จากพฤติกรรมความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ที่หันมาใส่ใจพิถีพิถันกับอาหารการกินมากขึ้น ส่งผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการร้านอาหารไม่น้อย และยังส่งต่อการสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับเกษตรกรรายย่อยได้มีช่องทางเพิ่มรายได้อีกช่องทางหนึ่ง สืบเนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาประณีตกับอาหารการกินมากขึ้น บางคนตามหาร้านอาหารที่รสชาติอร่อยใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมียม บางคนชอบอาหารที่รสชาติและสีสันสวยงามน่ากิน เพื่อสร้างการอยากอาหาร รวมถึงการถ่ายรูปลงโซเชียล ทำให้เกิดอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ และสร้างรายได้ดีแบบเงียบๆ ในฉบับนี้ผู้เขียนขอยกให้กับธุรกิจการปลูกดอกไม้-ใบไม้กินได้ ที่ใช้พื้นที่ไม่ต้องมาก แต่ตอบโจทย์การสร้างรายได้ และทันกับยุคสมัยที่สุด จนสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร หรือเจ้าของธุรกิจหลักแสนต่อเดือนเลยทีเดียว
คุณนัจนันท์ ศรีพัธยากร หรือ คุณอุ๋ง เจ้าของฟาร์มโรสแมรี่หาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ 20/7 ถนนกองทุนสงเคราะห์ ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อดีตเจ้าหน้าที่การกีฬา ผันตัวเป็นเกษตรกร สร้างงาน สร้างเงินจากสิ่งที่รัก พร้อมกับการพัฒนาไม่หยุดนิ่ง นำไปสู่การสร้างรายได้จากการทำฟาร์มปลูกดอกไม้-ใบไม้กินได้ เกือบแสนต่อเดือน
คุณอุ๋ง เล่าให้ฟังว่า หลังจากเรียนจบปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาพลศึกษา ก็ได้มาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การกีฬาอยู่ระยะหนึ่ง จากนั้นผันตัวมาปลูกต้นไม้ โดยเริ่มจากการปลูกต้นไม้ที่ชอบสร้างรายได้ก่อน จนมาถึงช่วงที่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ยิ่งทำให้เห็นช่องทางสร้างรายได้จากสิ่งที่ทำ และเริ่มพัฒนาหาแนวทางในการสร้างรายได้เพิ่มเรื่อยๆ จากที่ปลูกดอกไม้ทั่วไป ก็เริ่มมองหาว่ามีดอกไม้และใบไม้ชนิดใดบ้างที่มีสีสันสวยงามสามารถปลูกเป็นไม้ประดับสวยงามและกินได้ และเริ่มต้นปลูกจากใบไม้สมุนไพรกินได้ บางอย่างเป็นสมุนไพรที่หาได้ใกล้บ้าน และต่อยอดปลูกสมุนไพรฝรั่ง โดยการศึกษาจากเชฟของไทยและต่างประเทศ และทดลองปลูกดูความเหมาะสมกับพื้นที่ และความต้องการของลูกค้า แล้วนำมาปรับใช้
