ข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ด้วยลักษณะของหน้ากากอนามัย (Surgical masks) จะที่มีสองสี คือ ด้านมีสี กับ ด้านสีขาว ซึ่งการสวมใส่ที่ถูกต้อง คือ “ *หันเอาด้านสีออกเนื่องจากรอยพับของผ้าด้านที่ไม่มีสีจะกักเก็บน้ำลายที่เกิดจากการไอจามในตัวเราได้ดีกว่า และไม่เป็นการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น” *
โซเชียลฯ ถามรัฐทำได้หรือ.. คนจีนแห่ซื้อหน้ากากอนามัย หวั่นคนไทยขาดแคลน
ทางการไต้หวัน สั่ง ปรับคนแพร่ข่าวปลอมไวรัสโคโรนา กว่า 3 ล้านบาท
*ส่วนวิธีการสวมใส่ให้ถูกต้อง คือ *
*1.นำบานพับคว่ำลง ให้ขอบที่มีแถวลวด อยู่ด้านบน *
*2.ดึงสายรัดทั้งสองข้างคล้องหู *
*3.กดแถบลวดให้แนบสันจมูก *
4.ดึงหน้ากากให้คลุมถึงใต้คาง
โดยหน้ากากอนามัย (Surgical masks) จะช่วยดักอนุภาคขนาดใหญ่จากผู้สวมใส่ เช่น น้ำลายหรือน้ำมูก ไปสู่บรรยายกาศ โดยรอบหรือสภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือในบริเวณปลอดเชื้อ รวมถึงอาจใช้เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการกระเด็นหรือละอองของเลือด (Blood) ของเหลวในร่างกาย (Body fluid) สารคัดหลั่ง (Secretion) และของเสียจากการขับถ่าย (Excretion) เข้าสู่ปากและจมูกของผู้สวมใส่
กรมสุขภาพจิต วอนอย่าหลงเชื่อสารพัดข่าวลือ “ไวรัสโคโรนา”
ซึ่งการออกแบบหน้ากากอนามัย ถูกออกแบบมาให้ ไม่แนบกระชับกับใบหน้าโดยมีช่องว่างระหว่างใบหน้ากับหน้ากาก ทำให้อากาศที่ไม่ถูกกรองไหลผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้
สำหรับหน้ากากอนามัย (Surgical masks) ผลิตขึ้นจากใยสังเคราะห์ เช่น พอลิพรอพิลีน (Polypropylene) ที่มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ โดยหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพจะต้องมีชั้นกรองอย่างน้อย 3 ชั้น เพื่อช่วยป้องกันเชื้อโรค มลพิษหรือของเหลวจากภายนอก และช่วยดูดซับสารคัดหลั่งหรือความชื้นที่มาจากผู้ใช้ สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึง 3-5 ไมครอน
ข้อมูล : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข