กีฬา

ลุค นิลิส : ดาวยิงโลกลืมที่ ‘โรนัลโด’ บอกว่าสุดยอดยิ่งกว่า ‘ซีดาน’

Main Stand
อัพเดต 01 มี.ค. 2563 เวลา 04.52 น. • เผยแพร่ 26 ก.พ. 2563 เวลา 17.00 น. • มฤคย์ ตันนิยม

“ผมเคยเล่นกับคนเก่งๆอย่าง ฟิโก, โรมาริโอ, ซีดาน, ริวัลโด จอร์เกฟ และราอูล แต่คนที่เข้าขากับผมมากที่สุดคือ ลุค นิลิส ที่ผมเคยเล่นด้วยกันที่พีเอสวี” โรนัลโด ตำนานทีมชาติบราซิลเคยกล่าวเอาไว้ 

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ลุค นิลิส อาจจะไม่ใช่ชื่อที่คนส่วนใหญ่คุ้นหูมากนัก แต่เขากลับโด่งดังในภูมิภาคเบเนลักซ์ (เบลเยียม เนเธอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก) ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมกับ อันเดอร์เลชท์ และ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ถึงขนาด โรนัลโด้ และรุด ฟาน นิสเตลรอย สองยอดดาวยิงระดับโลกยังคารวะ 

อย่างไรก็ดี น่าเสียดายที่โลกไม่ทันได้เห็นฝีเท้าที่แท้จริงของเขาเต็มที่ เกิดอะไรขึ้นกับดาวยิงที่โลกลืมคนนี้ ร่วมติดตามไปพร้อมกับ Main Stand 

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ยอดดาวยิงแห่งแดนกังหัน 

ชีวิตของ นิลิส ดูเหมือนว่าจะผูกพันกับฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก เพราะเขาคือลูกชายของโรเจอร์ นิลิส นักฟุตบอลชาวเบลเยียมที่เคยค้าแข้งในช่วงทศวรรษที่ 1960sโดยเขาเริ่มต้นเส้นทางสายอาชีพ ตั้งแต่อายุ 16 หลังได้ประเดิมสนามกับทีมระดับดิวิชั่น 2 ที่ชื่อ วินเทอร์สแล็ก หรือ KRC เกงค์ ในปัจจุบัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

Photo : dpgmedia.be

หลังจากนั้น เขาก็กลายเป็นแข้งดาวรุ่งที่น่าจับตาของยุค หลังยิงไปได้ 16 ประตูจาก 47 นัดในสองฤดูกาลกับวินเทอร์สแล็ก จนถูกเรียกติดทีมชาติเบลเยียมตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 16, 17, 18 ไปจนถึง 19 ปี ก่อนจะได้ย้ายไปเล่นกับอันเดอร์เลชท์ ทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศในปี 1986 

และมันก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นตำนานบทแรกของเขา เมื่อ 8 ปีที่บรัสเซลล์ นิลิส สังหารประตูคู่แข่งเป็นว่าเล่น ด้วยการซัดไปถึง 127 ประตูจาก 224 นัด หรือเฉลี่ยทุก 0.56 ประตูต่อ 1 นัด พร้อมช่วยให้ทีมคว้าแชมป์มาครองอย่างมากมาย ทั้งแชมป์ลีก 4 สมัย และฟุตบอลถ้วยอีก 3 สมัย 

ผลงานอันยอดเยี่ยมของเขาทำให้ลีกเบลเยียม ดูจะเล็กไปสำหรับฝีเท้าของ นิลิส ทำให้ในปี 1994 เขาได้ย้ายไปพิสูจน์ตัวเองกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในลีกที่ใหญ่กว่าอย่าง เอเรดิวิซีของ เนเธอร์แลนด์ 

และที่นั่นเขาได้พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาจนกลายเป็นกองหน้าสุดอันตรายลีก ด้วยคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับยอดดาวยิง ทั้งการยิงได้ทั้งสองเท้า ความแข็งแกร่ง ทักษะที่เหลือร้าย และความเร็วที่พอใช้ได้ ทำให้ นิลิส สามารถทำประตูได้เกือบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าฮอร์ส ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมตะบันเต็มข้อ ชิพเล่นทาง หรือแม้กระทั่งฟรีคิก 

ในขณะเดียวกัน แม้จะมีส่วนสูงราว 183 เซนติเมตร ที่อาจจะไม่ได้สูงมาก แต่ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขา เพราะมันถูกแทนที่ด้วยพรสวรรค์ในการหาพื้นที่ว่าง ไม่ว่าบอลจะอยู่ที่ใด สุดท้ายเขาก็จะอยู่ถูกที่ถูกเวลา และเป็นคนส่งมันเข้าประตูอยู่เสมอ จนได้รับฉายาว่า“Lucky Luc” หรือลุคจอมโชคดี   