ซึ่งความน่าสนใจและเสน่ห์ของดอกไม้-ใบไม้กินได้ แบ่งออกเป็นข้อดีสำหรับเกษตรกรคือได้อยู่กับธรรมชาติ เกิดความเพลิดเพลินกับสีสันของดอกไม้นานาชนิด และอีกข้อดีในแง่ของเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการหมุนเวียนรายได้มากขึ้น จากสีสันของดอกไม้และใบไม้กินได้ ในการช่วยส่งเสริมให้อาหารน่ากินมากขึ้น ผู้บริโภคสนุกกับการกินมากขึ้น ร้านอาหารยิ่งขายดีมากขึ้น และสร้างมูลค่าเพิ่มได้จากสีสันของดอกไม้และใบไม้กินได้ ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ก็ย้อนกลับมาเป็นรายได้ให้กับเกษตรกรนั่นเอง
**พื้นที่ 50 ตารางวา
ปลูกดอกไม้-ใบไม้
รายได้ไม่ธรรมดา**
คุณอุ๋ง บอกว่า ปัจจุบันที่ฟาร์มเน้นปลูกดอกไม้-ใบไม้กินได้เป็นหลัก บนพื้นที่ 50 ตารางวา ปลูกในรูปแบบโรงเรือนกึ่งสมาร์ทฟาร์ม เนื่องจากการปลูกดอกไม้และใบไม้กินได้ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อผู้บริโภคมาเป็นอันดับหนึ่ง ดังนั้น ทางฟาร์มจะไม่ข้องเกี่ยวกับสารเคมีเลยเด็ดขาด เพราะฉะนั้นการปลูกในโรงเรือนจึงเป็นทางเลือกที่ดี ปลอดภัยจากทั้งสารเคมี และแมลงรบกวนอื่นๆ เพราะใจความสำคัญของเราคือดอกและใบ รวมถึงปัจจัยในการเลือกดอกไม้ ใบไม้ที่ปลูก ส่วนใหญ่เน้นสีสันและรสชาติ ถ้าเป็นตระกูลใบจะคำนึงเรื่องสีสันและรสชาติ จะไม่ไปรบกวนอาหารจานหลักที่เชฟต้องการชูวัตถุดิบของเขา
โดยชนิดของไม้ดอกไม้ใบที่ทางฟาร์มเลือกปลูกสร้างรายได้ มีดังนี้
ในส่วนของไม้ใบกินได้
1. โรสแมรี่ สมุนไพรฝรั่ง ประโยชน์มากมาย เป็นที่ต้องการของตลาด สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย ทั้งเนื้อปลา เนื้อไก่ เนื้อวัว ผ่านกรรมวิธี อบ ทอด กริล ได้ทั้งหมด ซึ่งในพื้นที่ภาคใต้คนยังไม่นิยมปลูก หรือจับธุรกิจนี้แบบจริงจัง
2. ชบาเมเปิ้ล มีรูปทรงและสีสันสวยงาม ใบเป็นแฉกคล้ายใบเมเปิ้ล ปลูกง่าย เจริญเติบโตได้ทุกสภาพดิน ใบและดอกมีสีแดงถึงสีแดงอมม่วง
3. ซัมเมอร์ไทม์ ใบไทม์เรียวเล็กกว่าเหมือนเข็มและวินเทอร์ไทม์จะมีความอ้วนและสั้นกว่า สามารถใช้ปรุงอาหาร จัดจานเพื่อความสวยงาม หรือใช้เป็นสมุนไพร มีกลิ่นเฉพาะคล้ายโรสแมรี่ ขายดีในภาคใต้ นิยมใช้การกริล หรือเซียร์กับเนื้อสัตว์ ส่วนใหญ่ใช้กับเนื้อวัวและเนื้อปลา
4. ใบซอเรล เป็นหนึ่งในผักที่นิยมกินใบอ่อน หรือใส่ในเมนูสลัด เพราะใบซอเรลจะมีรสชาติเปรี้ยว รวมถึงการนำมาจัดประดับตกแต่งเพิ่มสีสันในจานอาหาร
5. ใบเล็บครุฑ เป็นชนิดเดียวกับเล็บครุฑไทย นิยมนำไปทอด ทางฟาร์มเพิ่มสีสันโดยการปลูกเล็บครุฑด่าง เพื่อสร้างความน่าสนใจ ดึงดูดลูกค้ามากยิ่งขึ้น
