“เขมจิรา”คาใจอดีตสามีถูกยิงแต่ถูกจับสวมกุญแจมือ เชื่อกล้องวงจรปิดจะพิสูจน์ได้-บัญชาคีย์แมนปมยักยอกที่ดินและร้องถอดยศ พล.ต.ต.ธารินทร์
จากกรณี พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อายุ 67 ปี อดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติ จำเลยในคดีแจ้งเท็จและเบิกความเท็จ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ อายุ 61 ปี ทนายความและนางสุภาพร ปรมีศณาภรณ์ ภรรยา นายวิชัย อุดมธนภัทร และนายวิจัย สุขรมย์ ทีมทนายฝ่ายโจทก์จนเสียชีวิตกลางห้องพิจารณาคดีศาลจังหวัดจันทบุรี ก่อนที่นายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนาย จะคว้าปืนจาก ร.ต.อ.ขจร บรรจง รอง สวป.สภ.เมืองจันทบุรี ตำรวจศาลยิงใส่พล.ต.ต.ธารินทร์ จนเสียชีวิต ซึ่งเกิดจากชนวนเหตุข้อพิพาทที่ดินเนื้อที่กว่า 3,800 ไร่ ที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ที่ยืดเยื้อมา 10 ปี กระทั่ง น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อดีตภรรยาพล.ต.ต.ธารินทร์ ซึ่งเป็นหลานเจ้าของที่ดินคนเก่าได้หอบหลักฐานมามอบให้ตำรวจกองปราบปราม เพื่อให้ช่วยทวงที่ดินคืนให้กับมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย ตามที่ได้เคยมีการนำเสนอก่อนหน้านี้
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.เขมจิรา ได้กล่าวถึงเรื่องพิพาทที่ดินผืนดังกล่าว ที่เกิดขึ้นมานั้นตนเชื่อว่า นายบัญชา คือบุคคลสำคัญที่คอยดำเนินการช่วยให้นายบุญช่วย สามารถยักยอกที่ดินของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย ไปเป็นของส่วนตัว อีกทั้งยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ถอดยศ พล.ต.ต.ธารินทร์ เนื่องจากฝั่งนายบุญช่วย และนายบัญชา มองว่าหากยังปล่อยให้ขุดคุ้ยพยานหลักฐานเอกสารทางราชการขึ้นมาจะทำให้ความจริงปรากฎขึ้นว่าตนเองไม่ใช่เจ้าของที่ดินผืนดังกล่าวที่แอบยักยอกไป
น.ส.เขมจิรา กล่าวต่ออีกว่า ส่วนกรณีที่สังคมสงสัยว่าถ้าตนมีพยานหลักฐานจริง เหตุใดถึงแพ้คดีการกรรมสิทธิ์ครอบครองที่ดิน ตนอยากชี้แจงในส่วนนี้ว่าหลักฐานเอกสารราชการต่างๆที่พล.ต.ต.ธารินทร์ สืบหามาได้นั้นพึ่งได้มาหลังจากที่มีการตัดสินไปแล้ว ถ้าหากตอนนั้นตนมีหลักฐานเหล่านี้นายบุญช่วยก็คงไม่ได้ที่ดิน เพราะหลักฐานที่ตนนำไปสู้ตอนนั้นมีเพียงแค่หลักฐานการแสดงจำนวนบุตรเท็จเพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตามภายหลังจากนายบุญช่วยและนายบัญชา รู้ว่าทางฝ่ายเรามีหลักฐานเหล่านี้ และได้มีการนำหลักฐานไปยื่นร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆเพื่อขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกรรมสิทธิ์ผู้ครอบครองที่ดินผืนนี้ขึ้นอีกครั้งนั้น นายบุญช่วยและนายบัญชา ก็ได้มีการพยายามไกล่เกลี่ยในชั้นศาล โดยบอกว่าหากตนยุติเรื่องและเรียกคืนหลักฐานเหล่านี้กลับมาทางฝ่ายของเขาจะยอมถอนฟ้องคดีต่างๆให้ แต่พล.ต.ต.ธารินทร์ ไม่ยอมเพราะด้วยความที่ตัวเขาเป็นตำรวจรักความยุติธรรม เขาจะไม่ยอมให้นายบุญช่วยได้ที่ดินไปแน่นอน และจะต้องทวงคืนที่ดินผืนนี้คืนกลับมาให้กับมูลนิธิ เขาเคยบอกตนว่าเขาทำมาขนาดนี้จะยอมหยุดไม่ได้ และความยุติธรรมจะต้องเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าอาจจะต้องเป็นผู้พ่ายแพ้ก็ตาม
น.ส.เขมจิรา ยังกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่พล.ต.ต.ธารินทร์ ถูกยิงเสียชีวิตนั้น ตนเองและครอบครัวก็ยังคงคาใจ เพราะเชื่อว่าข้อมูลที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่านายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนาย ใช้อาวุธปืนยิงอดีตสามีตนเสียชีวิต ว่าทำไปเพราะต้องการระงับเหตุและเป็นการยิงก่อนที่จะมีการจับพล.ต.ต.ธารินทร์ ใส่กุญแจมือนั้น เป็นข้อมูลที่บิดเบือน ถ้าหากต้องการให้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้กระจ่างอยากให้นำภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องพิจารณาออกมาเปิดเผยเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย นอกจากนี้ตนยังทราบอีกว่าภายหลังจากที่นายธนากร ก่อเหตุเสร็จนั้นยังมีผู้หญิงคนหนึ่งคอยให้การช่วยเหลือโดยการขับรถพาหลบหนี แต่จนถึงวันนี้ผู้หญิงคนดังกล่าวกลับยังไม่ถูกตรวจสอบข้อเท็จจริงใดๆ เลย
น.ส.เขมจิรา กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ทางกองปราบรับเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดิน ขณะนี้ตนทราบว่ามีความคืบหน้าไปมาก และค่อนข้างเป็นที่พอใจเกี่ยวกับการทำงานของตำรวจกองปราบ เป็นอย่างมากซึ่งตนเชื่อว่ากองปราบ จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายไม่มีลำเอียง และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม
pongstorn ขบวนการฮุบที่ ..วางแผนกันเป็นระบบ..สุดท้ายจบกันที่ปลายกระบอกปืน
17 พ.ย. 2562 เวลา 10.07 น.
คนจะฮุบที่ดินพระควรตายโหง จริงหรือไม่อย่างไร
17 พ.ย. 2562 เวลา 10.00 น.
ทยานบางคนก็ไม่มีจรรยาบรรณ ไม่รู้ถูกผิดเอาแต่เงินอย่างเดียว ถ้าทำคนผิดเป็นถูกได้ทนายบางคนเห็นว่าตนเองฉลาด ถ้าชาวบ้านพบเจอทนายแบบนี้ก็แย่ครับ ขอให้หลีกห่างๆครับ
17 พ.ย. 2562 เวลา 09.54 น.
ดูทั้งหมด