24 ก.ค.62 - ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการจัดกิจกรรมผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช. พบสื่อมวลชนในหัวข้อ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน โดยมีนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. และนายอุทิศ บัวศรี รองเลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นวิทยากร
นายวรวิทย์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ประเด็นการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่กลายเป็นประเด็นในสังคมที่ผ่านมาว่า บ้านเรายังติดหล่มกันอยู่ตรงนี้ ก่อนอื่นต้องดูเรื่องของวัตถุประสงค์ของการให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าพนักงานของรัฐยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการสร้างความโปร่งใสให้กับระบบการเมืองและระบบราชการ ส่วนหัวใจสำคัญในการตรวจสอบของ ป.ป.ช. คือ ระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง เขาได้ใช้อำนาจหน้าที่ไปแสวงหาผลประโยชน์ทำให้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ นี่คือประเด็นสำคัญ แต่ขณะเดียวกันไม่ว่าจะเป็นการทำงานของ ป.ป.ช. ที่ผ่านมา มักมุ่งเน้นไปเรื่องแสดงถูกต้องตามความเป็นจริงหรือไม่ ยังไม่ได้ไปดูเรื่องความเคลื่อนไหวระหว่างดำรงตำแหน่ง
นายวรวิทย์ กล่าวว่า ส่วนกรณีของการยืมบัญชีทรัพย์สิน หากยึดตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ระบุไว้ แบ่งเป็น 2 แบบคือ 1.ยืมใช้คงรูป เช่น การขอยืมทรัพย์สินแบบให้เปล่า แต่มีภาระที่ต้องคืนเมื่อถึงกำหนด กรรมสิทธิ์ไม่โอน สมมติมีรถใช้ เผอิญรถเสีย แต่ต้องการใช้รถ มีเพื่อนสนิทเลยขอยืมรถเพื่อนมาใช้ ตนมีภาระที่ต้องคืนรถคันนั้นเมื่อใช้เสร็จ แต่รถคันดังกล่าวไม่ใช่เป็นกรรมสิทธิ์ของตน และ2.การยืมใช้สิ้นเปลือง เช่น การยืมเงิน กรรมสิทธิ์ของวัตถุที่ยืมคือเงิน กรรมสิทธิ์โอนไปยังผู้ยืมเลย ถ้าเกิดคนที่ยืมไม่จำเป็นต้องใช้ธนบัตรฉบับเดิม ใช้ธนบัตรฉบับใหม่ได้ เมื่อกรรมสิทธิ์โอน มีหนี้ ในแบบบัญชีทรัพย์สินระบุว่าไว้ชัดเจนในส่วนของการแสดงรายการหนี้สิน
“ส่วนประเด็นเรื่องยืมนานๆ หากกลับไปอ่านข้อเท็จจริงในแถลงข่าวของ ป.ป.ช. ว่า ยืมนานแค่ไหน ข้อเท็จจริงมีการยืมนาฬิกาทั้งหมด 21 เรือน ในช่วงระยะเวลาต่างๆ ไม่ได้ยืมกันนานๆ ยืมเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วก็คืน เปลี่ยนใหม่ไปเรื่อย ๆ จนถึง 21 เรือน อาจมีประเด็นสื่อมวลชนสงสัยว่า บางเรือนนานผิดปกติ ข้อเท็จจริงในสำนวนระบุว่า มีการคืนแล้ว แต่เจ้าของไม่สะดวกที่จะรับคืน ก็เป็นระยะเวลาที่อาจกลายเป็นประเด็น” นายวรวิทย์ กล่าว
นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า กรณีการยืมทรัพย์สิน ถ้าเกิดขึ้นก่อน และถือว่าอยู่ในบริบทที่ควรจะต้องแจ้งหรือไม่นั้น นี่คืออยู่ในประเด็นที่คณะทำงานศึกษาอยู่ และจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป แต่ประเด็นไม่ใช่อยู่ที่ว่ายืมแล้วแจ้งบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ ประเด็นอยู่ที่ว่าใช่การยืมหรือไม่ หรือเป็นของตัวเองแล้วบอกยืมหรือไม่ นี่เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ในการค้นหาความจริง.
Komchan sawata ยอมรับดีกว่า ต้องการช่วยให้พ้นผิด จะมีประโยชน์อะไรที่ออกมาชี้แจง. ปปช ลองไปถามคนทั้งโลกซิว่าใครเขื่อบ้างว่า ยืมเพื่อนมา และเพื่อนตายแล้ว. ปปช เท่านั้นที่เชื่อ
24 ก.ค. 2562 เวลา 06.27 น.
แฮร์ ไม่ได้อะไรเพิ่มเติมจากบทความนี้
24 ก.ค. 2562 เวลา 06.26 น.
Suraphol Kongsomboon ตีความกันไปเอง ถ้าทักษิณยืมละ
24 ก.ค. 2562 เวลา 06.28 น.
สรุป ว่า ยังสรุปไม่ได้ 555
24 ก.ค. 2562 เวลา 06.28 น.
ธวัลรัตน์ มีช่องโหว่ เหมือนกระชอนมีรูเลย
24 ก.ค. 2562 เวลา 05.59 น.
ดูทั้งหมด