“ผมคิดว่าเขาคือผู้เล่นคนพิเศษอยู่เสมอ เขาคือกองหน้าที่สามารถเปลี่ยนเกมได้ภายในจังหวะเดียวด้วยความฉลาดของเขา” ลอเรนโซ สแตเลนส์ อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติเบลเยียมอธิบาย

ตลอด 6 ฤดูกาลกับพีเอสวี นิลิส สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นยอดดาวยิงแห่งแดนกังหันลม ด้วยการซัดไปถึง 110 ประตูจาก 164 นัด หรือเฉลี่ย 18 ประตูต่อฤดูกาลเลยทีเดียว 

อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้มีดีแค่นั้น 

 

คู่หูสองยอดดาวยิงแห่งยุค 

“เขา (นิลิส) คืออาจารย์ของผมเลย” รุด ฟาน นิสเตลรอย อดีตกองหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริดกล่าว 

Photo : www.foxsports.nl

นิลิส ไม่ได้เป็นกองหน้าที่จังหวะจบสกอร์เพียงอย่างเดียว เขายังเป็นจอมสร้างสรรค์ของทีม และสามารถลงมาเชื่อมเกม รวมทำแอสซิสต์ให้คู่หูในแดนหน้าได้อยู่บ่อยครั้ง ทำให้ไม่ว่าใคร ที่ได้จับคู่กับเขาก็มักจะมีสถิติการยิงประตูที่ดีไปด้วย 

ในปี 1994 ตอนที่เขาย้ายมาร่วมทีมพีเอสวี สโมสรก็เพิ่งได้ตัวเด็กหนุ่มจากบราซิลที่ชื่อว่า โรนัลโด เดอ ลิมา มาร่วมทีมเช่นกัน ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะช่วยกันยิงประตูอย่างถล่มทลาย ช่วยให้พีเอสวีคว้าอันดับ 3 ของลีก 

โดยปีดังกล่าวทั้งสองคนยังสามารถคว้ารางวัลส่วนตัวมานอนกอด โดย โรนัลโด รั้งตำแหน่งดาวยิงสูงสุดของลีกด้วยผลงาน 30 ประตู ในขณะที่นิลิส แม้จะยิงไปเพียง 12 ประตู แต่ก็ยังทำให้เขาได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกแดนกังหันลม

แม้ฤดูกาลที่ 2 โรนัลโด และ นิลิส ต่างประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรง แต่ดูเหมือนว่ามีเพียงผลงานของดาวยิงชาวเบลเยียมที่ยังไม่ตกลงไป เมื่อซัดไป 21 ประตู คว้าดาวซัลโวของลีก ในขณะที่โรนัลโด ยิงไป 12 ประตูจาก 13 นัด แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่สามารถช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ได้หลังจบในอันดับ 2 ของตาราง 

Photo : club-calcio.com

ก่อนที่จบซีซั่นนั้น โรนัลโด จะเก็บข้าวของย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลนา และถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีโอกาสได้เล่นร่วมกันเพียง 2 ฤดูกาล แต่ดาวยิงระดับตำนานของบราซิล ก็ยกย่องให้ นิลิส คือคู่หูที่ดีที่สุดของเขาตลอดชีวิตการค้าแข้ง 

“ผมเคยเล่นกับคนเก่งๆอย่าง ฟิโก, โรมาริโอ, ซีดาน, ริวัลโด จอร์เกฟ และราอูล แต่คนที่เข้าขากับผมมากที่สุดคือ ลุค นิลิส ที่ผมเคยเล่นด้วยกันที่พีเอสวี” โรนัลโด ให้สัมภาษณ์กับ Sporza.be

การจากไปของโรนัลโด ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพการยิงประตูของนิลิสต้องตกลงไป เมื่อซีซั่นต่อมา เขาสามารถคว้ารางวัลดาวซัลโวได้อีกครั้ง หลังยิงไป 21 ประตูเท่าเดิม เพียงแค่ครั้งนี้ มันช่วยให้ พีเอสวี ผงาดคว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี 

นอกจากนี้ในนามทีมชาติ เขายังยิงประตูได้ทั้งเหย้าและเยือน ช่วยให้เบลเยียมเอาชนะ ไอร์แลนด์ 3-2 ในรอบเพลย์ออฟ ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 1998 รอบสุดท้ายที่ฝรั่งเศส หลังจากพลาดตกรอบคัดเลือกยูโร 1996 ที่อังกฤษ

