ชั่วโมงนี้เรื่องโควิด-19 เป็นลมหายใจเข้าออกของคนทั้งโลก
เราเห็นแก่นแท้ของมนุษย์โดยเฉพาะด้านมืด ในห้วงยามคับขันแบบนี้ บางคนคอร์รัปชัน บางคนหาเงินบนความทุกข์ของคนอื่น บางคนแก่งแย่งกัน
ความกลัวตายเป็นเรื่องธรรมดา ความตื่นตระหนกเป็นที่เข้าใจได้ ความโลภก็เป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อนำทั้งหมดมารวมกัน ก็กลายเป็นส่วนผสมรวมแห่งหายนะของส่วนรวม
เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างของ Butterfly Effect อย่างดีที่สุด
สองสามวันนี้มีข่าวคนติดไวรัสโควิดทีเดียว 5 คนบ้าง 10 คนบ้าง เส้นทางชีวิตของคนเหล่านี้มาจากคนละที่ แต่มาตัดกันที่จุดจุดหนึ่งที่มีเชื้อโรค เพียงจุดนี้จุดเดียว ก็เปลี่ยนสถานการณ์ปกติเป็นสถานการณ์เป็นเลวร้ายในพริบตา
Cause-Effect
ทางพุทธสอนเรื่องนี้มานานหลายพันปีแล้ว นั่นคือ อิทัปปัจจยตา
อธิบายแบบง่าย ๆ คือทุกสิ่งในโลกอาศัยกัน สิ่งหนึ่งก่อให้เกิดอีกสิ่งหนึ่ง
หากใช้ในทางจิต ก็จะอธิบายเรื่องขั้นตอนการปรุงแต่งจิตให้เกิดทุกข์ เรียกให้ยากขึ้นอีกนิดว่า ปฏิจจสมุปบาท
หากใช้ในทางโลก ก็อาจอธิบายเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสิ่งเล็ก ๆ สิ่งหนึ่งกระทบต่อสิ่งอื่น สืบต่อกันไปเป็นลูกโซ่ หรือ Chain Reaction
ในสเกลกว้าง เราอาจเรียกมันว่า Butterfly Effect
สมมุติว่าผีเสื้อตัวหนึ่งในสวนหลังบ้านของเรากระพือปีกให้เราเห็นแล้วชอบใจ เราจับมันมาดูเล่นจนมันตาย ทำให้มันไม่สามารถแพร่พันธุ์ได้ ทำให้จำนวนผีเสื้อในพื้นที่นี้ขาดไปหนึ่งตัว ทำให้ดอกไม้หายไปหนึ่งดอก ทำให้ขาดผลไม้ไปหนึ่งผล ทำให้ขาดต้นไม้ไปหนึ่งต้น ทำให้สัตว์ที่ต้องพึ่งต้นไม้นั้นตายไป ฯลฯ ไล่ไปเรื่อย ๆ ท้ายที่สุดมันก็ทำให้ฝนตกไม่ตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในแอฟริกา ทำให้คนอดตายไปทั้งหมู่บ้าน
ในสาธกนี้ จะเห็นว่าเราแค่จับผีเสื้อตัวเดียวมาดูเล่น ทำให้คนทั้งหมู่บ้านตาย
มันก็คือเหตุผลเดียวกับที่เราใช้ถุงพลาสติกแล้วทำให้เต่าทะเลตัวหนึ่งตาย แล้วส่งผลต่อระบบนิเวศรวม
เด็ดดอกไม้หนึ่งดอก สะเทือนถึงดวงดาว
สรรพสิ่งในโลกและจักรวาลดำเนินไปตามอิทัปปัจจยตาเช่นนี้แล
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ชาวบ้านไม่กี่คนในเมืองอู่ฮั่นกินสัตว์แปลก ๆ ที่ได้รับเชื้อโรคมาจากค้างคาว (สมมุติว่านี่เป็นเหตุจริง) ทำให้คนทั้งโลกตายไปหลายพันคนดังที่เราเห็นตอนนี้
โควิด-19 เป็นตัวอย่างของ Butterfly Effect ที่ชัดเจนอย่างยิ่ง
ย่อมมีคำถามว่า แล้วจะรู้ไปทำไม ?
รู้ไปก็เพื่อที่เราสามารถลดจำนวน Butterfly Effect ลง และท้ายที่สุดมันก็จะขจัด โควิด-19 ได้เร็วกว่าการแก้ปัญหาแบบ ‘ทำอะไรไม่ถูก’ ในหลายประเทศตอนนี้
อย่างไร ?
