จากกรณี มีข้อความแจ้งสมาชิกของธุรกิจ Nice Review บนเพจเฟซบุ๊ก โดยมีการนำภาพตราสัญลักษณ์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษมาประกอบ และระบุข้อความในทำนองว่า ธุรกิจ Nice Review ไม่อาจเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ ทำให้หลายฝ่ายเกิดความสงสัยว่าหน่วยงานของรัฐทำไมถึงกล้ารับรองในธุรกิจเช่นนี้ ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 21 ก.ค. พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชี้แจงว่า ดีเอสไอเปิดช่องทางให้ประชาชนแจ้งข้อมูลเบาะแสในเรื่องต่าง ๆ รวมทั้งมีการจัดทำโปรแกรมประยุกต์ชื่อ “ตรวจสอบแชร์ลูกโซ่” ที่มีช่องทางแจ้งเบาะแสแชร์ลูกโซ่ผ่านโปรแกรมดังกล่าว ซึ่งการตอบผลการพิจารณาจะเป็นเรื่องระหว่างผู้แจ้งเบาะแสกับดีเอสไอ โดยเป็นการพิจารณาเบื้องต้นตามข้อเท็จจริงที่ได้รับ หากเห็นว่าข้อเท็จจริงไม่เพียงพอ จะแนะนำให้ยื่นคำร้องเป็นหนังสือเข้ามายังดีเอสไอ รวมทั้งแนะนำให้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุหากพบว่าตนเองได้รับความเสียหาย แต่การนำตราสัญลักษณ์ของดีเอสไอไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตและนำไปประกอบข้อความข้างต้นอาจทำให้ประชาชนสับสนว่า การกระทำดังกล่าวไม่เป็นความผิดที่เป็นคดีพิเศษและดีเอสไอรับรองแล้ว **
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวอีกว่า ดังนั้น พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ จึงมอบหมายให้กองบริหารคดีพิเศษ ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่าธุรกิจ Nice Review เป็นการเชิญชวนประชาชนทั่วไปที่ใช้เฟซบุ๊กให้กดไลค์ กดแชร์ และให้แสดงความคิดเห็นหรือคอมเมนท์ในเชิงบวกแก่งานโฆษณาบนระบบเฟซบุ๊กที่ Nice Review เตรียมไว้ในแต่ละวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อโปรโมทเพจของผู้ประกอบการให้เกิดความน่าเชื่อถือ โดยมีค่าใช้จ่ายในการสมัครสมาชิก มีรหัสให้ และมีการกำหนดค่าตอบแทนเป็นลำดับชั้น
กรณีดังกล่าวตรงกับคำนิยาม “กู้ยืมเงิน” ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ที่รวมถึงการรับสมัครเป็นสมาชิกโดยมีการจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้สมัคร แต่ขณะนี้ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าบริษัทมีฐานรายได้จากที่ใดที่นำมาจ่ายเป็นค่าตอบแทนให้สมาชิก และอัตราผลตอบแทนเป็นอย่างไร ซึ่งจะได้ตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดอาญาอื่น เนื่องจาก…การกดไลค์ กดแชร์ และให้ความคิดเห็นไม่ได้เกิดจากความต้องการที่แท้จริง อาจทำให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อในสินค้าหรือบริการว่ามีคุณภาพตามคำโฆษณาทั้งที่ไม่เป็นความจริง พฤติการณ์ดังกล่าวอาจเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 22 ในเรื่องการโฆษณาที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรืออาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมในส่วนรวม รวมถึงอาจเป็นความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1) และ (5) ในการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ และการเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลที่มีลักษณะดังกล่าวก็เป็นความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกด้วย.
MONTREE เห็นด้วยครับ ควรทำตั้งนานแล้ว เป็นการคุ้มครองผู้บริโภคครับ
22 ก.ค. 2562 เวลา 01.12 น.
BirdOfParaDize ปลอมรีวิวคือ ฉ้อโกงไง
22 ก.ค. 2562 เวลา 01.18 น.
TNOOONB ไร้สาระ เมื่อไหร่ สมองจะพัฒนา คิดแบบเรื่องที่ควรจะเป็นบ้าง
22 ก.ค. 2562 เวลา 01.20 น.
RuT FroRida RiT สมอง
22 ก.ค. 2562 เวลา 01.03 น.
𝕂𝕙𝕒𝕘 ℕ𝕒𝕣𝐨̈𝕟𝕘𝕣𝕚𝕥 ♡︎♥︎ รับจ้างเผด็จการล่ะ ต้องโดนจับด้วยมั้ย 🤔🤔
22 ก.ค. 2562 เวลา 01.06 น.
ดูทั้งหมด