 เวลา 12.56 น. • เผยแพร่ 21 ม.ค. 2564 เวลา 10.38 น. • อีจัน
ตั้งเเต่มีโควิดเข้ามาย่ำกรายชีวิต&#3588…

ตั้งเเต่มีโควิดเข้ามาย่ำกรายชีวิตคนไทย ไม่ว่าจะสาขาอาชีพไดก็คงปฎิเสธไม่ได้ว่า โควิดเข้ามาทำชีวิตพวกเขาเปลี่ยนไปทางที่เเย่ลง!
แม้กระทั่ง อาบอบนวด ธุรกิจสีเทา ที่ใครๆขนานนามให้เขา ก็ไม่พ้น เพราะธุรกิจนี้โดนสั่งปิดเป็นกลุ่มเเรกๆ เรียกได้ว่าเจ็บแบบจังๆ
แน่นอนเมื่อพวกเขาต่างประสบปัญหาที่ทำให้ชีวิตสาหัส จันก็เข้าไปสอบถามความทุกข์พวกเขาทันที เเละได้พูดคุยกับ พี่เบน เจ้าของกิจการอาบอบนวดชื่อดัง ย่านรัชดา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทันทีที่จันเข้าถึง อาบอบนวด สถานที่สราญรมย์ของใครหลายๆคน วันนี้เงียบฉี่ นี่หรือสถานบันเทิงชื่อดัง ที่หนุ่มๆใฝ่หา
วันนี้มีเพียงพนักงานไม่มีคนที่นั่งอยู่ จันตรงปรี่ถามพนักงาน ถามหาเจ้าของเพื่อพูดคุย พนักงานชี้ไปที่เจ้าของ พร้อมกับบอกว่าเขากำลังปิ้งหมูสะเต๊ะอยู่ด้านหน้าร้าน
จันจึงไม่รอช้า รีบตรงไปหาเจ้าของร้านทันที เเละได้พูดคุยกับ พี่เบน ซึ่งเป็นเจ้าของอาบอบนวดที่นี่ เเละทราบว่า
อาบอบนวด ถูกสั่งให้ปิดไปตั้งเเต่ วันที่ 29 ธ.ค.2563 เเละเรื่อยมา จนไม่มีวี่เเววว่าจะเปิด อาบอบนวดเเห่งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเเห่งที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนชอบความเริงรมย์ทั้งไทยเเละต่างชาติ ในร้านมีพนักงานเกือบ 200 ชีวิต เเต่เมื่อมาเจอพิษโควิด ธุรกิจที่เคยมีรายได้สะพัดหลักล้านต่อเดือน กลับตาลปัตร ไม่มีรายรับสักบาทเดียว พนักงานในร้านเคว้งหาทางไปต่อไม่ถูก

จากรายได้หลักล้าน ตอนนี้ต้องพยุงค่าใช้จ่ายเเละค่าเยียวยาพนักงานหลักล้านเช่นกัน พี่เบน เข้าของร้านร่ายยาวบอกความรู้สึกกับจันว่า
"อาบอบนวด เป็นธุรกิจที่เจ็บจังๆจากโควิด แม้ไม่มีใครติดเชื้อจากอาบอบนวด เเต่เราเข้าใจเพราะมันเป็นสถานบันเทิง วันนี้ถามว่าสาหัสไหม มันสาหัสมานานเเล้ว ตั้งเเต่รอบเเรก เพราะฐานลูกค้าของเราเป็นคนต่างชาติ เเต่พอไม่มีลูกค้าต่างชาติ ทุกอย่างกลายเป็นศูนย์ พอมาเปิดหลังรอบเเรกซา ก็ต้องอาศัยลูกค้าคนไทย เเต่ก็ไม่ค่อยมีใครกล้าเที่ยว เพราะเงินไม่มี เเถมคนยังกลัวติดโควิด พอมาเจอรอบนี้อีกเจ็บหนักกว่าเก่า ตอนนี้พนักงานทยอยกลับบ้าน เพราะไม่มีเงินดำเนินชีวิต บางคนก็อยู่กรุงเทพฯ เเต่ถูกยึดห้อง ไม่มีค่าเช่า ก็ให้มาอาศัยที่ร้านอยู่ ให้ช่วยเเค่ค่าน้ำค่าไฟ ไม่เก็บค่าเช่าเขา ตอนนี้เกือบ 10 ชีวิตเเล้วที่มาขออยู่ เเละน่าจะมีมาอีกเรื่อยๆ ถ้าผมมีเงินผมก็พอช่วยไปบ้าง ค่าอยู่เขา ค่าส่งให้ทางบ้าน เเต่เราก็ต้องกันเงินไว้ใช้จ่ายตัวเองบ้าง เพราะค่าเช่าเเต่ละเดือนก็หลักล้านเหมือนกัน"

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ซึ่งตอนนี้พี่เบน ก็หันมาขายหมูสะเต๊ะ ได้กำไรวันละ 1,000-2,000 บาท ก็พอเป็นค่าอาหารเป็นค่าช่วยเหลือลูกน้องบ้าง ให้ลูกน้องเข็นไปขาย ตัวเองก็เป็นทุนให้เตรียมของไปขายให้ จันจึงถามต่อว่าหากเป็นแบบนี้
เราต้องจ่ายค่าเช่าไปแบบนี้ทุกเดือน มองอนาคตว่ายังไงบ้าง
คำตอบที่สุดเจ็บปวดก็คือ
"ถ้าผมหมดมันก็คงต้องยอมรับชะตากรรมเเหละ จะต้องขอทานเพื่อให้มีชีวิตรอดผมก็ต้องทำ"

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทำให้จันรู้ว่าไม่ว่าจะอาชีพไหนตอนนี้ต่างสาหัส เเละเจ็บไม่เเพ้กัน สิ่งที่ทุกคนทำได้ตอนนี้คือ ภาวนาให้วิกฤตมันกลับมาเป็นปกติสุขที่สุด เพราะกำลังที่ใช้สู้มันเริ่มถดถอยลงเรื่อยๆเเล้ว

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 9
  • sawitree
    ทำนาบนหลังคนเสวยสุขมานานแล้ว ไม่น่าเห็นใจหรอกหักเค้ารอบละตั้งครึ่งนึงของรายได้ นั่งกระดิกตรีนเฉยๆไม่ต้องทำไร จ่ายส่วยอย่างเดียว กำไรดีมากรายรับเดือนนึงตั้งเท่าไรชูวิทรู้ดี ลองไปถามสิ
    21 ม.ค. 2564 เวลา 11.15 น.
  • จะโอดทำเข้ไร นึกถึงตอนกอบโกยละครับ
    21 ม.ค. 2564 เวลา 12.26 น.
  • P’ BOb
    น้องๆเขามารับอิสระทางไลน์แล้วเดี๋ยวนี้ได้80%
    21 ม.ค. 2564 เวลา 12.46 น.
  • น้องอ่อนหวาน
    เงินที่ได้ไปตลอดชีวิตเอาออกมาใชับ้าง..เข้าใจตรงกันนะ.คือ.มีโรคระบาดค่ะ
    21 ม.ค. 2564 เวลา 12.24 น.
  • Papa Lek
    กรรมเวรของคนไม่เท่ากัน ใครสร้าวเวรกรรมอย่างไร ก็ต้องรับผลของกรรมนั้น
    21 ม.ค. 2564 เวลา 13.49 น.
ดูทั้งหมด