Facebook :Travel @ Manager
“บานา” เป็นตำบลหนึ่งของอำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน คำว่า บานา เป็นภาษาเปอร์เซียซึ่งมีความหมายว่า เมืองท่าเรือ มีบันทึกไว้ว่า บานา ในอดีตนั้นเป็นเมืองท่าของอาณาจักรมลายูลังกาสุกะฝั่งทะเลตะวันออก และเดดาห์ โดยมีเรือสินค้ามาจอดนับร้อยลำ
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของบ้านบานา คือสะพานไม้บานา ที่ทอดยาวออกสู่ท้องทะเล โดยความเป็นมาของสะพานไม้แห่งนี้เกิดจากความร่วมมือกันของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติป่าชายเลน ซึ่งได้เปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติป่าชายเลน ซึ่งครอบคลุม 5 พื้นที่คือ บานา ตันหยงลูโล๊ะ แหลมโพธิ์ บาราโหม และบางปู ที่เป็นพื้นที่รอบอ่าวปัตตานี
หลังจากเดินตามทางสะพานไม้ที่ทอดยาว เพื่อมาลงเรือเที่ยวออกสู่ทะเล ซึ่งที่นี่จะมีกิจกรรมการล่องเรือชมอุโมงค์ต้นโกงกางที่เลื่องชื่อ ชมวิถีชาวประมงพร้อมกับวัฒนธรรมของชาวอิสลาม สัมผัสกับความร่มรื่นของธรรมชาติและความมหัศจรรย์ของป่าชายเลนนี้ ทั้งกิจกรรมเก็บหอย ล่องชมวิถีชีวิตประมงพื้นบ้านในพื้นที่มุ่งหน้าไปที่ลานโกงกาง ซึ่งเป็นลานไม้ไผ่สร้างเพื่อเป็นจุดชมวิวภายในอ่าวปัตตานี
ไม่นานนักก็มาถึงยังผืนป่าโกงกาง ที่มีลำต้นทอดยาวของทั้งสองฝั่งเข้าหากันเป็นซุ้มอุโมงค์สีเขียวขจี มองแล้วเพลิดเพลินสบายตา และหากว่าได้นั่งอยู่บนเรือที่ดับเครื่องยนต์ ลอยล่องอยู่บนลำน้ำที่เงียบสงบ ก็จะยิ่งทำให้เราได้ผ่อนคลายกายใจไปกับธรรมชาติอันแสนงามอีกด้วย
ร่มไม้ของผืนป่าโกงกาง ได้ให้ร่มเงาจากโค้งกิ่งก้านสาขา ไม้โกงกางที่โอบล้อมเข้าหากันด้วยอายุที่ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน กลายเป็นอุโมงค์ทอดยาวรถเลี้ยวเคี้ยวคด ยื่นสู่ท้องทะเลจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์จากธรรมชาติน่าชมเป็นอย่างยิ่ง
ความงามแห่งท้องทะเลอ่าวปัตตานี ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าโกงกางแห่งนี้ นอกจากจะเป็นประโยชน์จากการป้องกันด้านการกัดเซาะชายฝั่งของคลื่นลมแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำตามธรรมชาติ ช่วยอนุบาลสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในพื้นที่ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย จนเกิดเป็นแหล่งอาหารทะเลที่สมบูรณ์ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา เป็นอาหารสดรสชาติที่มีเอกลักษณ์จากอ่าวปัตตานี เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตปากท้องผู้คนในพื้นที่มานับตั้งแต่โบราณ
เมื่อนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในชุมชนนี้ จะได้ชมและสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติและภูมิทัศน์ของอ่าวปัตตานี ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ค่อยๆ ลาขอบฟ้า
และที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้การอนุรักษ์สัตว์ทะเลที่เป็นแหล่งอาหารหล่อเลี้ยงชีวิต ชาวประมงพื้นบ้านตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันอีกด้วย สำหรับเมนูอาหารพื้นถิ่นบ้านบานา ที่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนจะได้ลองลิ้มชิมรส จึงเต็มไปด้วยความสดใหม่ของวัตถุดิบอาหารทะเลจากฝีมือชาวประมงพื้นบ้านที่ล่องเรือหาปลาแบบวันต่อวัน
ชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่นี้ประมาณ 90% มีอาชีพประมงพื้นบ้าน นอกจากนั้นก็จะประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป เมื่อถึงฤดูสัตว์วางไข่ทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพประมงได้ ก็จะขับเรือรับจ้างเป็นอาชีพเสริม โดยร่วมมือกันภายในชุมชนนำเรือที่ว่างจากการทำงาน มาเป็นเรือรับจ้างขนส่งนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน และชมความสวยงามของธรรมชาติแห่งท้องทะเล
ยังมีอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของวิถีชีวิตชาวชุมชนปัตตานี นั่นก็คือการทำนาเกลือ ซึ่งการทำนาเกลือที่ปัตตานีนั้นมีมาตั้งแต่อดีตนับร้อยปี โดยได้เล่ากันต่อมาหลายช่วงอายุคนว่า เกลือเป็นสิ่งจำเป็นในการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระหว่างชุมชน โดยสถานที่ที่เหมาะสมแก่การทำนาเกลือคือพื้นที่ราบริมทะเล มีน้ำทะเลสามารถขึ้นได้ในช่วงเดือนข้างขึ้นตลอดปี สำหรับในภาคใต้นั้นก็มีนาเกลือเพียงแห่งเดียว นั่นก็คือที่ปัตตานีนั่นเอง
ปัจจุบันพื้นที่นาเกลือบางส่วนเปลี่ยนสภาพเป็นที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรม ที่อยู่อาศัย และบางส่วนเป็นนากุ้ง มีผู้ทำนาเกลือเป็นอาชีพเหลืออยู่ประมาณ 500 คน ในพื้นที่ประมาณ 3,500 ไร่ สามารถผลิตเกลือได้ประมาณ 7,000 ตันต่อปี ความโดดเด่นของเกลือปัตตานีคือรสชาติที่ชาวบ้านเรียกกันว่า เกลือหวาน หรือเกลือที่ไม่ได้มีรสชาติเค็มจัด จะมีรสชาติออกเค็มกำลังดี
นอกจากนี้ทางชุมชนยังได้นำเกลือมาต่อยอด โดยนำมาเป็นผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทำนาเกลือ มี 2 ชนิด ได้แก่ เกลือขมิ้นทอดปลา และเกลือขัดผิว เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้เกลือจากชุมชนเป็นหลัก และยังสามารถเพิ่มมูลค่าได้มากกว่าการจำหน่ายเป็นเกลือเม็ด ซึ่งมีกระบวนการที่ไม่ซับซ้อน ชาวบ้านสามารถผลิตได้ด้วยตนเอง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติป่าชายเลน (สะพานไม้บานา) เลขที่ 16 หมู่ 2 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เทศบาลเมืองปัตตานี โทร.09-0896-8090
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
beer pongsakorn อยากไปค่ะชอบบรรยากาศ
20 ส.ค. 2562 เวลา 14.41 น.
K@win ดูภาพ และเรื่องราว น่าสนใจ ไปท่องเที่ยว
สุดยอดๆๆ ค่ะ
21 ส.ค. 2562 เวลา 03.28 น.
น่าลองไปดู
20 ส.ค. 2562 เวลา 13.56 น.
sirikul อยากไปค่ะ
ปลอดภยใช่มั้ยคะ
20 ส.ค. 2562 เวลา 13.45 น.
T.cho อยากไปจังทั้ง 3 จังหวัดเลย แต่ป็อป
22 ส.ค. 2562 เวลา 01.38 น.
ดูทั้งหมด