แน่นอนว่า โรนัลโด ไม่ใช่กองหน้าคนเดียวที่ นิลิส ได้มีโอกาสร่วมงาน เพราะหลังการย้ายทีมของหัวหอกเลือกแซมบ้าเพียงปีเดียว พีเอสวี ก็มีโอกาสต้อนรับหัวหอกดาวรุ่งจากฮีราวีนที่ชื่อว่ารุด ฟาน นิสเตลรอย 

นิลิส และ นิสเตลรอย กลายเป็นคู่หูที่ลงตัว เพราะในอีก 2 ฤดูกาลต่อมา พวกเขาจับคู่กันไล่ถล่มตาข่ายคู่แข่งอย่างบ้าคลั่ง ด้วยการซัดรวมกันไปถึง 103 ประตู และต่างรั้งอยู่ในอันดับ 1 และ 2 ของตารางดาวซัลโวของลีก และคว้าแชมป์อีกครั้งในฤดูกาล 1999-2000 

Photo : www.buzz.ie

“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ผมเป็นหนี้เขาหมดเลย ไม่มีนักเตะคนไหนที่ผมให้ความเคารพมากเท่ากับลุค และผมก็สงสัยว่าจะมีนักเตะคู่ไหนที่สนิทกันเท่ากับเราหรือเปล่า” นิสเตลรอยย้อนความหลัง  

“บางครั้งเขาก็ทำให้ผมประสาทเสีย บางครั้งเขาก็ทำให้ผมจุกและเกลียดเขาจริงๆ แต่หลายครั้งมันก็ตรงกันข้าม แต่ความรักและความเกลียดมักจะอยู่ใกล้กัน และนั่นคือเหตุผลว่าทำไม เราจึงเป็นเพื่อนสนิทกัน” 

สิ่งเหล่านี้คือข้อพิสูจน์ให้เห็นถึงความครบเครื่องของนิลิส และเขาคือ “ของจริง” ทว่าหลายคน ก็ปรามาสว่า เขายังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองในลีกระดับท็อปของยุโรป 

แต่แล้วในปี 2000 โอกาสนั้นก็มาถึง 

 

สังเวียนสุดท้ายที่ชื่อพรีเมียร์ลีก 

หลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับพีเอสวี และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ในฤดูกาล 1999-2000 นิลิส ก็มีโอกาสได้มาโชว์ฝีเท้าในลีกใหญ่อย่างพรีเมียร์ลีก หลังย้ายมาร่วมทีม แอสตัน วิลลา แบบไม่มีค่าตัว หลังหมดสัญญากับแชมป์ลีกดัตช์พอดี 

Photo : www.avfc.co.uk

แม้จะอยู่ในวัย 33 ปี ซึ่งถือว่าอายุไม่น้อยแล้วสำหรับการเล่นในลีกใหญ่ แต่นิลิส ก็ปิดปากคำวิจารณ์ ด้วยการประเดิมประตูแรกให้กับวิลลาได้ทันที หลังซัดประตูส่งท้ายช่วยให้ทีมเอาชนะ FK Příbram จากเช็กในศึกอินเตอร์โตโต้คัพ 3-1 

เขายังทำผลงานได้สุดยอดในนัดแรกในพรีเมียร์ลีก ที่แสดงให้เห็นถึงทักษะของยอดดาวยิง ด้วยการพลิกรับบอลในเขตโทษก่อน ฟรองค์ เลอเบิฟ ก่อนจะตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อแสกหน้า คาร์โล คูดิชินี ผู้รักษาประตูเชลซี เข้าไปอย่างงดงามให้ทีมออกนำ ก่อนจบลงด้วยผลเสมอ 

แต่ช่วงเวลาในลีกสูงสุดแดนผู้ดีกลับแสนสั้น เมื่ออีก 2 เกมถัดมาที่บุกไปเยือน อิปสวิช ทาวน์ น้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา เขาจำเป็นต้องออกจากสนามตั้งแต่ 7 นาทีของเกม หลังเข้าปะทะกับ ริชาร์ด ไรท์ ผู้รักษาประตูคู่แข่งจนกระดูกหัก และเป็นหนึ่งในการบาดเจ็บที่เลวร้ายที่สุดในลีกอังกฤษ 

อุบัติเหตุครั้งนั้น ทำให้ขาขวาของเขาหักเป็นสองท่อน แน่นอนว่าเขาต้องปิดเทอมก่อนใครทันที ในตอนแรกทีมแพทย์ของวิลลา ยังมองโลกในแง่ดี หลังการผ่าตัดสามครั้ง และใส่ตะปูอลูมิเนียมช่วยยึด พวกเขายังคาดว่านิลิส น่าจะกลับมาหายดีในฤดูกาลหน้า 

