ทนกระแสไม่ไหวพ่อยอมเผยแล้ว น้องสะดิ้ง น้องชมพู่ ลูกใคร

สืบเนื่องจากกรณีที่มีชาวเน็ตนำเรื่องราวของพ่อแม่น้องชมพู่ออกมาเผยแพร่ว่าแม่น้องชมพู่ท้องตอนแยกกับพ่อ จนทำให้ชาวเน็ตออกมาวิพากษ์วิจารย์และตั้งคำถามกันมากมาย ว่าน้องชมพู่เป็นลูกใคร ล่าสุดพ่อทนกระแสไม่ไหวจึงต้องออกมาเปิดเผยความจริง!!!

จากคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่หายตัวไปจากบ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. 63 และ พบเป็นศพบนภูเหล็กไฟ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 63 ซึ่งคดีล่วงเลยมากว่า 2 เดือน ที่ยังจับคนร้ายไม่ได้

จึงทำให้มีชาวเน็ตได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวความสัมพันธ์ และพฤติกรรมของพ่อแม่น้องชมพู่ว่าแม่น้องชมพู่ท้องตอนแยกกับพ่อ และน้องชมพู่เป็นลูกที่ติดท้องแม่มา และชาวเน็ตยังเผยว่าพ่อแม่อาจจะเป็นผู้ลงมือสังหารลูกสาวของตัวเอง จนทำให้ชาวเน็ตออกมาวิพากษ์วิจารย์และตั้งคำถามกันมากมาย ว่าน้องชมพู่เป็นลูกใครกันแน่ และพ่อแม่เป็นคนลงมือฆ่าน้องจริงหรือไม่

โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ออกมาเผยว่า น้องชมพู่เกิดในจังหวะเวลาที่โชคร้ายมาก หลังจากมีน้องสะดิ้ง พ่อแม่เคยแยกกันอยู่ ต่างคนต่างมีใหม่ช่วงเวลาหนึ่ง แล้วพอกลับมาคบกันดันมีท้องน้องชมพู่ ปัญหาจึงสะสมขึ้นมาอีก แต่ตัวพ่อแม่และญาติรู้แน่ว่าน้องชมพู่เป็นลูกใคร รวมทั้งลุงพลกับป้าแต๋นด้วย ดังนั้นไม่ต้องไปเชียร์ให้ลุงพูดทุกเรื่องกับสื่อหรอก ยังไงลุงพลแกก็ไม่พูด แต่ช่วงนี้แฟนคลับต้องอดทนหน่อยนะ เพราะผู้ร้ายหน้าด้านเหลือเกินใจดำอำมหิตมาก จริงๆแล้วตำรวจเขาทำงานอย่างเดียว เป้าหมายคือหาคนร้ายตัวจริงเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่เอาใจใครหรือพูดความจริงให้สื่อฟังทั้งหมด ส่วนกรณีลุงพล น่าสงสารจริงครับ แต่มันเกิดจากสื่อมวลชนปั่นกันเอง ถ้าตัดสื่อออกก็ไม่มีอะไรกังวล ผู้กำกับบ้านเราได้เข้าไปช่วยงานคดีนี้ด้วย พ่อแม่หลบตาตอนสอบสวนทุกครั้ง ขณะที่คนอื่นไม่หลบตาตำรวจ และตำรวจเขารู้นานแล้วว่าพ่อแม่ฆ่าเด็ก แต่หลักฐานมัดจนดิ้นไม่หลุดและยังไม่ครบ และบอกทิ้งท้ายว่าพ่อแม่ฆ่าลูก 100%

และก็มีความเคลื่อนไหวของนายอนามัยวงศ์ศรีชา พ่อน้องชมพู่ที่ออกมาเปิดเผยความจริงว่า ตนเป็นพ่อแท้ๆของน้องสะดิ้ง และน้องชมพู่ พร้อมยืนยันโดยการโชว์ใบสูติบัตรเป็นหลักฐาน หรือหากไม่เชื่อก็พร้อมไปตรวจดีเอ็นเอให้ดู

ซึ่งในสูติบัตร ระบุว่า ผู้เป็นมารดา คือสาวิตรี หลานโพธิ์และผู้เป็นบิดา คือ อนามัยวงศ์ศรีชา เกิดที่จังหวัดมุกดาหาร อายุ34 ปีทั้งนี้ในสูติบัตร ผู้แจ้งเกิด คือ อนามัยวงศ์ศรีชา

ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตำรวจสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ไปแล้ว 900 กว่าปาก และในอีก 2-3 วัน จะได้รับรายงานผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่น ดีเอ็นเอ รวมถึงวัตถุพยานต่างๆ จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเชื่อว่าอาจจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการคลี่คลายคดี