การเสียภาษีเป็นหน้าที่ของพลเมืองทุกคน แต่รู้หรือไม่ว่า ยังมีเทคนิคลดหย่อนภาษีที่ช่วยให้เราประหยัดเงินได้อีกด้วย บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยว่าเทคนิคลดหย่อนภาษีมีอะไรบ้าง
เทคนิคลดหย่อนภาษีมีอะไรบ้าง เรื่องที่วัยทำงานต้องรู้
สำหรับใครที่กำลังวางแผนด้านภาษี และอยากรู้ว่าวิธีลดหย่อนภาษีมีอะไรบ้าง เราสรุปวิธีที่น่าสนใจไว้ให้แล้ว
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและครอบครัว
ค่าลดหย่อนส่วนตัว: ทุกคนสามารถนำเงินจำนวน 60,000 บาท ไปลดหย่อนภาษีได้
ค่าลดหย่อนคู่สมรส: สำหรับผู้ที่มีคู่สมรสที่ไม่มีรายได้ สามารถนำเงินจำนวน 60,000 บาท ไปลดหย่อนภาษีได้ ช่วยประหยัดภาษีเพิ่มขึ้น
ค่าลดหย่อนฝากครรภ์ และคลอดบุตร: คุณแม่ที่ตั้งครรภ์สามารถนำค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์และคลอดบุตร ไปลดหย่อนภาษีได้ สูงสุดไม่เกิน 60,000 บาทต่อคนต่อครรภ์
ค่าลดหย่อนภาษีบุตร: สำหรับผู้ที่มีบุตร สามารถนำเงินคนละ 30,000 บาท ไปลดหย่อนภาษีได้ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้อีกทาง
ค่าลดหย่อนสำหรับเลี้ยงดูบิดา-มารดาของตน และของคู่สมรส: ผู้ที่มีภาระเลี้ยงดูพ่อแม่ สามารถนำเงินคนละ 30,000 บาท ไปลดหย่อนภาษีได้ สูงสุดไม่เกิน 4 คน รวมเป็น 120,000 บาท ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย
ประกันชีวิตและการออมเพื่อการศึกษา
ประกันชีวิตแบบระยะยาว: เบี้ยประกันชีวิตที่จ่ายไปสำหรับสัญญาประกันชีวิตแบบระยะยาว สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด ช่วยให้การวางแผนประกันชีวิตควบคู่กับการประหยัดภาษี
กองทุนรวมเพื่อการศึกษา (กองทุน LTF): เงินที่ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการศึกษา (กองทุน LTF) สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของเงินได้ ช่วยส่งเสริมการศึกษาบุตรหลานควบคู่กับการประหยัดภาษี
การออมเพื่อการเกษียณอายุ
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF): เงินที่ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (กองทุน RMF) สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของเงินได้ ช่วยส่งเสริมการออมเงินเพื่อวัยเกษียณควบคู่กับการประหยัดภาษี
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ: เงินที่นายจ้างสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ: เงินที่นายจ้างสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
กองทุนประกันสังคม: เงินที่จ่ายสมทบกองทุนประกันสังคม ทั้งส่วนของลูกจ้างและนายจ้าง สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
เงินสะสมในกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ: ข้าราชการสามารถนำเงินที่สะสมในกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ไปลดหย่อนภาษีได้
การบริจาค
บริจาคเงินให้กับองค์กรที่สาธารณประโยชน์: ผู้เสียภาษีสามารถนำใบเสร็จรับเงินที่บริจาคให้กับองค์กรที่สาธารณประโยชน์ที่ได้รับการรับรองจากกรมสรรพากร ไปลดหย่อนภาษีได้
การซื้อสินค้าและบริการ
โครงการช้อปดีมีคืน: ในช่วงที่มีโครงการช้อปดีมีคืน ผู้เสียภาษีสามารถนำใบเสร็จรับเงินจากการซื้อสินค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการ ไปลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งใครที่กำลังหาว่าวิธีลดหย่อนภาษีมีอะไรบ้าง การติดตามโครงการจากภาครัฐก็เป็นวิธีที่น่าสนใจไม่น้อย
เชื่อว่าทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ น่าจะเห็นภาพกันมากขึ้นแล้วว่าเทคนิคลดหย่อนภาษีมีอะไรบ้าง ซึ่งวิธีเหล่านี้ เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น ยังมีเทคนิคลดหย่อนภาษีอีกมากมาย ขึ้นอยู่กับประเภทของรายได้ อาชีพ และสถานะครอบครัวของแต่ละบุคคล