ไลฟ์สไตล์

ป้องกันได้ไหม รับมือเชื้อโรคอย่างไร? ทำความเข้าใจ และรู้จัก 'ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่'

The MATTER
อัพเดต 25 ม.ค. 2563 เวลา 13.23 น. • เผยแพร่ 24 ม.ค. 2563 เวลา 12.00 น. • Health

ฝุ่นก็มี โรคระบาดก็มา แถมยังมีทีท่าว่า ผู้ติดเชื้อจะมีจำนวนมากขึ้น และแพร่ระบาดไปในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่ตอนนี้ เป็นประเทศที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด รองจากจีนด้วย!

ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ คือโรคอะไร? ระบาดจากไหน? มีต้นตอมากจากอะไร? The MATTER สรุปข้อมูลมาให้เข้าใจ และรู้จักกับ ‘ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่’ รวมถึงวิธีสังเกตอาการ และการป้องกันตัวเอง และสถานการณ์อัพเดทล่าสุดมาให้แล้วในอัลบั้มเดียว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ไวรัสโคโรนา คืออะไร?  

Coronaviruses เป็นไวรัส RNA และเป็นไวรัสกลุ่มใหญ่ ที่พบครั้งแรกในช่วงทศวรรษปี 1960 ซึ่งชื่อ Corona ของไวรัสนี้ เป็นภาษาลาติน ที่แปลว่ามงกุฎ หรือ รัศมี จากรูปทรงของไวรัสที่คล้ายคลึงกับมงกุฎ ซึ่งปกติแล้ว ไวรัสนี้จะเกิดขึ้นในสัตว์ ตั้งแต่สัตว์ป่า อย่างค้างคาว ไปถึงสัตว์เลี้ยงทั่วไปได้ และในบางกรณี ไวรัสนี้สามารถถ่ายทอด และติดต่อจากสัตว์ สู่มนุษย์ได้ด้วย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จริงๆ แล้วเชื้อไวรัสโคโรนา เป็นเชื้อที่ไม่อันตราย และเป็นปกติที่คนจะติดเชื้อนี้ จากอาการหวัด ซึ่งทำให้เกิดการติดเชื้อในจมูก ไซนัส หรือคอ ทั้งไวรัสโคโรนาเอง เคยระบาดในมนุษย์มาแล้ว 6 สายพันธุ์ ซึ่งการระบาดในครั้งนี้ ถือเป็นสายพันธุ์ที่ 7 ซึ่งก่อนหน้านี้ เรารู้จักเชื่อไวรัสนี้ ในชื่อโรคซาร์สหรือโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ที่เคยระบาดมาก่อนในเอเชีย เมื่อปี 2002 และ โรคเมอร์สหรือโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS) ที่พบในตะวันออกกลาง เมื่อปี 2012

ที่มาของไวรัส เริ่มระบาดจากไหน?

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ไวรัสโคโรนาที่ระบาดอยู่ในตอนนี้ เป็นไวรัสตัวใหม่ที่ถูกเรียกในชื่อ ‘2019-nCoV’ ซึ่งตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์เองต่างก็พยายามศึกษา และทำความเข้าใจถึงข้อมูลของมันอยู่

จุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากพบผู้ป่วยหลายคน ในเมืองอู่ฮั่น เมืองที่มีประชากรกว่า 11 ล้านคน ในมณฑลหูเป่ย มีอาการคล้ายปอดอักเสบ และอาการไข้หวัดใหญ่ ซึ่งหลังจากเก็บตัวอย่างไวรัสของคนไข้นำไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการณ์ ทางการจีนก็ได้ออกมายืนยันในวันที่ 31 ธันวาคม 2019 ว่า เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งจีน และองค์กรอนามัยโลก (WHO) ระบุชื่อเรียกว่า ไวรัสโคโรนา

