องค์การอนามัยโลกและมูลนิธิการนอนหลับแห่งชาติได้ระบุว่าผู้ใหญ่ควรนอนหลับโดยเฉลี่ยคืนละแปดชั่วโมง นี่อาจจะเป็นประโยคที่ใครหลาย ๆ คนเคยได้ยินบ่อย ๆ แต่การนอนครบแปดชั่วโมงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน บางคนก็อาจจะนอนเยอะกว่านี้ หรือนอนน้อยกว่านี้ แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าการนอนนั้นเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ ไหน ๆ ก็พูดถึงการนอน วันนี้ #ลัดเลาะรอบโลก ขอพาทุกคนไปดูวัฒนธรรมการนอนจากที่ต่าง ๆ ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน แต่ละที่ก็มีการนอนและความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย
- ในประเทศสแกนดิเนเวีย นิยมให้ทารกนอนกลางแจ้ง
หากใครได้ไปเยือนประเทศนอร์เวย์ หรือสวีเดน จะเห็นได้บ่อยมากสำหรับเหตุการณ์ที่พ่อแม่จะทิ้งทารกที่กำลังหลับในรถเข็นไว้ข้างหน้าร้านกาแฟ หรือห้างสรรพสินค้า ระหว่างที่พวกเขากำลังทำธุระอยู่ในนั้น หากเป็นในฝั่งของชาวอเมริกันอาจจะเป็นเรื่องที่แทบจะไม่เกิดขึ้น แต่ว่าในแถบสแกนดิเนเวียนั้นมีความเชื่อว่าทารกที่ได้ออกมาสูดอากาศกลางแจ้งนั้นจะมีสุขภาพที่ดี และความเชื่อนี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เหล่าสถานที่รับดูแลเด็กนั้นจะจัดให้เห็นได้งีบหลับกลางแจ้งนั่นเอง
- บางประเทศในแถบเอเชีย อนุญาตให้นอนที่ทำงาน
เมื่อการงีบหลับในที่ทำงานไม่ได้เป็นข้อห้ามของทุกที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่ของประเทศจีน และเวียดนาม การงีบหลับถูกบัญญัติขึ้นให้เป็นสิ่งที่ควรทำ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในช่วงเวลาพักกลางวัน เหล่าพนักงานบริษัทบางคนก็ตัดสินใจที่จะเดินเข้า nap room หรือห้องหลับพักผ่อน เพื่อพักสายตาตัวเอง หรือว่าจะเป็นการเหยียดกายและฟุบลงบนเก้าอี้ ซึ่งระยะเวลาก็ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของแต่ละบริษัท ที่เริ่มต้นจากนาที หรือบางทีก็เป็นชั่วโมงกันไปเลย โดยเหตุผลที่วัฒนธรรมการนอนหลับในที่ทำงานเป็นที่นิยมในประเทศเหล่านี้ ก็เพราะว่าในเอเชียมีอัตราเวลาเข้างานที่เฉลี่ยแล้วเช้ากว่าประเทศตะวันตก บางทีก็เริ่มเข้างานตั้งแต่ตีสี่เลย
- หนึ่งในสามของคนในสหราชอาณาจักรนอนโดยไม่ใส่เสื้อผ้า
มีการทำสำรวจแล้วเผยว่า ชาวอังกฤษชอบที่จะนอนโดยไม่ใส่อะไรเลย และก็ยอมรับด้วยว่าตัวเองชอบที่จะไม่ใส่อะไรเวลานอน ผลสำรวจนี้ทำโดยองค์กรการนอนหลับแห่งชาติในสหรัฐฯ โดยสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมด้านการนอนหลับจากกลุ่มตัวอย่าง 1,500 คน ในช่วงอายุระหว่าง 25-55 ปี จาก 6 ประเทศ คือ สหรัฐฯ แคนาดา เม็กซิโก อังกฤษ เยอรมนี และญี่ปุ่น
- ในแถบประเทศอาหรับ ห้องนอนไม่ได้มีไว้แค่นอนหลับ
สำหรับประเทศอัฟกานิสถาน ห้องนอนอาจจะไม่ได้มีไว้แค่นอน เพราะว่าหากได้ผ่านช่วงเวลาการนอนแล้ว ที่นอนและผ้าห่มจะถูกเก็บ และห้องก็จะกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในบ้าน มีการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในห้องนอนนั้นไม่ว่าจะเป็นการกินอาหาร หรือว่าใช้รับแขก และครอบครัวในประเทศก็นิยมที่จะนอนห้องเดียวกัน มากกว่าแยกห้องนอนกันอีกด้วย
- ชาวออสเตรเลียนิยมนอนรวมกันจำนวนมาก ๆ
เป็นธรรมเนียมของ ชาวอะบอริจินในออสเตรเลียที่จะนอนเรียงกัน โดยเรียงกันตามอายุ ที่พวกเขานิยมการนอนกันเป็นกลุ่มเพราะเป็การอยู่รวมกันอย่างปลอดภัย โดยเตียงนอนจะถูกเรียงเป็นแถวยาว สมาชิกที่แข็งแรงที่สุดจะนอนอยู่ริมสุด และตรงกลางจะเป็นเด็กและคนแก่ นอกจากความป้สึกถูกปกป้อง และการได้อยู่ด้วยกันเป็นปัจจัยสำคัญของการนอนที่มีคุณภาพ
- เด็กในสเปนสามารถนอนดึกได้
ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลก เพราะส่วนมากแล้ว เด็ก ๆ นั้นจะถูกไล่ให้เข้านอนก่อนผู้ใหญ่เสมอ แต่ในสเปนนั้น เด็ก ๆ ได้เข้านอนพร้อมกับผู้ใหญ่เลย นั่นหมายความว่าเด็ก ๆ จะยังไม่ได้นอนแม้จะเป็นเวลาสี่ทุ่มแล้วก็ตาม ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่ดึกมากสำหรับเด็ก ๆ โดยสาเหตุที่ทำให้นอนดึกก็เป็นผลพวงมาจากที่ชาวสเปนนั้นกินมื้อเย็นเวลาที่ดึกมาก บางบ้านก็หลังสามทุ่มเลยทีเดียว ทำให้การนอนในเวลาสี่ทุ่มอาจจะเร็วไปและอาหารอาจจะยังไม่ย่อย และส่งผลเสียต่อสุขภาพ
อ้างอิง
เปา ไม่ต้องมีตังค์เยอะก็นอนได้ขออย่ามีหนี้อย่างเดียวนอนหลับสบาย
18 ก.พ. 2563 เวลา 04.38 น.
อ.ช่ำ บางคนขนขวายสะสมโกงเงินทอนเอาไว้ใช้ในนรก .. รวยระดับโลกก็ยังโกงอยู่ ง..
18 ก.พ. 2563 เวลา 02.49 น.
T.cho เออ ผิดกับเรานอนแม่งได้ทั้งวัน ถ้ามีตังค์
18 ก.พ. 2563 เวลา 03.40 น.
ทุกวันนี้ผมต้องยึดในหลักที่ว่า อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา เพราะมิฉนั้นจะแย่.
21 ก.พ. 2563 เวลา 02.33 น.
บางเดือนผมแทบไม่หลับทั้งเดือน แต่บางเดือนผมก็แทบหลับทั้งเดือน
18 ก.พ. 2563 เวลา 06.29 น.
ดูทั้งหมด