“เขายังเดินไม่ได้ และยังทำแบบนั้นไม่ได้สักพัก” จิม วอล์คเกอร์ ทีมแพทย์ของวิลลากล่าว Sky ในตอนนั้น

“ขาของเขาน่าจะใช้เวลารักษาไปจนถึงช่วงปรีซีซั่นฤดูกาลหน้า และหวังว่าเขาจะพร้อมที่จะกลับมาอยู่กับเรา” 

เขาไม่ใช่คนเดียวที่โชคร้าย เพราะนิสเตลรอย อดีตคู่หูของเขาก็ต้องพลาดโอกาสที่จะย้ายไปเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในซีซั่นดังกล่าวเหมือนกัน หลังได้รับบาดเจ็บที่เอ็นไขว้เข่า 

อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าอดีตรุ่นน้องของเขาจะโชคดีกว่าเขา เมื่อในที่สุด นิสเตลรอย ได้ย้ายไปอยู่กับยูไนเต็ดสมใจในซีซั่นถัดมา แต่นิลิส กลับเจอกับภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้เขามีอาการติดเชื้อในกระดูก และเกือบจะต้องตัดขา 

“มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต บอกได้เลยว่าผมเกือบจะเสียขาไป ที่ผมต้องอยู่อย่างนั้นไปตลอดชีวิต” นิลิสกล่าวกับ BBC

“การหักที่เลวร้ายของมันนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน และเกือบเป็นหายนะ ผมร้องไห้ตอนที่หมอบอกผม” 

แม้ว่าสุดท้ายแล้วนิลิสจะไม่ถูกตัดขา แต่ด้วยสภาพเช่นนี้ แทบจะไม่มีโอกาสอีกแล้วที่เขาจะกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง เพราะแค่จะกลับมาเดินได้ตามปกติ ยังเป็นเรื่องต้องลุ้น 

Photo : www.the-wau.com

“มันคือฝันร้าย บางครั้งผมก็สงสัยว่าผมจะผ่านวันแต่ละวันไปอย่างไร มันส่งผลกระทบอย่างเลวร้ายต่อจิตใจผมของผมมาก” นิลิสกล่าวต่อ 

“ผมรู้ว่ามันมีสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ แต่สิ่งนี้ทำลายความฝันของผม ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เกิดขึ้นกับคนอื่นมาก่อน ผมถามตัวเองเสมอว่าทำไมต้องเป็นผม ผมรู้สึกตกต่ำมาก” 

สุดท้ายเขาก็ได้รับการยืนยันเรื่องนี้จากแพทย์ ที่ทำให้เขาต้องจำใจแขวนสตั๊ด ทั้งที่เพิ่งลงสนามให้กับวิลลาไปเพียงแค่ 5 นัดในซีซั่นแรกในลีกแดนผู้ดี ที่กลายเป็นฤดูกาลสุดท้าย ในชีวิตนักเตะอาชีพของเขา

“สำหรับช่วงเวลาสั้นๆที่ผมได้อยู่กับแอสตัน วิลลา ผมสนุกกับทุกนาที และผมค่อนข้างผิดหวังอย่างขื่นขมที่ไม่สามารถยิงประตูได้ต่อไป” นิลิสกล่าวในวันประกาศเลิกเล่น

“ด้วยคำแนะนำทางการแพทย์ ผมเล่นต่อไปไม่ได้แล้ว” 

 

ยอดนักเตะที่โลกไม่ได้เห็น 

“ผมควรจะดีใจที่ผมยังมีขา สิ่งสำคัญที่สุดคือกลับมาหายดี และทำในสิ่งที่คนปกติทำได้ อย่างการเล่นกับลูกๆ ส่วนฟุตบอลน่ะหรือ? ตอนนั้นผมไม่คิดถึงมันแล้ว” นิลิสกล่าวกับสื่อในบ้านเกิด 

Photo : dpgmedia.net

หลังแขวนสตั๊ด นิลิส ยังคงวนเวียนอยู่ในวงการฟุตบอล เขาถูกแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ Beringen-Heusden-Zolder สโมสรประเทศบ้านเกิดเมื่อปี 2005 แต่ด้วยปัญหาทางการเงิน ทำให้ทีมเบี้ยวค่าจ้างนักเตะและสต๊าฟโค้ช จนทำให้ทีมถูกปรับตกชั้นในเวลาต่อมา