ซึ่งคณะกรรมการด้านสุขภาพของอู่ฮั่นระบุว่า การติดเชื้อเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 29 ธันวาคม ปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจุดเริ่มต้นมาจากตลาดอาหารทะเลของเมืองอู่ฮั่น ซึ่งผู้ป่วยบางรายทำงาน และเป็นลูกค้าที่ตลาดนี้ ที่นอกจากการขายสัตว์ทะเลทั่วไปแล้ว ตลาดนี้ยังมีการจำหน่ายสัตว์ที่มีชีวิตอื่นๆ เช่น นก กระต่าย และงู

ก่อนหน้านี้ มีการคาดเดาว่า ไวรัสอาจมาจากค้างคาวผลไม้ แต่จากการศึกษา กลับพบว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นั้น อาจมาจากงู เพราะนักวิจัยใช้การวิเคราะห์รหัสโปรตีนที่จากเชื้อไวรัสโคโรนาใหม่ และนำไปเปรียบเทียบรหัสโปรตีนจากเชื้อไวรัสโคโรนาในสัตว์ ซึ่งพบว่า รหัสโปรตีนใน 2019-nCoV นั้นใกล้เคียงกับงูมากที่สุด โดยเฉพาะงูสามเหลี่ยม และงูเห่าในจีน ซึ่งคาดการณ์ว่า เชื้อกลายพันธุ์มาถึงงู เมื่อที่งูกินค้างคาว ซึ่งไวรัสนี้ สามารถปรับตัวเข้าได้กับทั้งสัตว์เลือดเย็น และเลือดอุ่นด้วย

วิธีการติดต่อ และอาการของโรค

อาการโดยรวมของไวรัสตัวนี้ คล้ายคลึงกับไข้หวัด ซึ่งมีทั้งอาการ ไอแห้งๆ เจ็บคอ น้ำมูกไหล จาม มีไข้สูง รวมไปถึงหายใจเหนื่อยหอบ ซึ่งเป็นอาการของโรคทางเดินระบบหายใจ ทั้งอาจจะมีอาการอย่างการท้องเสียเกิดขึ้นได้ด้วย โดยระยะฟักตัวของอาการจะอยู่ที่ประมาณ 2-14 วัน

ซึ่งทางการจีนได้ออกมายืนยันแล้วว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ แพร่ระบาดจากคนสู่คนได้ หลังจากที่พบผู้ป่วยหลายคน ไม่มีประวัติการเดินทางไปที่ตลาดอาหารทะเลอู่ฮั่นมาก่อน ก็ติดเชื้อได้ โดยการแพร่เชื้อจากคนสู่คน มักเกิดขึ้นจากการสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ เช่น ละอองจากการไอขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเชื้อไวรัส ทั้งยังแพร่กระจายได้โดยการสัมผัสสิ่งที่ผู้ติดเชื้อสัมผัสแล้ว เช่นแตะที่ปาก จมูก หรือตา ด้วย

ในตอนนี้ แพทย์และผู้เชี่ยวชาญกำลังทำความเข้าใจว่า ใครเป็นผู้มีโอกาสติดเชื้อ และมีความเสี่ยงมากที่สุด ซึ่งในตอนนี้ พบว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ อยู่ในช่วงอายุมากกว่า 40 – 90 ปี เช่นเดียวกับช่วงการระบาดของโรคซาร์ส และเมอร์ส ที่พบว่าส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อก็เป็นผู้สูงอายุเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีรายงานว่า พบเด็กวัย 10 ขวบติดเชื้อไวรัสนี้แล้วด้วย  ซึ่งบางคนอาจถูกพิจารณาว่า เป็นคนที่มีโอกาสแพร่เชื้อโรคมากเป็นพิเศษ

 

*วิธีการรักษา และป้องกัน *

ในตอนนี้ ยังไม่มีวิธีรักษา หรือวัคซีนเฉพาะสำหรับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่สามารถหายได้ เพราะก็มีผู้ที่หายจากโรคแล้วด้วย โดยส่วนใหญ่ฟื้นตัวได้ด้วยตนเอง ทั้งนักวิจัยในสหรัฐฯ และบริษัทเอง ก็กำลังประกาศว่ากำลังพัฒนา ในขณะที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน ก็แนะนำว่า การแพทย์แผนจีน และปอดเทียมอาจนำมาใช้ในการรักษาครั้งนี้ได้ด้วย