……….………………………………………………………
นักวิทยาศาสตร์หลายประเทศรวมทั้งองค์การอนามัยโลกมีหลักฐานว่า ไวรัสโควิด-19 ร้ายกาจก็จริง แต่มีอายุจำกัด หากมันเกาะบนลูกบิดประตู ก็อยู่ได้ราว 2-3 วัน หากอยู่ในที่เหมาะสมกว่านั้น ก็อาจอยู่นานนับสิบวัน
หากเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ในร่างกายคน ก็อาจอยู่นานกว่านั้น อาจยาวถึง 37 วัน นักวิทยาศาสตร์จีนบอกว่าค่าเฉลี่ยของอายุขัยไวรัสตัวนี้ในร่างกายคนคือ 20 วัน
สมมุติตัวเลขกลม ๆ ว่าหนึ่งเดือน
เอาล่ะ สมมุติต่อไปว่า หากทุกคนในโลกอยู่เฉย ๆ ได้หนึ่งเดือน (คนป่วยก็รักษาไป คนไม่ป่วยก็อยู่บ้าน) เชื้อโรคทุกตัวก็จะตายไปเองในหนึ่งเดือน
ดังนั้นหากพลเมืองทั้งประเทศสามารถใช้หลักอดทน อยู่กับที่สักหนึ่งเดือน รอเชื้อโรคตายเอง ตามทฤษฎี การระบาดก็ยุติทันที
เราสามารถช่วยได้ โดยลดจุดตัดระหว่างเรากับเชื้อโรค หากไม่จำเป็นต้องไปเจอใครจริง ๆ ก็งดเสีย หากจำเป็นก็ป้องกันตัวเอง หากมาจากพื้นที่เสี่ยง ก็อย่าไปไหน กักตัวที่บ้าน
การลดจุดตัดระหว่างเรากับเชื้อโรคเพียงจุดเดียวก็คือการลด Butterfly Effect รวม มันจะลด Butterfly Effect ที่เกี่ยวข้องกับโลกทั้งใบ
หยุดวงจรสั้น เพื่อหยุดวงจรยาว
จะทำเช่นนี้ได้ ทุกคนต้องช่วยกัน
คำถามคือพอจะทนเหงาไม่เจอคนได้หรือเปล่า ?
……….………………………………………………………
วินทร์ เลียววาริณ
ผมเข้าใจถึงในสิ่งที่คุณวินทร์ได้สื่อออกมาเพื่อให้ได้รับรู้ถึงกับภัยที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ และผมก็คิดว่า ถ้าหากว่าคนเรานั้นมีสามัญสำนึกที่ดีให้ต่อสังคมแล้ว ก็คงที่จะช่วยทำให้ทุกอย่างดีขึ้นมาได้ในเร็ววันครับ.
15 มี.ค. 2563 เวลา 23.01 น.
Tomvorapot ส่วนรัฐควรเอาเงินที่จะไปอุ้มตลาดหุ้น แจกชิมช้อปใช้ มารับมือกับไวรัสทั้งหมด และควรเตรียมช่วยคนที่กำลังจะตกงานเป็นแสน เป็นล้านคน ในไม่ช้านี้
โดยการสร้างงานในท้องถิ่นทั่วประเทศ เริ่มต้นง่ายๆก็ได้เช่น ปลูกป่า ฟื้นฟูธรรมชาติสิ่งแวดล้อม เก็บขยะ ลอกคลอง ลอกท่อ ซ่อมแซมบูรณาการ สถานที่ๆชำรุดทรุดโทรมของทางราชการ สาธารณะ ทำทั่วประเทศ และทุกๆ จังหวัด
จัดงบไว้สัก 1 ล้านล้าน น่าจะรับมือได้ 9 เดือน คนจะได้เริ่มทยอยกลับภูมิลำเนากัน เพราะมีงานรองรับ
เศรษฐกิจมหภาคจะได้ไม่ล้มตาม รีบทำ
... ก่อนโดมิโน effect
16 มี.ค. 2563 เวลา 05.53 น.
Zeed Beer 77 เห็นด้วยกับคุณวินทร์ ขอบคุณที่นำเสนอสิ่งดีๆให้กับสังคมครับ
16 มี.ค. 2563 เวลา 04.47 น.
So เห็นด้วยค่ะ
15 มี.ค. 2563 เวลา 21.25 น.
!ก๋ 🌱 ไม่มีใครกดLikeหรือกดDislike ให้ใครที่เม้นท์เลย แปลกดี
16 มี.ค. 2563 เวลา 03.55 น.
ดูทั้งหมด