เขาได้มีโอกาสกลับมาพีเอสวีอีกครั้งในปี 2006 โดยเริ่มงานในตำแหน่งแมวมอง และได้เลื่อนขั้นขึ้นไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม จากนั้นเขาได้มีโอกาสไปหาประสบการณ์ในลีกตุรกี ก่อนจะกลับมาพีเอสวีเป็นคำรบสองในตำแหน่งโค้ชกองหน้าตั้งแต่ปี 2015

เขาเป็นหนึ่งในสต๊าฟโค้ชที่ช่วยให้พีเอสวี คว้าแชมป์ลีก 2 สมัยในฤดูกาล 2015-2016 และ 2017-2018 และช่วยปลุกปั้นให้ลุก เดอ ยอง ก้าวขึ้นไปคว้าดาวซัลโวของลีก ด้วยผลงาน 26 ประตูในฤดูกาล 2015-2016 

ชีวิตของเขากำลังไปได้สวยในเส้นทางใหม่ ทว่าเมื่อย้อนกลับไปในตอนนั้น เขาก็ยังรู้สึกเสียดายเวลากับวิลลา และพรีเมียร์ลีกที่เขามีกับมันน้อยเกินไป น้อยเกินกว่าที่จะแสดงให้เห็นว่าเขายอดเยี่ยมขนาดไหน

“ผมเศร้ามากที่แอสตัน วิลลา ไม่มีโอกาสได้เห็นความสุดยอดของผม แต่ทั้งที่เป็นอย่างนั้น พวกเขาก็ยังอยู่ข้างผม และให้กำลังใจผม” อดีตดาวยิงทีมชาติเบลเยียมกล่าวกับ BBC 

 

แหล่งอ้างอิง

http://news.bbc.co.uk/2/hi/euro2000/teams/belgium/783793.stm 
http://www.avillafan.com/22859/luc-nilis-the-legend-that-never-was/ 
https://thesefootballtimes.co/2019/08/08/luc-nilis-the-timeless-genius-of-a-man-ronaldo-hailed-as-his-greatest-strike-partner/ 
http://news.bbc.co.uk/sport2/hi/football/teams/a/aston_villa/1018099.stm 
http://villaunderground.com/feature-luc-nilis-the-greatest-villa-striker/ 
https://www.theversed.com/53238/luc-nilis-psv-aston-villa-belgium/#.s2Po24KYcW 
https://www.birminghammail.co.uk/sport/football/football-news/aston-villa-luc-nillis-injury-15929455
https://loaded.co.uk/luc-nilis-the-psv-eindhoven-hitman-who-ran-out-of-luck-at-aston-villa/ 
https://www.planetfootball.com/nostalgia/tribute-luc-nilis-loved-ronaldo-best-striker-villa-never

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 5
  • จำได้เล​ย​ ขาหักโครตน่ากลัว​ โชคดีที่ยังกลับมาเดินได้ปกติ​ ตอนนั้นอ่านซอคเกอร์ทุกวัน​ ลุคนิลิสเล่นแม่งยิงตลอดๆยังกะทั้งทีมยิงเป็นอยู่คนเดียว​ สงสัยทำไมมันไม่ย้ายซะทีวะ​ สุดท้ายมาวิลล่า​ เล่นไปไม่กี่นัดก็ขาหัก​ ทั้งที่ดูแววแล้วถ้าขาไม่หัก​ นะ​ คงเป็นยิงกะจายให้วิลล่าแน่
    28 ก.พ. 2563 เวลา 04.49 น.
  • BKK989
    การที่นิสเตอรอยด์, และโด้ เหยินออกมาชื่นชมแบบนี้ถือว่าเก่งจริงๆผมดูคลิปแล้วยิงหนักมากๆ, เบสิคสุดยอดครับแต่เสียดายเค้าน่าจะได้เล่นทีมใหญ่ๆอย่างยูเวนตุ​ส, แมน.ยู, ลิเวอร์พูล, รีล​ มาดริด​และบาร์เซโลน่า.
    27 ก.พ. 2563 เวลา 21.55 น.
  • THANET 254🌷🫧💭
    เก่งมากดูในยูทูปยิ่งเข้าตลอดเลย ยิงเป็นเข้าๆ
    27 ก.พ. 2563 เวลา 16.40 น.
  • เก่งจริง
    27 ก.พ. 2563 เวลา 16.26 น.
  • TAHANPAMAR
    ตอนอยุ่วิลล่าก้อเล่นเข้าขากับดับลินนะ
    27 ก.พ. 2563 เวลา 16.13 น.
ดูทั้งหมด