ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

น่าคิด! คนไทยไปสิงคโปร์ มักโวยวายเรื่องค่าครองชีพสูง แล้วเมืองไทยถูกกว่าตรงไหน

เส้นทางเศรษฐี
อัพเดต 26 มิ.ย. 2562 เวลา 10.57 น. • เผยแพร่ 25 มิ.ย. 2562 เวลา 05.12 น.

น่าคิด! คนไทยไปสิงคโปร์ มักโวยวายเรื่องค่าครองชีพสูง แล้วเมืองไทยถูกกว่าตรงไหน

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สิงคโปร์ มีประชากร 5 ล้านกว่า เป็นประชากรดั้งเดิมของตัวเองจริงๆ แค่ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งเป็นคนต่างชาติที่เข้าไปทำงานและได้รับสัญชาติ หรือได้รับสิทธิพำนักถาวร

สิงคโปร์ เป็นเกาะ เป็นเมืองหลวง และเป็นประเทศในคราวเดียวกัน มีพื้นที่ 722.5 ตารางกิโลเมตร

คนไทยชอบทึกทักว่าสิงคโปร์เล็กกว่าภูเก็ต อันนี้ไม่ถูกนะ ภูเก็ตมีพื้นที่แค่ 576 ตารางกิโลเมตร ถ้าเอาให้ใกล้เคียง คือ สิงคโปร์มีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ใหญ่กว่าเมืองนนท์หน่อยหนึ่ง หรือราว 3 ใน 4 ของจังหวัดสมุทรสาคร

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่ประเทศเล็กๆ ทั้งที่ดินและประชากรนี้ มีรายได้สูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นประเทศโลกที่หนึ่งสมบูรณ์แบบ คือคนมีรายได้สูง ประเทศพัฒนาเต็มที่ การศึกษามีคุณภาพ

และเห็นเล็กๆ อย่างนี้ สิงคโปร์มีคนไปเยี่ยมเยียนปีละเกือบ 20 ล้านคน เกือบเท่าที่มาประเทศไทย เป็นประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยียนสูงอันดับ 4 ของโลก

ที่จริงสิงคโปร์ไม่ใช่ประเทศเดียวที่เป็นแบบนี้ ฮ่องกง ซึ่งมีประชากร 7 ล้านคน และเป็นเกาะขนาด 1,104 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าอยุธยาหน่อยหนึ่ง ก็มีคนเยี่ยมเยียนปีละเกือบ 30 ล้านคน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ใครที่หมิ่นแคลนว่าสิงคโปร์ “ไม่เห็นมีอะไรเลย” นอกจากช็อปปิ้งจึงพึงพิจารณาใหม่เสียให้ถ้วนถี่ ใครที่ว่าคนไปเยี่ยมเยียนเยอะเพราะเขาไปเปลี่ยนเครื่องบินเท่านั้น ก็ไม่จริง คนไปเที่ยวสิงคโปร์เกือบทั้งหมดคือคนที่พักอาศัยและใช้จ่ายจริงๆ ปีที่แล้วเขามีรายได้จากการท่องเที่ยว 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2 แสนล้านบาท พอๆ กับที่ประเทศไทยหามาได้ แต่ประเทศไทยประชากร 69 ล้านคน พื้นที่ใหญ่กว่า 710 เท่า

สิงคโปร์ ไม่ได้มีแต่ถนนนาธาน เขามีย่านการค้าที่ขยายไปทั่วประเทศ เรื่องค้าขายนั้นคนสิงคโปร์ไม่เคยเป็นรองใคร ตลาดเขามีทั่วทุกหัวระแหง แม้คนของเขาจะจับจ่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตกันไปเกือบทั้งมดแล้ว แต่ก็ยังมีตลาดท้องถิ่นในทุกหย่อมย่านที่มีคนพักอาศัย

ที่สิงคโปร์โดดเด่นมาก คือ ศูนย์อาหาร ที่เขารวบรวมเอาหาบเร่แผงลอยขายอาหารที่เคยกระจัดกระจาย มารวมกันไว้เพื่อง่ายต่อการเข้าถึง และการควบคุม เขาเรียกอาหารที่ขายในศูนย์อาหารเหล่านี้ว่า Hawker Food หรือ อาหารหาบเร่ แม้ว่าจะไม่หาบเร่อีกแล้วก็ตาม

