ทั่วไป

สุดเวทนา น้ององุ่น ทารกเพิ่งลืมตาดูโลกได้20วัน กะโหลกเบี้ยวผิดรูป วอนช่วย

Khaosod
อัพเดต 24 มิ.ย. 2566 เวลา 11.12 น. • เผยแพร่ 24 มิ.ย. 2566 เวลา 11.12 น.

กำแพงเพชร สุดเวทนา น้ององุ่น ทารกเพิ่งลืมตาดูโลกได้20วัน กะโหลกเบี้ยวผิดรูป วอนช่วย ฐานะครอบครัวยากจน บ้านทรุดจนแทบอาศัยอยู่ไม่ได้

วันที่ 24 มิ.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบเด็กทารกกะโหลกระเบิดผิดรูป ที่บ้านเลขที่ 886 หมู่ 15 ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร มีนายมาร์ค พังทอง อายุ 29 ปี กับ น.ส.ทักษพร กองเมือง อายุ 22 ปี สองสามีภรรยาที่มีฐานะยากจนอาศัยอยู่กับลูกๆ อีก 2 คน ประกอบด้วย ด.ช.ชัยวัฒน์ อายุ 6 ขวบ และ ด.ญ.กันต์ฤทัย หรือ น้ององุ่น อายุ 20 วันที่เพิ่งคลอด

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แพทย์บอกเพราะน้ำในหัวระบายไม่ออกจึงดันจนกะโหลกบิดเบี้ยว แพทย์ต้องผ้าใส่สายยางจากกระดูกสันหลังระบายน้ำลงไปที่กระเพาะปัสสาวะ ต้องรอจนอายุ 13-14 ถุงจะสามารถผ่าตัดได้อีกครั้ง ส่วนบ้านทรุดจนแทบอาศัยอยู่ไม่ได้ สามีรับจ้างวันละ 250 บาทแต่ไม่มีงานมานานแล้ว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านไม้เก่าแก่ฝาบ้านบางแห่งใช้สังกะสีเก่ามาตีปิดไว้ หลังคาเป็นสังกะสีที่มีรูทั่วไป บ้านทั้งหลังทรุดตัวจนเอียง ไม้หักจนพื้นเอียงเทไม่สามารถเดินเข้าไปได้ มีส่วนที่พออาศัยอยู่ได้พื้นที่แค่เพียงมุ้งกางได้เท่านั้น ภายในบ้านไม่มีทรัพย์สินมีค่าใดๆ แม้แต่เพียงชิ้นเดียว

ที่น่าสงสารคือน้ององุ่น ที่เกิดมากะโหลกศีรษะบิดเบี้ยว กะโหลกด้านซ้ายยกสูงขึ้นมาเกยกับกะโหลกด้านขวา ส่วนที่หน้าผากมีสันนูนเป็นแนวยาวจากหว่างคิ้วยาวขึ้นไปจนถึงกลางศีรษะ ส่วนด้านหลังกะโหลกยุบเข้าไปจากท้ายทอยจรดถึงกลางศีรษะ ที่ศีรษะและท้องด้านขวามีผ้าพันแผลปิดไว้ บางครั้งก็ส่งเสียงดังลั่น น.ส.ทักษพร ต้องน้ำขวดมาป้อนให้ โดยมีคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านพากันมาดูด้วยความสงสารและไม่เคยเห็นเด็กในลักษณะนี้มาก่อน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

น.ส.ทักษพร เปิดเผยว่า ไปคลอดที่โรงพยาบาลกำแพงเพชรเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากที่คลอดออกมาพบว่าน้ององุ่นมีลักษณะดังกล่าว แพทย์ระบุว่าเป็นเพราะน้ำในศีรษะระบายไม่ออก จึงดันจนกะโหลกบิดเบี้ยว แพทย์จึงได้ผ่าตัดใส่สายยางระบายน้ำจากกระดูกสันหลังลงไปที่กระเพาะปัสสาวะ เพื่อระบายน้ำออกมาเป็นปัสสาวะแทน ถ้าไม่ผ่าตัดก็จะกลายเป็นเด็กหัวโต

แพทย์ยังบอกว่าอีกประมาณ 6 เดือนกะโหลกศีรษะอาจจะเข้าที่ก็ได้ และยังจะต้องผ่าตัดอีกครั้งเมื่ออายุ 13-14 ปี โดยช่วงนี้ต้องให้กินนมที่โรงพยาบาลให้มา และห้ามให้ดื่มน้ำอย่างเด็ดขาดเพราะไปเพิ่มน้ำในศีรษะ ซึ่งคนที่เป็นแม่เมื่อมองหน้าลูกทุกครั้งก็จะรู้สึกสงสารมาก

น.ส.ทักษพร ยังเล่าถึงเรื่องราวชีวิตที่ลำบากว่า บ้านที่พาน้องมาอยู่ตอนนี้เป็นบ้านของญาติกัน นอกจากบ้านที่ชำรุดทรุดโทรมใกล้จะพังแล้ว ยังจะต้องหาเงินซื้อแพมเพิร์ส ค่านมให้น้อง ก่อนที่จะไปคลอดตนปลูกเพิงขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ข้างถนนบริเวณหน้าบ้าน มีรายได้วันละประมาณ 300 บาทยังไม่หักต้นทุน ส่วนสามีมีอาชีพรับจ้างทั่วไปได้ค่าจ้างวันละ 250 บาท แต่ไม่มีงานมาแล้วประมาณ 2 เดือนจึงไม่มีรายได้เข้าบ้านเลย ช่วงนี้จึงลำบากมาก

ส่วนการจะพาลูกไปหาหมอก็ต้องยืมรถเพื่อนบ้านบ้าง บางครั้งก็ต้องเช่ารถไปบ้าง เฉพาะค่ารถค่าน้ำมันก็ตกครั้งละ 400-500 บาทแล้ว ไหนจะค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก จึงอยากขอวอนท่านผู้ใจบุญช่วยเหลือน้ององุ่น โดยสามารถบริจาคได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาคลองลานกำแพงเพชร ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี น.ส.ทักษพร กองเมือง หมายเลขบัญชี 0653437900

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 2
  • Natthinee026
    สงสารเด็กที่เกิดมามาก แต่จริงๆ แล้ว ตัวพ่อแม่เด็กเอง ถ้ารู้ฐานะตัวเองดีว่าจนขนาดนี้ ตอนมีอะไรกันทำไมไม่ป้องกัน ปล่อยให้มีเด็กทั้งที่ไม่พร้อมแบบนี้ ไม่ไหว
    25 มิ.ย. 2566 เวลา 08.29 น.
  • 🍀MïNï🍃Më🍀
    ลูกเอ้ยสงสารหนูเหลือเกิน
    24 มิ.ย. 2566 เวลา 23.28 น.
ดูทั้งหมด