หล่อ รวย และยังโสด คุยกับ “ไท้ วสุวัส” ทายาทคนสุดท้อง "คูหาเปรมกิจ" เจ้าของฉายา #น้องเจ้าบ่าวบอกต่อด้วย

ฮอตไม่แพ้!! บ่าวสาว เปิดใจน้องไฮโซเซนต์ “ไท้ วสุวัส” เจ้าของฉายา #น้องเจ้าบ่าวหล่อบอกต่อด้วย ทายาทคนสุดท้องของตระกูลค้าทองหมื่นล้าน “คูหาเปรมกิจ” พร้อมสถานะ “ยังโสด” เผยมุมมองคู่ชีวิตอยู่ด้วยแล้วสบายใจนั่นคือคนที่ใช่

ในช่วง 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมาหลายคนคงเริ่มสงสัยว่าหนุ่มหล่อๆ หน้าสไตล์โอปป้าเกาหลีที่เดินไปเดินมาอยู่ในงานแต่งของ “มิว นิษฐา” กับ “ไฮโซเซนต์” เป็นใคร? บางคนก็ถึงบางอ้อแล้วว่านี่แหละคือน้องชายคนสุดท้องของตระกูลค้าทองรวยหมื่นล้าน “คูหาเปรมกิจ” ที่ชื่อว่า “ไท้ วสุวัส คูหาเปรมกิจ” ซึ่งโปรไฟล์ก็ไม่ธรรมดาเพราะหนุ่มคนนี้จบปริญญาโทจาก Imperial College London และเคยดำรงตำแหน่ง Business Development หรือการวางแผนกลยุทธ์ให้กับบริษัททรูมาก่อน

ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้กลับมาบริหารธุรกิจของที่บ้านแบบเต็มตัวในฐานะกรรมการผู้จัดการ ห้างทองจิ้นไถ่เฮง ที่เป็นการรับช่วงต่อจากคุณแม่ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าหลังจากออกไปหาประสบการณ์ในการเป็นลูกจ้าง และพอได้กลับมาบริหารงานที่บ้านในฐานะผู้บริหาร ก็มั่นใจได้เลยว่าจะนำเอาประสบการณ์ที่ผ่านมา มาพัฒนาธุรกิจเกี่ยวกับการค้าทองคำให้เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้

นอกจากโปรไฟล์ด้านธุรกิจ การเรียนจะเป๊ะปังขนาดนี้ ไลฟ์สไตล์ของหนุ่มคนนี้ก็น่าค้นหาอย่างยิ่ง เพราะถ้าสังเกตุจากไอจี @tie_ku ภาพแต่ละภาพของเขานั้นสื่อสารถึงความมีศิลปะ เจ้าตัวบอกว่าชีวิตการทำงานก็ต้องบาลานกับความสุขซึ่งได้มาจากการพักผ่อนนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เห็นรวยๆ หล่อๆ แบบนี้แต่สเตตัสหัวใจก็ยังโสด เพราะหลังจากอกหักมา 7 ปีแล้ว เขาก็ยังหาใครมาดามใจไม่ได้เลย…“อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมโสดนานขนาดนี้ (หัวเราะ) แต่ผมก็ค่อนข้างมีความสุขกับชีวิตตอนนี้อยู่ เราอยู่กับเพื่อน และทำงาน ก็ค่อนข้างแฮปปี้เลย"

"ยิ่งพอกลับมาทำงานที่บ้านแล้ว เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเราอยากขยาย ต่อยอดธุรกิจของที่บ้าน ผมว่ามันมีอะไรในชีวิตที่ทำนอกจากการหาแฟน ซึ่งแฟนหรือคู่ชีวิตมันเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมในเรื่องต่างๆ แต่ถ้าเราต้องไปทุ่มให้เขาอยู่ฝ่ายเดียว ผมว่าความรักแบบนั้นก็ไม่ใช่ความรักที่อยากได้ มันต้องเป็นภาพรวมที่เราแฮปปี้ เราต้องอยู่ด้วยและต้องสบายใจ”

“ซึ่งที่ผ่านเราทุ่มเทไหม ก็อย่างที่บอกตอนเด็กๆ มันมีแบบแฟนตาซีเนอะ เรามองว่าความรักมันต้องพิเศษและทุ่มเท แต่พอโตขึ้นมันก็จะเห็นมุมมองที่ต่างกันออกไป อย่างที่บอกความรักมันควรจะเป็นเพื่อนคู่คิด ควรที่จะอยู่ด้วยกันและสบายใจ และส่งเสริมกันในทุกๆ เรื่องครับ”

ในส่วนของเรื่องความฮอตจนกลายเป็น “สมบัติของชาติ” พร้อมกับแฮชแทค #น้องเจ้าบ่าวหล่อบอกต่อด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบกลับแบบขำๆ ว่ายังไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองฮอตอะไรขนาดนั้น…“ผมว่าก็ยังไม่ค่อยฮอตขนาดนั้น แต่ก็ดีใจที่คนอยากรู้จักเรามากขึ้น ซึ่งถามว่ามีใครจำเราได้มากขึ้นไหม ก็ยังไม่ค่อยมีเท่าไรนะครับ หรือเขาอาจจะยังไม่กล้าเข้ามาทัก (หัวเราะ)"

"ส่วนเรื่องหน้าจาที่หลายคนอาจจะนึกว่าเป็นคนเกาหลีหรือเปล่า จริงๆ มีเพื่อนเกาหลีที่เรารู้จัก เขาก็บอกว่าเราเหมือนคนเกาหลีมากกว่า แต่ผมว่าหน้าเราโซนเอเชีย สงสัยมันก็คงใกล้เคียงกันหมดแหละครับ (พอคนรู้จักมากมันทำให้ใช้ชีวิตลำบากไหม?) ผมว่าไม่นะครับ ก็ปกติเลย ไม่มีต่างอะไร”

ในส่วนของงานบันเทิง ถ้ามีติดต่อเข้ามา หนุ่มไท้ก็บอกว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทาย แต่ขอดูเป็นงานๆ ไป…“ผมว่าดูโอกาสดีกว่าว่ายังไงดีกว่า แต่ผมว่าน่าสนใจดี เพราะมันเป็นอะไรที่ใหม่และท้าทาย”

เผยดีใจที่พี่ชาย “หนุ่มเซนต์” ได้ดาราสาว “มิว นิษฐา” มาเป็นภรรยา

“ก็ดีใจกับเขาเพราะเขาเป็นคู่ที่น่ารักจริงๆ ทั้งมิวและเซนต์ เขาเป็นคนที่ดูแลกันและกัน ด้วยอุปนิสัยของทั้งคู่ผมมองว่าเขาเหมาะสมกันดี เพราะตอนที่เขาคบกันแรกๆ เซนต์ก็ไม่ได้มาปรึกษาอะไร เพราะเขาไม่ได้บอก แต่แอบไปรู้เอง แต่เราก็ทำเป็นเงียบๆ รอเขาบอก(หัวเราะ)"

"อีกอย่างเรื่องแบบนี้เราสามพี่น้องก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร ส่วนมิวน่ารัก ผมว่าด้วยอายุใกล้เคียงกันก็เหมือนกับว่าเป็นเพื่อนกันเลย และผมเองก็รู้จักกับเพื่อนมิวหลายคนด้วย ผมว่าพออายุใกล้กันก็คุยกันง่ายเหมือนเพื่อนกันมากกว่า และเขาก็น่าจะดูแลพี่ชายเราได้ดี เพราะผมว่าคู่นี้เขาน่ารัก เพราะเขาผลัดกันดูแลกัน”

“และหลายคนอาจจะเห็นเซนต์เปลี่ยนไป แต่คือจริงๆ เซนต์เป็นคนที่น่ารักอยู่แล้ว เขาเป็นคนที่แบบสนใจและใส่ใจรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ เพื่อน หรือพี่น้อง ผมว่าเขาเป็นคนโรแมนติกอยู่แล้ว และพอมาเจอกับมิวที่เป็นคนค่อนข้างหวาน ผมว่าก็เข้ากันดี ก็เลยทำให้เซนต์ซอฟท์ลงหรือเปล่า แต่เขาก็เป็นเขา แบบนี้อยู่แล้ว”

สุดท้ายเมื่อถามว่าแล้วเราจะมีแฟนเป็นคนในวงการเหมือนพี่ชายเราไหม? หนุ่มไท้ตอบสั้นๆ ว่า…“ถ้าพูดถึงเรื่องแฟน ผมไม่ได้ฟิกซ์อยู่แล้ว เพราะคนที่ใช่ มันไม่ต้องกำหนดหรอกว่าต้องเป็นอย่างไร แค่รู้สึกอยู่ด้วยแล้วสบายใจก็ให้เป็นคนนั้นดีกว่า…”