ด้านกรมควบคุมโรคของไทยเอง ก็ได้ทำการแจ้งเตือนในระดับ 3 คือหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยัง เมืองอู่ฮั่น ตามคำประกาศของทางการจีน รวมถึงยังได้แนะนำวิธีป้องกันตน ว่า

ระหว่างเดินทางในต่างประเทศขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีมลภาวะ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม หากเลี่ยงไม่ได้ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร เนื้อสัตว์ที่ไม่สุกดี หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น (เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว) เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย ภายใน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวม และมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้ รวมถึงให้สอบถามอาการได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422  

 สถานการณ์ในเมืองอู่ฮั่น และในจีน

อู่ฮั่น จุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส และเป็นเมืองที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ถือเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางของเส้นทางรถไฟ และรถไฟความเร็วสูสายสำคัญหลายสายที่เชื่อมโยงไปยังเมืองใหญ่ของจีน เมืองนี้เป็นหนึ่งในสิบเมืองเศรษฐกิจของจีน และเป็นประตูสู่เก้าจังหวัดต่างๆ ด้วย ทั้งอู่ฮั่นเองยังเป็นเมืองที่มีท่าเรืองกลาง ที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำแยงซีของจีน ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในเอเชีย และเส้นทางนี้ถูกใช้ส่งอาหาร ผลิตภัณฑ์ และการขนส่งสาธารณะด้วย จึงมีความกังวลว่าการแพร่ระบาดของเชื้อ จะขยายไปกับเส้นทางเหล่านี้

ในตอนนี้ 8 เมืองในมณฑลหูเป่ย ได้แก่ อู่ฮั่น ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่เชื้อ, หวงกัง, เอ้อโจว, ชิบิ, เซียนเถ่า, เฉียนเจียง, ซีเจียง และ หลี่ฉวน ถูกสั่งระงับการเดินทางขนส่งสาธารณะทุกชนิดแล้ว ซึ่งการปิดเมืองทำให้เกิดการแย่งชิงกักตุนสินค้าของประชาชน ทั้งอาหาร และยา รวมไปถึงราคาสินค้าต่างๆ ที่พุ่งขึ้นสูง ถึงอย่างนั้นก็มีการประกาศรับมือว่า อู่ฮั่นกำลังได้สร้างโรงพยาบาลพิเศษในเมือง เพื่อผู้ป่วยติดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ตั้งเป้าเสร็จใน 10 วันด้วย

นอกจากนี้ กรุงปักกิ่ง และหลายเมืองในจีน ก็ประกาศยุติการจัดงานเทศกาลตรุษจีนแล้ว เนื่องจากกลัวว่าการฉลองจะยิ่งทำให้การแพร่ระบาดรุนแรงขึ้น ทั้งยังสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศอย่าง พระราชวังต้องห้ามด้วย

โดยสถานการณ์ในตอนนี้ ในประเทศจีนเหลือเพียงแค่ในมณฑลชิงไห่ และทิเบต เท่านั้นที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และพบผู้ติดเชื้อแล้วทั้งหมด 885 ราย และเสียชีวิตรวม 26 ราย ซึ่งมณฑลหูเป่ยมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ที่ 549 ราย รองลงมาคือ มณฑลกว่างตงที่ 53 ราย และเมืองหลวงปักกิ่งที่ 29 ราย

สถานการณ์ของการแพร่ระบาดในทั่วโลก

มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้ว ในหลายประเทศทั่วโลก โดยถ้านับนอกจีนแผ่นดินใหญ่แล้ว ไทยถือเป็นประเทศที่พบผู้ติดเชื้อโคโรนามากที่สุด คือ 5 ราย (รักษาหายดี และกลับจีนแล้ว 2 ราย) ส่วนประเทศอื่นๆ ได้แก่

สิงคโปร์ 3 ราย ฮ่องกง 2 ราย มาเก๊า 2 ราย เกาหลีใต้ 2 ราย ญี่ปุน 2 ราย เวียดนาม 2 ราย ไต้หวัน 1 ราย สหรัฐฯ 1 ราย  แต่ถึงอย่างนั้นองค์การอนามัยโลกก็ได้ตัดสินใจที่จะไม่ประกาศสถานการณ์นี้ เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพระดับโลก

(อัพเดทเมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 24 มกราคม 2563)

อ้างอิงจาก

https://www.livescience.com/new-coronavirus-origin-snakes.html

https://www.webmd.com/lung/coronavirus#1

 

https://edition.cnn.com/2020/01/22/health/snakes-wuhan-coronavirus-outbreak-conversation-partner/index.html?utm_term=link&utm_medium=social&utm_content=2020-01-23T04%3A31%3A08&utm_source=fbCNN&fbclid=IwAR1uRXsEfuMYONDhz9ZeerpYgdI6d50ulbf_rjbeAbbs7NjrAIkJdybirto

https://edition.cnn.com/2020/01/20/health/what-is-coronavirus-explained/index.html?fbclid=IwAR34JvrZjVyIjdu5KKxDC2CuUgznPmOFWwSwFKmyEucDzq7zvxRTCUaww-g

https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/index.html

https://www.nytimes.com/2020/01/23/world/asia/china-coronavirus.html

https://theconversation.com/explainer-what-exactly-is-coronavirus-35456

https://www.cnet.com/how-to/coronavirus-reaches-us-everything-we-know-about-the-deadly-virus/

https://www.businessinsider.com/wuhan-china-coronoavirus-city-sealed-cut-off-stockpile-food-2020-1?fbclid=IwAR1hNYxuT3OKqmDw8ZArqKGMFslIKsgZlgcU_BKU6X1IG863gKRDVC9Y5p8

https://www.aljazeera.com/news/2020/01/china-coronavirus-outbreak-latest-updates-200123133559818.html

Illustration by Sutanya Phattanasitubon

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 4
  • Sontaya🦮
    ประเทศไทย ยังรับนักท่องเที่ยว จีน จากเมืองที่ระบาด วันละ 3 เที่ยวบิน เป็นอย่างน้อย ไม่มีมาตรการใดๆ แค่ใช้คำว่าเฝ้าระวัง ซึ่งต่างจากสมัยรัฐบาล ที่กำจัด ขอบเขตโรคชาร์ ได้ชัดเจนเด็ดขาด แม้เราจะยังไม่รู้จักมันก็ต้องป้องกันให้เด็ดขาด. ไม่ใช่อย่างทุกวันนี้
    24 ม.ค. 2563 เวลา 14.11 น.
  • กี้ร์ ศักยภาพผมพร้อม
    ตอนนี้คนจีนฉลาดขึ้นแล้วใครเป็นไข้ก่อนเข้าประเทศนั้นๆ กินยาพาราลดไข้สองเม็ด ก่อนลงเครื่อง ก็จะผ่านการตรวจคัดกรองสแกนความร้อนของสนามบิน เข้าประเทศได้อย่างสบายเอาเชื้อมาแพร่ได้เลยทันที ตอนนี้ที่ฝรั่งเศสโดนคนจีนทำแบบนี้ไปแล้ว
    24 ม.ค. 2563 เวลา 13.56 น.
  • thana
    ตายห่าทั้งประเทศแน่ เจอรัฐบาลเฮงซวยควายแบบนี้ด้วย
    24 ม.ค. 2563 เวลา 13.41 น.
  • Hichicz
    อย่าให้ระบาดในไทยนะ กุไม่เชื่อใจรัฐบาล เดียวแก้ปัญหาโง่ๆอีก
    24 ม.ค. 2563 เวลา 13.19 น.
ดูทั้งหมด