สมุนไพรเพื่อสุขภาพ/โครงการสมุนไพรเพื่อการพึงพาตนเอง มูลนิธิสุขภาพไทย www.thaihof.org
ฟ้าทะลายโจร
: ฟ้าทลายโควิด-19
โมเมนต์นี้ไม่มีโรคใดในโลกที่ดังเท่าโควิด-19 (COVID-19) อีกแล้ว
ขนาดในหมู่นักเที่ยวกลางคืนยังขยาด เตือนกันขำๆ ว่า (มึง) ติดโคโยตี้แค่ตายคนเดียวเพราะน้ำมือเมีย แต่อาจจะเสียยกครัวเพราะมั่วติดโควิด (ฮา)
แต่เรื่องที่ขำไม่ออกคือ พบว่าผู้ชายเสี่ยงต่อการรับเชื้อโควิด-19 มากกว่าผู้หญิง
เพราะฮอร์โมนเพศหญิงช่วยปรับภูมิคุ้มกันต้านเชื้อไวรัสโคโรนาได้ดีกว่า
ล่าสุด (29 กุมภาพันธ์ 2563) ก็มีชายไทยวัยฉกรรจ์เพิ่งเสียชีวิตเพราะโควิด-19 เป็นรายแรกในประเทศไทย จึงไม่ควรประมาทหรือมัวแค่หลงคำชมของประธานาธิบดีทรัมป์ว่าไทยเป็นสุดยอดแห่งเอเชียในการควบคุม
โรคโควิด-19 เพิ่งระบาดมาแค่ไม่ถึง 4 เดือน เริ่มต้นจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนประเทศเดียว ตอนนี้โรคโควิด-19 กลายเป็นวาระแห่งโลกไปเรียบร้อยแล้ว จนวิตกกันว่าทรัพยากรทางการแพทย์และยาจะไม่พอใช้ในการควบคุมโรคระบาดอันตรายตัวนี้
ขนาดยักษ์ใหญ่อย่างจีนยังขาดแคลนยาแผนปัจจุบัน
ถึงกับเริ่มมีนโยบายใช้ยาสมุนไพรแผนจีนร่วมสู้ศึกกับโควิด-19 ด้วย
เมื่อไม่กี่วันมานี้ (25 กุมภาพันธ์ 2563) มีการตีข่าวดีว่า กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จับมือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และองค์การเภสัชกรรม ทำวิจัยศึกษาประสิทธิภาพของยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในการต้านเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
โดยใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจร ที่ชื่อแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ให้อาสาสมัครคนไทยสุขภาพแข็งแรงจำนวน 10 คน รับประทานทางปากในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันโรค
จากนั้นจึงเจาะเลือดอาสาสมัครเพื่อนำซีรั่มจากเลือดไปใช้ต้านเชื้อโควิด-19 ในหลอดทดลอง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขรับปากว่าจะรู้ผลหัว-ก้อยภายใน 1 เดือน นั่นคือ ปลายเดือนหน้ามีนาคมนี้
แน่นอนหากได้ผลว่าฟ้าทะลายโจรมีประสิทธิภาพทำลายโควิด-19 ในหลอดทดลองได้
ย่อมเป็นก้าวสำคัญของวงการแพทย์แผนไทยในการพัฒนายาสมุนไพรมาใช้ควบคุมโรคติดต่ออันตราย
ขอบอกว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้เพ้อฝันเต้างานวิจัยขึ้นมาสร้างภาพ แต่เป็นงานวิจัยต่อยอดจากงานวิจัยของจีนที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในการใช้ผลิตภัณฑ์ยาฟ้าทะลายโจรรักษาโรคซาร์ส (SARS) ซึ่งได้มีการจดสิทธิบัตรเรียบร้อยโรงเรียนจีนไปแล้ว
แม้ซาร์สจะเป็นไวรัสโคโรนาที่อนุภาคของมันมีมงกุฎหนามติดหนึบเหมือนโควิด-19 แต่ก็เป็นโคโรนาคนละสายพันธุ์กัน
จึงไม่อาจสรุปได้ว่าฟ้าทะลายโจรจะสามารถทลายโควิด-19 ได้จริงหรือเปล่า
แต่ระหว่างร้องเพลงรอผลวิจัยจากกระทรวงสาธารณสุข เราก็ยังสามารถใช้ฟ้าทะลายโจรควบคุมป้องกันโรคทางเดินหายใจซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ ซึ่งอาจจะรวมถึงไวรัสโควิด-19 ด้วย
เพราะมีงานวิจัยยืนยันชัดเจนแล้วว่าฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรต้านเชื้อไวรัสอย่างกว้างขวาง (Antiviral broad spectrum)
