นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงเรื่องหน้ากากอนามัยว่าถ้าย้อนหลังไปถึงวันที่เริ่มเกิดเหตุการณ์นี้ใหม่ๆ กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญโดย ประชุมหารือกับโรงงานผู้ผลิต 11 โรงงาน สอบถามถึงกำลังการผลิตทราบว่า 1,200,000 ชิ้นต่อวัน หรือ 36,000,000 ชิ้นต่อเดือน มีการเผยแพร่ในสื่อว่ามีสต็อกอยู่ 200,000,000 ชิ้น เป็นความคลาดเคลื่อนของการสื่อสาร พบว่าปัญหาการผลิตเนื่องจากต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ และความต้องการใช้ในขณะนั้นคือ 30,000,000 ชิ้นต่อเดือน เป็นความต้องการของบุคลากรทางการแพทย์เป็นหลัก เชื่อว่าเพียงพอสำหรับการใช้งาน
แต่ปรากฏว่ามีประชาชนที่ก็ต้องการใช้ด้วยเช่นกัน ทำให้เกิดความขาดแคลน กระทรวงพาณิชย์จึงบริหารจัดการโดยให้โรงงานส่งปริมาณที่ผลิต 50% มาให้กระทรวงพาณิชย์บริหารจัดการเพื่อจัดสรรให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นหลัก ส่วนอีก 50% ก็ให้ทำธุรกิจการค้าไปตามปกติ กระทรวงพาณิชย์เข้าไปควบคุมไม่ได้ ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใดทำให้สินค้าที่มีในตลาดขณะนั้นมีราคาสูงขึ้นมาก
แต่ปัจจุบันกำลังการผลิตคือ 2,300,000 ชิ้น เฉลี่ยต่อวัน 1 ชิ้นต่อ 28 คน จึงเปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการเป็นวิธีใหม่โดยเน้นให้บริการแก่ผู้ที่มีความต้องการสูงสุดโดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้บริหารจัดการในพื้นที่ ซึ่งหมายถึงบุคลากรทางการแพทย์และสถานพยาบาล
ดังนั้นวันนี้การกระจายสู่ทุกภูมิภาคในประเทศไทยได้ทำการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย 900,000 ชิ้น ทั่วทุกภูมิภาคโดยเริ่มตั้งแต่เย็นวันเดียวกันนี้จะกระจายไปถึงศาลากลางจังหวัด ส่วนกทม. 100,000 ชิ้น
- ไทยติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่วันนี้ 136 ราย ป่วยสะสม 1,524 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย
- รัฐเปลี่ยนระบบแบ่ง ‘หน้ากากอนามัย’ รวบตึง 2.3 ล้านชิ้นส่งให้หมอและผู้จำเป็น
- ‘วิษณุ’ ขู่ฟัน ‘ผู้ค้าคนกลาง’ ขูดราคาไข่ไก่ ขอให้มั่นใจสินค้ามีพอ
ทั้งนี้ การกระจายหน้ากากอนามัย ที่ปัจจุบันผลิตได้ประมาณ 2.36 ล้านชิ้นต่อวัน จะกระจายให้กับกระทรวงสาธารณสุข 1.36 ล้านชิ้น เพื่อให้นำไปกระจายต่อให้กับสถานพยาบาลต่างๆ และบุคลากรทางการแพทย์ และที่เหลือ 1 ล้านชิ้น จะกระจายให้กับกระทรวงมหาดไทย โดยไปรษณีย์ไทยจะขนส่งและนำไปส่งยังจังหวัดต่างๆ จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้กระจายลงไปยังกลุ่มเสี่ยง
โดยการจัดสรรให้กับแต่ละจังหวัด แบ่งเป็นดังนี้ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้รับจัดสรร 1 แสนชิ้นต่อวัน ภาคเหนือ 1.64 แสนชิ้นต่อวัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3.32 แสนชิ้นต่อวัน ภาคกลาง 2.37 แสนชิ้นต่อวัน และภาคใต้ 1.67 แสนชิ้นต่อวัน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าปริมาณการผลิตหน้ากากอนามัย จะสามารถผลิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 2.86 ล้านชิ้นต่อวันในช่วงกลางเดือนเม.ย.2563 ซึ่งตอนนั้น จะมีการปรับสัดส่วนการกระจายหน้ากากอนามัยตามความเหมาะสมอีกครั้ง แต่จะให้ความสำคัญกับผู้ที่จำเป็นต้องใช้ คือ สถานพยาบาลต่างๆ และบุคลากรทางการแพทย์ก่อนเป็นลำดับแรกเช่นเดิม เพราะถือเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงสุด
Supun ได้เวลาปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ได้แล้ว หน่วยงานที่ขาดประสิทธิภาพยุบเลิกไปเลย มีไว้ก็เปลืองงบแผ่นดิน
30 มี.ค. 2563 เวลา 13.53 น.
MY WAY มันฟังไม่ขึ้นเลยท่านปลัดฯ เรื่องนี้ท่านโยนกลับไปให้พรรค ปชป เถิด. เค้าทำเหตุไว้ เรื่องอะไรท่านมารับขี้
30 มี.ค. 2563 เวลา 09.15 น.
NAPHAT ประชาชนก็ต้องการใช้ด้วยทำให้ขาดแคลน พูดออกมาได้ไงวะ ประชาชนยังหาซื้อไม่ได้เลย รอแบ่งส่วนบุญไปต่อคิวเป็นชั่วโมงได้1แพ๊ค4ชิ้นสิบบาท สถานพยาบาลก็ไม่มีต้องขอรับบริจาคจากประชาชน ตกลงผลิตได้วันละ 2,300,000 มันอยู่ไหน
30 มี.ค. 2563 เวลา 09.09 น.
montree วิษณุเอากระทรวงพาณิชย์ไปดูแลจัดการเองได้หรือเปล่าเวลานี้คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อถือเจ้ากระทรวงนี้แล้วบางที หน้ากากไข่หายและแพงรวมทั้งเรื่องอื่นๆน่าจะดีขึ้น
30 มี.ค. 2563 เวลา 09.08 น.
CHAT SEKURE ขายแดกหมดแล้วคงเหลือซากหรอก
30 มี.ค. 2563 เวลา 08.49 น.
ดูทั้งหมด