6. พาร์สลีย์ใบหยิก มีกลิ่นเฉพาะตัว ไม่ฉุนมาก คล้ายผักชี นิยมใช้ตกแต่งจานอาหาร หรือกินเป็นสลัดได้
7. แนสเตอร์เตียม เป็นพืชที่สวยทั้งใบและดอก ใบมีลักษณะกลมคล้ายใบบัวบก ชอบแสงแดด สามารถปลูกเป็นไม้กระถางแขวนและปลูกคลุมดินได้ ใบและดอกยังสามารถนำมาทำสลัดได้
ถัดมาในส่วนของดอกไม้กินได้ ดอกไม้กินได้ของฟาร์มจะมีทั้งสายพันธุ์นำเข้าจากต่างประเทศ และของไทยเป็นชนิดที่เมื่อเอ่ยชื่อคนไทยรู้จักดี เช่น หางนกยูงไทย ดอกเข็ม บานชื่น กุหลาบ ดอกเล็บมือนาง เป็นต้น
การจัดสรรพื้นที่ปลูก นอกจากเลือกปลูกในโรงเรือนแล้ว ที่สวนจะปลูกต้นไม้ใบไม้ลงกระถางทั้งหมด อย่างละ 5-10 กระถาง เพื่อให้สะดวกในการเคลื่อนย้าย ในกรณีหากต้นไหนมีปัญหาสามารถยกออกมาจัดการนอกโรงเรือนได้ทันที ไม่เกิดปัญหาลามไปยังต้นอื่นๆ
เทคนิคการปลูกการดูแล คล้ายกับการปลูกต้นไม้ หรือไม้ดอกไม้ประดับทั่วไป แค่ต้องใส่ใจและพยายามตัดแต่งกิ่งอย่างสม่ำเสมอ เพราะว่าไม้ดอกจะชอบตรงการตัดแต่ง ถ้าเราตัดแต่งกิ่งสวย ดอกและใบที่ได้ออกมาก็สวย ควบคู่กับการบำรุงใส่ปุ๋ยให้เหมาะสมตามที่พืชต้องการ
การผสมดินปลูก มีวัตถุดิบ ได้แก่ 1. ดินปลูก 4 ส่วน 2. แกลบดิบ 1 ส่วน 3. แกลบดำ 1 ส่วน 4. ขุยมะพร้าว 1 ส่วน 5. ปุ๋ยมูลขี้ไก่ หรือมูลไส้เดือน 1 ส่วน คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันเป็นอันใช้ได้ ก่อนปลูกรองกระถางด้วยกากมะพร้าวสับ
การดูแลรดน้ำ ของที่ฟาร์มปลูกในโรงเรือนกึ่งสมาร์ทฟาร์ม ระบบน้ำเป็นน้ำหยด เปิด-ปิดเอง ตามระบบสั่งการของเครื่องวัดอุณหภูมิและความชื้น เมื่อไหร่ที่อากาศร้อนความชื้นในดินต่ำ ระบบสั่งการระบบรดน้ำทันที ถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มความสะดวก ประหยัดเวลาในการทำงาน เจ้าของฟาร์มมีเวลาไปทำงานในส่วนอื่นมากขึ้น ซึ่งในช่วงแรกอาจต้องมีการลงทุนสูงสักหน่อย แต่คุ้มและเป็นประโยชน์ในระยะยาวแน่นอน
การบำรุงใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกมูลสัตว์ทุกๆ 15 วัน อัตรา 1 ช้อนโต๊ะ ควบคู่กับการใส่ปุ๋ยเอบีปล่อยไปพร้อมกับระบบน้ำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
การป้องกันโรคแมลง การปลูกพืชอาหารแน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยทางฟาร์มจะเน้นการสังเกตอย่างสม่ำเสมอ หากต้นไหนอาการน่าเป็นห่วง จะยกกระถางนั้นออกมาดูแลปฐมพยาบาลข้างนอกทันที โดยใช้น้ำหมักไล่แมลงสูตรทำเองในการป้องกันรักษา หลักๆ คือการนำใบยาสูบ เหล้าขาว และเครื่องดื่มชูกำลังมาทำเป็นสารป้องกันแมลงศัตรูพืช โดยส่วนใหญ่โรคและแมลงจะระบาดหนักในช่วงหน้าฝนต้องดูแลเป็นพิเศษ ดูแลกำจัดวัชพืชภายนอกโรงเรือนให้สะอาดโล่งเตียนที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมโรค
**ดอกไม้-ใบไม้กินได้
พืชทำเงิน ที่ไม่ควรมองข้าม**
เชื่อว่าหลายคนนึกไม่ถึงว่าการสร้างรายได้จากดอกไม้-ใบไม้กินได้นั้นจะมากมายอย่างไร คุณอุ๋ง อธิบายว่า แน่นอนว่าหลายคนมองข้ามตรงนี้ไป ขอยกตัวอย่างดอกอัญชัญและดอกพวงชมพู เป็นตัวอย่างที่เห็นชัดเลยว่า อัญชัญเป็นพืชที่ปลูกง่าย บางครั้งเราเห็นขึ้นได้ง่ายตามข้างทาง เลยทำให้คนไม่สนใจ แต่ถ้าอยู่ถูกที่ สิ่งนั้นมีคุณค่าเสมอ เพราะปัจจุบันปลูกอัญชันส่งให้ร้านขนมไทยออร์เดอร์ล้นมาก หรือพวงชมพูต้นหนึ่งออกดอกเยอะมาก นั่นคือรายได้ราคาขายเริ่มต้นตั้งแต่ 100-150 บาท แล้วแต่ปริมาณความต้องการของตลาดในแต่ละวัน นี่คือการยกตัวอย่างให้เห็นว่าเราไม่ควรมองข้ามสิ่งเล็กๆ
และในส่วนของไม้ดอก-ไม้ใบกินได้อื่นๆ ออร์เดอร์ต่อวันรวมกันอยู่ที่ 15-20 กล่องขึ้นไป ราคาขายเริ่มต้นถ้าเป็นสมุนไพรฝรั่งเริ่มต้นที่ 10 กรัม 35 บาท 50 กรัม 65 บาท หรือต้องการแบบคละ 4 ชนิด 40 กรัม 120 บาท หรือถ้าเป็นซอเรลเป็นการนับใบขาย 50 ใบ 150 บาท
มีกลุ่มลูกค้าประจำเป็นร้านอาหาร โรงแรม ภัตตาคาร และขายออนไลน์ มีจุดเริ่มต้นจากการศึกษา พยายามพัฒนาปรับตัวอยู่ตลอด ซึ่งข้อได้เปรียบของเราคือส่วนตัวชอบดูรายการทำอาหาร อย่างรายการมาสเตอร์เชฟ เป็นต้น
“โดยส่วนตัวเราชอบดูรายการมาสเตอร์เชฟอยู่แล้ว แล้วผู้แข่งขันคนไหนที่เราชอบ เราก็จะไปติดตาม และส่วนใหญ่เชฟที่เราติดตามก็จะเปิดร้านอาหารกันอยู่แล้ว เราก็นำความรู้มาจากตรงนั้น ว่าเชฟเขาใช้ดอกไม้หรือใบไม้อะไรในการทำอาหาร หรือมาประดับตกแต่งจาน เพราะเชฟบางคนรสนิยมไม่เหมือนกัน บางคนชูความเป็นไทย วัตถุดิบทุกอย่างที่นำมาตกแต่งก็จะเป็นดอกไม้ไทย สมุนไพรไทยทั้งหมด หรือเชฟบางคนที่อิงกับอาหารตะวันตก เราก็เอาความรู้ตรงนี้มาต่อยอดการตลาดของเรา ทำให้ตอนนี้เรามีรายได้จากตรงนี้มากถึง 60,000-70,000 บาทต่อเดือน บนพื้นที่เพียง 50 ตารางวา” คุณอุ๋ง กล่าวทิ้งท้าย
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร. 098-494-6516 หรือติดต่อได้ที่เพจ : โรสแมรี่หาดใหญ่
เผยแพร่ออนไลน์ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2566
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เกษตรกรหาดใหญ่ ใช้พื้นที่ 50 ตารางวา เปลี่ยนใบไม้-ดอกไม้เป็นเงินแสน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.technologychaoban.com