มีศูนย์อาหารแบบนี้กระจายทั่วประเทศกว่าพันแห่ง ส่วนใหญ่จะอยู่ในย่านที่พักอาศัย คนสิงคโปร์อยู่บนอาคารสูงและพื้นที่จำกัด เขาจึงมีศูนย์อาหารไว้ใต้อาคารให้คนได้ดื่มกิน ไม่ต้องไปหุงหาเองบนอาคาร ราคาก็เป็นมิตรเพราะศูนย์อาหารบริหารโดยรัฐบาล

คนสิงคโปร์ละเอียดลออเรื่องอาหาร เพราะฉะนั้น ต่อให้เป็นอาหารในศูนย์อาหารเบๆ แบบนี้ก็หาได้ใช่ไก่กาไม่ ทั้งรสชาติ ทั้งความสดใหม่และความสะอาด ไม่น้อยหน้าร้านอาหารหรูหราใดๆ บางร้านมีคนเข้าแถวยาวอย่างอดทนเพราะว่ากันว่าอร่อยนักหนา และไปถึงขั้นได้ดาวมิชลินก็มี อย่างข้าวมันไก่ที่ตึกไชน่าทาวน์คอมเพล็กซ์ และบะหมี่หมูแดงที่ถนนครอว์ฟอร์ดเลน …เอากับเขาสิ

คนไทยไปสิงคโปร์ มักโวยวายเรื่องค่าครองชีพสูง คิดแบบนั้น คือ เอามาตรฐานไทยไปจับ ถ้าลองคิดว่าเขาขายซุปกระดูกหมู ที่เรียกกันว่าไป่กุ๊ดเต๋ ชามละ 5 เหรียญสิงคโปร์ หรือราว 125 บาท แต่คนมีรายได้เฉลี่ยเดือนละแสนกว่าบาท มันจะแพงตรงไหน บ้านเรือนเขาก็ได้รัฐบาลสนับสนุน ประชาชนไม่ต้องเป็นหนี้ตลอดชีวิตเพื่อจะหาที่ซุกหัวนอน การศึกษาฟรี สวัสดิการรักษาพยาบาลและผู้สูงอายุฟรี แบบนี้แพงตรงไหน

 แล้วเมืองไทยถูกกว่าตรงไหน?

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 4
  • Fon
    ก็ลองค่าแรง 300บาทสิ กินซุปกระดูกหมู 125บาท ยังไม่ร่วมข้าว จะไหวไหมละ รัฐสวัสดิการเขาดีเพราะภาษีแพงกว่าไทยอยู่นะ ทุกวัน รักศรพยาบาลเราฟรี
    26 มิ.ย. 2562 เวลา 05.42 น.
  • eakk
    อีก 50- 60 ปี น้ำท่วมโลกอยู่ไม่ได้แล้วสิงคโปร์ ขนาดจาร์กาตายังจมลงทุกปีๆ แต่คนสิงค์โปร์รายได้เยอะไปตั้งรกรากใหม่ที่ไหนก็ได้
    25 มิ.ย. 2562 เวลา 19.15 น.
  • 🐱JUji 🐷🍓
    คนไทยคนไหนวะ เห็นมีแต่คนชอบสิงคโปร์ อยู่ๆก็ไปเอาคนส่วนน้อยมาเขียน
    25 มิ.ย. 2562 เวลา 12.41 น.
  • Khunkea999
    เราทำได้แบบเขารึ เราก็อยุ่แบบเรา กินอยุ่เท่าที่มี ถูกๆ30-50 ต่อมื้อพออิ่ม ยิ่งแข่งขันสูง ยิ่งกดดัน อยุ่แบบไทย slow life ดีละ เมืองนอกมันเหมาะจะเที่ยว แต่ไม่เหมาะอยู่อาศัย
    25 มิ.ย. 2562 เวลา 07.16 น.
ดูทั้งหมด