การต่อขนตาเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ทำให้ขนตาสวยงอนเด้ง ไม่ต้องง้อที่ดัดขนตา หรือไม่ต้องเสียเวลาปัดมาสคาร่าให้ยุ่งยาก ราวกับตื่นมาแล้วขนตาสวยเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีปัญหาขนตาสั้น ไม่งอน ไม่เด้ง แต่ก่อนที่จะตัดสินใจต่อขนตา เราจำเป็นที่จะต้องศึกษา ทำความเข้าใจกับการต่อขนตาซะก่อน เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ และนี่คือ 6 ข้อที่เราต้องรู้ก่อนตัดสินใจจะต่อขนตา
1.ประเภทของขนตา
วัสดุที่นำมาใช้ในการต่อขนตา มีทั้งขนมิงค์ ขนสังเคราะห์ ขนมิงค์เทียม และเส้นไหม ซึ่งวัสดุที่ได้รับความนิยมจะมีขนมิงค์ ขนสังเคราะห์ และไฟเบอร์ ที่มีขนนิ่มกำลังพอดี มีความใกล้เคียงกับขนตาจริง มีน้ำหนักเบา สามารถทำความสะอาดได้ง่าย โดยในการเลือกประเภทของขนตา อาจปรึกษาช่างต่อขนตาว่าขนตาแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด ทำจากที่ไหน และทำมาจากอะไร จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาศึกษาอีกทีว่า มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง
2.ทดสอบอาการแพ้
มีผู้คนร้อยละ 1 ไม่สามารถที่จะทำการต่อขนตาได้ เนื่องจากอาการแพ้ อีกทั้งสารเคมีและเครื่องมือที่ใช้ในการต่อขนตา จะอยู่ใกล้ชิดดวงตาซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญในการมองเห็น ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการทดสอบอาการแพ้ก่อนการติดขนตา
3.ไม่ควรนำขนตาสำเร็จรูปมาใช้ในทันที
ขนตาที่สวยงามและแข็งแรง จะเข้ากันได้กับแต่ละคน หากได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกันก่อน โดยก่อนทำการนัดหมายควรสอบถามถึงขนิดและขนาดของขนตาที่ใช้
4.ช่างต่อขนตาต้องระดับมืออาชีพ
ช่างต่อขนตาจำเป็นที่จะต้องมีความเชี่ยวชาญในระดับมืออาชีพ มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง และได้รับประกาศนียบัตรด้านการต่อขนตาจากโครงการฝึกอบรมจริงๆ และเป็นช่างที่มีสุขอนามัยที่ดี
5.ร้านต่อขนตาต้องได้มาตรฐาน
การเลือกร้านต่อขนตาควรคำนึงถึงความสะอาดเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ อุปกรณ์ วัสดุที่ใช้ต่อขนตาจะต้องมีคุณภาพและปลอดภัยต่อดวงตา
6.ขนตาคุณภาพดีต้องติดได้นาน 4-8สัปดาห์
หากช่างแจ้งว่าหลังจากที่ทำแล้ว 2-3 สัปดาห์ ให้มาเติมขนตา นั่นหมายความว่า ขนตาที่ใช้ไม่มีคุณภาพ เป็นวัสดุราคาถูก ควรหลีกเลี่ยงการต่อขนตากับร้านนี้ ถึงแม้ว่าราคาจะถูกมากก็ตาม
หลังจากที่ทำการต่อขนตา ควรหลีกเลี่ยงการดัดขนตาหรือปัดมาสคาร่าซ้ำ เนื่องจากตัวกาวที่ใช้ทำให้ขนตาจริงเปราะหักง่าย เมื่อดัดขนตาหรือปัดมาสคาร่า จึงทำให้ขนตาจริงที่บอบบางเกิดเปราะหักง่ายขึ้นไปอีก