"หมอยง"แนะจับตาหลัง 14วัน คนใกล้ชิดดีเจติดเชื้อหรือไม่

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีพบผู้ต้องขังชายที่อยู่ระหว่างกักกัน 14 วัน ก่อนเข้าแดนปกติของเรือนจำ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ติดเชื้อ โควิด 19 ว่า ประเทศไทยเราไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศมานานถึง 100 วันหรือกว่า 3 เดือน ถ้ามองดูประเทศอื่นๆ เช่น เวียดนามใช้เวลา 99 วัน ก็เกิดการระบาดรอบ 2 ขึ้น หรือที่นิวซีแลนด์ก็ใช้เวลา 102 วัน ก็เกิดการระบาดรอบ 2 ขึ้น และการที่ประเทศไทยไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด มานานขนาดนี้ ชี้ให้เห็นได้ว่าความสามารถของเจ้าหน้าที่และทุกฝ่ายทำงานได้ดีมาก 

ซึ่งประเทศไทยเราพยายามจะสร้างกำแพง สร้างเกาะกำบังเต็มที่ พยายามคัดกรองคนที่บินเข้ามาในประเทศไทย แต่ก็ต้องยอมรับว่า สักวันหนึ่งกำแพงนั้นอาจรั่วได้ แต่ถ้าเกิดการรั่วไหลประชาชนก็อย่าตื่นตระหนก ทุกคนควรช่วยกัน ต้องควบคุมไม่ให้เกิดการระบาด  

ในทำนองเดียวกันรายแรกที่พบผู้ติดเชื้อโควิดเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพยายามที่จะออกไปควบคุม เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด ตรงจุดนี้คือเป้าหมายที่ทุกคนต้องการ ขณะเดียวกันหากย้อนไปดูว่า 14 วันที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อรายล่าสุดนี้ไปอยู่ที่ไหนบ้าง และรับเชื้อไวรัสนี้มาจากใคร เพราะผู้ป่วยคนนี้ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ แสดงว่าเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ และการติดเชื้อภายในประเทศต้องไปดูว่าต้นตออยู่ที่ไหน และย้อนไป 14 วันตั้งแต่เขามีอาการ เขาไปสัมผัสใครบ้างหรือใครที่สัมผัสกับเขาบ้าง ทุกคนต้องให้ความร่วมมือ ถ้าทุกคนให้ความร่วมมือน่าจะควบคุมโรคนี้ได้ 

นอกจากนี้ศ. นพ.ยง ยอมรับว่า การหาต้นตอของไวรัสโควิดบางครั้งค่อนข้างยาก ยกตัวอย่างการระบาดที่ปักกิ่ง รอบ 2 หรือ ต้าเหลียน ในจีน จีนก็พยายามหาต้นตอ อย่างที่ปักกิ่งก็ไปพบที่เขียงปลาแซลมอน ที่ต้าเหลียนพบเชื้อในกุ้งที่ส่งมาจากต่างประเทศ ซึ่งถ้าหันกลับมาดูผู้ติดเชื้อโควิดรายดังกล่าว เขาทำอาชีพที่เป็นกลุ่มเสี่ยง หากย้อนไปดูตัวอย่างที่ประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น จะเห็นการระบาดของเกาหลีและญี่ปุ่น รอบ 2 เกิดขึ้นในผับในบาร์  เพราะเป็นสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายโรค เป็นสถานที่ค่อนข้างอับไม่โล่ง และมีการเปิดเพลงเสียงดังมีการร้องการเต้น พูดส่งเสียงดัง โอกาสที่จะเกิดการแพร่กระจายมีสูง ในผับในบาร์จึงเป็นแหล่งที่แพร่กระจายโรคได้ดีมาก และในเมื่อผู้ป่วยติดเชื้อคนนี้ทำงานอยู่ในผับในบาร์ โอกาสเสี่ยงจึงมีสูง 

ศ. นพ.ยง บอกอีกว่า ผู้ป่วยรายนี้ จะต้องควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด และกลุ่มคนที่อยู่ในสถานที่เดียวกันที่มีอยู่ 30 กว่าคน และถ้า 30 กว่าคนนั้นได้รับเชื้อ ต้องควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อต่ออีก โดยการย้อนไปดู 14 วันเขาอยู่ที่ไหน และรีบทำการควบคุม เชื่อว่าน่าจะควบคุมได้ เพราะกลุ่มเสี่ยงที่สุด คือคนใกล้ชิดของเขาเหล่านั้น ทั้งคนในครอบครัว และคนที่ไปใช้บริการ  

ต่อจากนี้ไปในกรณีนี้ ถ้าเราสามารถควบคุมได้ อีก 14 วัน ไม่มีรายใหม่เกิดขึ้น ก็ถือว่าเหตุการณ์นี้ยุติลง แต่ถ้ามีรายใหม่เกิดขึ้น ต้องไล่ย้อนหลังกันไปเรื่อยๆ แต่ก็ขอภาวนาให้อย่าให้เกิดขึ้น ถ้าอีก 14 วันข้างหน้าไม่มีก็ถือว่าปลอดภัย