ตำรวจยศ พ.ต.ท.ลาออก ประท้วงผู้บังคับบัญชา ผู้ไม่ได้มองเห็นในความสามารถของข้าพเจ้า การแต่งตั้ง 3 ครั้งได้พิสูจน์แล้ว
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายไพศาล พืชมงคล โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า พ.ต.ท.บดินทร สารวัตรสอบสวน บุตรชาย อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสือขอลาออกจากราชการเมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.66) โดยระบุว่าการแต่งตั้งโยกย้ายไม่ได้ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติหน้าที่และความรู้ความสามารถ นับเป็นการสูญเสียบุคลากร ที่มีความรู้ความสามารถและเป็นคนดี อีกคนหนึ่งแล้ว ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
“โบราณท่านว่าไว้ ที่ใดก็ตาม ที่คนดีอยู่ไม่ได้ แต่คนร้ายมีความสุข มีความเจริญก้าวหน้า ณ ที่นั้นเป็นกาลกิณีภูมิ ที่จะเผาผลาญผู้คน ณ ที่นั้นให้วอดวายมลายไป” นายไพศาล ระบุ
สำหรับหนังสือลาออกจากราชการของ พ.ต.ท.บดินทร ตำแหน่ง สารวัตร (สอบสวน) ข้อความตอนหนึ่งระบุว่า เริ่มรับราชการเมื่อวันที่ 3 เดือน เมษายน 2550 มีความประสงค์ขอลาออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค.66 เนื่องจาก ตลอดระยะเวลาที่เป็นตำรวจนั้น ได้อุทิศตนปฏิบัติหน้าที่ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาโดยตลอด ได้นำความรู้และความสามารถที่ได้เรียนรู้และสั่งสมมาตลอดทั้งชีวิตเพื่อปฏิบัติหน้าที่ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะทักษะด้านภาษาจีนที่ได้ทุ่มเทศึกษาจนชำนาญ และได้เข้าร่วมในการทำคดีสำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคนจีน ตั้งแต่การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่แอบมาเปิดฐานในไทย ติดตามประสานงานจนสามารถจับกุมกลุ่มคนไทยที่ไปเปิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศจีนปราบปรามผู้มีอิทธิพลชาวจีนที่มากระทำผิดในประเทศโทย รวมถึงการเป็นล่ามให้กับผู้บังคับบัญชาระดับสูงเมื่อมีการประชุมหารือกับตัวแทนจากสถานทูตจีนหรือกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน
การแต่งตั้งโยกย้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 3 ครั้งล่าสุด ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ผู้บังคับบัญชาไม่ได้มองเห็นในความสามารถของข้าพเจ้าในการปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่ได้โยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งที่เหมาะสมในด้านภาษาแต่อย่างใด อีกทั้งให้ข้าพเจ้าอยู่ในหน่วยงานที่ไม่ได้ใช้ความสามารถของข้าพเจ้าในการปฏิบัติหน้าที่
อย่างไรก็ตาม ซึ่งทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าไม่เพียงพอที่จะทำงานให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณผู้บังคับบัญชาที่ได้ทำให้ความฝันของข้าพเจ้าที่จะลาออกจากการเป็นตำรวจ ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนเตรียมทหารนั้นสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และขอขอบพระคุณอีกครั้งที่นึกถึงกันเวลามีคดีสำคัญที่เกี่ยวกับคนจีน แต่กลับมองข้ามเมื่อถึงเวลาพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย และเมื่อผู้บังคับบัญชาพิจารณาแล้วว่าข้าพเจ้าไม่มีความเหมาะสมที่จะได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายไปตำรงตำแหน่งที่เหมาะสมกับความสามารถ ข้าพเจ้าจึงขอย้ายตนเองไปอยู่ในงานที่เหมาะสมต่อไป
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS
Thanwadee เป็นใบลาออกที่เฉียบคมมาก
14 ธ.ค. 2566 เวลา 01.09 น.
salapao2bai5 นึกถึง"จ่าเพียร"
เพียรทำดี ไม่ได้อะไร นี่หล่ะองกรณ์ตำรวจไทย
ส่วนเด็กเส้น เด็กนาย แก๊งค์รีดไถ ส่วย บ่อน ล้วนได้ดิบได้ดี
อย่าถามถึงความละอายและศักดิ์ศรีให้เสียเวลา เพราะตำรวจน้ำดี ถ้าไม่ฆ่าตัวตายก็ลาออกหนีมะเร็งร้ายหมดแล้ว
14 ธ.ค. 2566 เวลา 03.23 น.
Pia ถึงจะเปเรื่องจริงที่ต้องปรับปรุง
แต่เสียงจะเบามากๆ
นักข่าว รึผู้ใหญ่ไม่ได้ยิน
ถึงได้ยินก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่
ความต้องการของเจ้านาย 14 สำคัญกว่าว่ะ
14 ธ.ค. 2566 เวลา 02.31 น.
Another Dimension ในเรื่องความกล้าหาญที่จะยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง และการมีสปิริตที่จะแสดงความรับผิดชอบในความผิด ของผู้มีอำนาจ นักการเมือง ข้าราชการ ของเรา ไม่ได้ถูกปลูกฝังอย่างจริงจังมาตั้งแต่ในโรงเรียนและครอบครัว ลูกหลานเราถูกใช้ระบบซื้อเส้นฝากกันมาตั้งแต่เข้าโรงเรียนชั้นอนุบาล และสังคมไทยก็ยังขยันและจริงจังในการสั่งสอนว่า “ข้อแรกผู้ใหญ่ถูกเสมอ”“ผู้ใหญ่ทำอะไรไม่ผิด” อาบน้ำร้อนมาก่อน หมาไม่กัด ฯลฯ สอนกันมาแต่แบบนี้เป็นรากฐานสังคมไทย ผู้มีอำนาจจึงสั่งได้แม้ในระบบกระบวนการยุติธรรม มีธง ตามแต่ว่าใคร?ที่ถูกดำเนินคดี
14 ธ.ค. 2566 เวลา 02.59 น.
Suradet(Bigseasport) ครับอยู่ไม่ได้ทำดีไม่ได้ดี ก็ไปประกอบอาชีพอื่นครับ
ยุคสมัยมันเปลี่ยนแล้วครับ ดูง่ายจากการแต่งตั้งนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่สิครับ รวดเร็วทันใจ และจากนี้ไปคนธรรมดา จะไม่เชื่อใจในกระบวนการทาง กม. น้อยลงครับ
14 ธ.ค. 2566 เวลา 02.52 น.
ดูทั้งหมด