เพราะสารแอนโดรกราโฟไลด์มีฤทธิ์สกัดกั้นตั้งแต่ต้นทางไม่ให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์ของร่างกายได้ง่ายๆ โดยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันไวรัสไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต้านการอักเสบในช่องคอ ช่วยบรรเทาอาการทอลซินอักเสบ แก้เจ็บคอ และยังต้านการอักเสบในปอดซึ่งเป็นอาการสำคัญของไวรัสโคโรนา และไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ต่างๆ
ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกได้รับรองแล้วว่าฟ้าทะลายโจรเป็นยาต้านไวรัสหวัดที่ดีมากตัวหนึ่ง ซึ่งไม่มีผลข้างเคียงต่อตับ ไต ไม่ดื้อยาหรือทำให้ง่วงนอนขณะขับรถเหมือนเคมีเภสัชทั้งหลาย
ยังมีข้อสังเกตของแพทย์แผนไทยว่า การใช้ยาฟ้าทะลายโจรควรใช้อย่างองค์รวม ซึ่งน่าจะได้ผลดีกว่าการใช้ยาสกัดสารสำคัญ
ดังนั้น ในระหว่างที่ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรจำหน่ายแพร่หลาย การใช้ยาฟ้าทะลายโจรแบบแพทย์แผนไทยก็เป็นทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยควบคุมและป้องกันมิให้เชื้อไวรัสหวัดชนิดต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย โดยปกติวิธีใช้ตามฉลาก อย.ครั้งละ 2 แคปซูล (ขนาด 500 มิลลิกรัม/แคปซูล) หรือครั้งละ 5 เม็ด (ขนาด 250 มิลลิกรัม/เม็ด) วันละ 3 เวลาก่อนอาหาร 3 มื้อ
แต่ได้ข้อมูลว่าในการทดลองจะใช้ขนาดยาฟ้าทะลายโจรที่ทลายโควิดในปริมาณ 6 กรัมต่อหนึ่งโดส ซึ่งก็เป็นขนาดที่แพทย์แผนไทยใช้กับผู้ป่วยเฉพาะรายคือ ขนาดผงยาครั้งละ 1 ช้อนชา ซึ่งเทียบเท่ากับ 6 แคปซูลหรือ 12 เม็ดลูกกลอนนั่นเอง สิ่งที่คนไทยควรรู้คือ ฟ้าทะลายโจรที่ปลูกในบ้านเรามีสารแอนโดรกราโฟไลด์มากถึง 1.7%
ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานโลกที่กำหนดว่าต้องมีอย่างน้อย 1.5% จึงจะใช้ทำยาได้
ข้อควรระวังดังที่ทราบกันดีคือ ฟ้าทะลายโจร (ชื่อวิทยาศาสตร์ Andrographis paniculata (Burm.f.) Wall.ex Nees) เป็นยาเย็น ไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 7 วัน อาจทำให้ความดันโลหิตตก หรือแขนขาอ่อนแรงได้
แต่ในช่วงอากาศร้อน ร้อนใน อย่างนี้หรือเริ่มตัวร้อนรุมๆ ก็ไม่ต้องวิตกผลข้างเคียงตรงนี้มากนัก แต่มีข้อห้ามคือ ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์
หากผลิตภัณฑ์ยาฟ้าทะลายโจรเป็นที่ต้องการมากจนขาดตลาด กระทรวงสาธารณสุขควรจับมือกับกระทรวงเกษตรฯ ส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจรในครัวเรือนให้แพร่หลายเพื่อใช้ทำชาสมุนไพรชงดื่มคุ้มครองสุขภาพ แม้จะมีรสขมจัด แต่ก็เป็นยาดีที่คนจีนยกย่องว่าเป็นดังหนึ่ง “ดอกบัวในหัวใจ” (ชวนชิเหลียน)
แต่เราเป็นไทยเท่ ตั้งชื่ออย่างเก๋ว่า “ฟ้าทะลายโจร” เพื่อตัดไม้ข่มนามโรคโจรร้ายทั้งหลาย
ถ้าทลายไวรัสโควิด-19 ได้ อาจจะได้ฉายาใหม่ว่า “ฟ้าทลายโควิด” ก็ได้นะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องสมุนไพรฟ้าทะลายโจรได้ที่ เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขภาพไทย 08-1300-3300 หรือ 09-4489-7887
Pat Zolarjoy โดนเจ๊กปล้นลิขสิทธิ์ไปแล้วเหรอ?
08 มี.ค. 2563 เวลา 15.16 น.
เด็ดใบสด ไปชงแทนชา ดื่ม เริ่มได้ สองทิตย์ ละ
รสชาติ ขมนรกเรียกพี่เลยครับ แต่ กลั้นใจ ำใจ จิบๆ ไปทั้งวัน เสริมสุขภาพ ถึงมันจะไม่ใช่ยารักษา ก็ตาม
08 มี.ค. 2563 เวลา 14.57 น.
ดูทั้งหมด