รักยังไงไม่ให้ทุกข์ - พระมหาสมปอง

ขอความเจริญในธรรมจึงแด่ทุกๆ ท่าน 

โยมทุกท่าน ช่วงนี้เราจะได้แต่ข่าวเรื่องการสูญเสียไม่ว่าจะเป็น 13 ทีมหมู่ป่าติดถ้ำหลวง เรือล่มที่ภูเก็ต ล่าสุดเขื่อนแตกที่ประเทศลาว            

ก่อนอื่นต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย และให้ส่งกำลังไปให้ทุกท่านสู้ๆ และล่าสุดข่าวที่ได้รับความสนใจในประเทศไทยคือ ข่าวทอมซ้อมแฟนสาว และเจ้าบ่าวหนีงานแต่ง จนบางคนบอกว่า จะคบทอมก็กลัวโดนกระทืบตาย จะคบผู้ชายก็กลัวหนีงานแต่ง 

โยมทุกท่าน ภัย แปลว่า สิ่งที่น่ากลัว สิ่งที่มาทำลายเราทำให้เกิดความเสียหาย นำสิ่งวิบัติมาสู่เรา ภัยต่างมีมากมายไม่ว่าจะเป็น ราชภัย ภัยที่เกิดจากการทำผิดในพระราชา อัคคีภัย ภัยที่เกิดจากไฟ อุทกภัย ภัยที่เกิดจากน้ำท่วม วาตภัย ภัยที่เกิดจากพายุ โจรภัย ภัยที่เกิดจากการปล้นจี้ ฉาตภัย ภัยที่เกิดจากฝนแล้ง ทุพภิกขภัย  

ภัยที่เกิดจากข้าวยากหมากแพง แต่ภัยในปัจจุบันไม่ได้มีแค่นี้ ยังมีอีกภัยหนึ่งที่น่ากลัวมากคือ กิ๊กภัย ภัยนี้มันจะมาแบบเงียบๆ แต่เข้าครอบครัวใด ครอบครัวบ้านแตกแน่นอน  

โยมความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่บางคนทำให้มันน่ากลัวเพราะความไม่รู้จักพอ ในพุทธศาสนาสอนไว้ชัดเจน 

เรื่องธรรมะในการครองเรือนคือ  

1. สัจจะ เราต้องมีความจริงใจต่อกัน ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน ไม้คดเอาไว้ทำขอ เหล็กงอเอาไว้ทำเคียว คนคดอย่างเดียวทำอะไรไม่ได้เลย ยิ่งเรื่องครอบครัวยิ่งสำคัญ

2. ทมะ คือความข่มใจ เมื่อเรามีคู่ครองแล้วเราต้องรู้จักข่มใจตนเอง ไม่ปล่อยเนื้อ ปล่อยตัวปล่อยใจ ไม่ว่าคนนั้นจะสวยหล่อปานเดียว เราต้องจริงใจกับคนที่เราเลือก   

3. ขันติ คือ คือความอดทน เราต้องอดทนทั้งต่อความลำบากในการทำงานเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว และยั่วยวนจิตใจ

4. จาคะ คือ ความเสียสละ เราต้องรู้จักแบ่งปันความรู้สึกที่ดีต่อกัน เพราะสิ่งนี้จะเพิ่มความสุขให้แก่ชีวิตคู่  

โยมถ้าเราอยากรักใครสักคนให้นานๆ หรือให้ใครรักเรานานๆ ไม่ต้องทำอะไรมากมาย แค่ทำให้ทุกๆ วันเป็นเหมือนวันแรกที่รักกันก็พอ

อาตมาอยากจะบอกว่า การจะประทับใจใครสักคน ใช้เวลาเพียงแค่นาที

การที่เราจะชอบใครสักคน อาจใช้เวลาแค่ชั่วโมง

การที่เราจะรักใครสักคน อาจใช้เวลาแค่ชั่วข้ามวัน

การที่เราจะใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคน เราต้องใช้เวลาทั้งชีวิต  

ถ้าเป็นรักแท้ แค่เวลาไม่กี่ปี ต้องทนทานต่อการพิสูจน์ได้  

ดังนั้นความรักจะเป็นรักแท้ จึงต้องเป็นความรักที่เต็มเปี่ยมด้วยปัญญาและเมตตาต่อกัน รักแท้ต้องไม่ปล่อยให้อารมณ์พาไป เขาชี้นก บอกว่าเป็นควาย เราก็เอ่อ..ออ…ไปกับเขา ถ้าเป็นแบบนั้น… หัวของเราก็มีเขา…. ไปตามควายตัวนั้น…..

ความรักต้องเติมพรหมวิหารธรรมเข้าไปด้วย จึงจะทำให้เข้าใจคำว่ารัก

รัก + เมตตา…..จะออกมาเป็นความรักที่ปรารถนาให้กันและกันมีความสุข

รัก + กรุณา…..จะออกมาเป็นความรักที่คิดจะช่วยให้เขาพ้นทุกข์ ไม่ใช่รักแบบจะหาสุขใส่ตัว คนอื่นชั่งหัวมัน รักเอามันเฉพาะตัวคนเดียว

รัก + มุทิตา….จะออกมาเป็นความรักและยินดีเมื่อเขาอยู่ดีมีสุข ไม่คอยแต่จะอิจฉาริษยาคนอื่นแบบไม่ลืมหู…ลืมตา…

รัก + อุเบกขา….จะออกมาเป็นความรักแบบปล่อยได้…วางเป็น ไม่กังวลกับความรักมากไป จนทำให้ทุกข์กังวล…จนไม่ได้หลับได้นอน

หากว่าโยมมีความรักในทางบวกแบบนี้….ชีวิตก็จะมีความสุข

เพราะว่าเราทำทุกอย่างด้วยปัญญา…สิ่งที่คืนค่า….นั่นคือความสุข…

เพราะว่าเรามองความรักเป็น…ใช้ความรักถูกต้องเจริญพร