ไลฟ์สไตล์

ก้าวข้ามความขัดแย้งในตัวเอง - ดังตฤณ

TOP PICK TODAY
เผยแพร่ 25 เม.ย. 2563 เวลา 17.00 น. • ดังตฤณ

ถ้ากำลังอยู่ว่างๆ คนเดียว

ไม่ได้คุยกับใคร

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แล้วบางทีจู่ๆ เกิดวูบความคิด

แบบที่คุณรังเกียจขึ้นมาในหัว

ราวกับว่าคุณฝักใฝ่ใหลหลงที่จะคิดเช่นนั้นซ้ำๆ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทั้งๆ ที่ไม่ได้ชอบใจแต่อย่างใดเลย

ก็อย่าแปลกใจ

เพราะจริงๆ มันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของทุกคน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ของเลวจากภายนอก

ถ้าเข้ามาหมักหมมเหม็นๆ อยู่ภายในหัว

จะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม

นานเข้าก็ส่งกลิ้นคลุ้งขึ้นมา

ราวกับเป็นกลิ่นตัวของคุณเองได้เหมือนกัน

 

ถ้าจำเป็นต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญ

แต่ตกลงกับตัวเองไม่ได้

นาทีหนึ่งจะเลือกอย่างนั้น

อีกนาทีจะเลือกอย่างโน้น

แถมเป็นอย่างโน้นชนิดขั้วตรงข้าม

ก็อย่าแปลกใจ

คุณมีความคิดของคน

มากกว่าหนึ่งคนในตัวเองอยู่แล้ว

นับเริ่มตั้งแต่ที่อารมณ์มนุษย์ไม่เสถียร

แกว่งจากข้างหนึ่งไปหาอีกข้างได้ตลอดเวลา

อีกทั้งตอนไม่มั่นใจว่า

ผลของการตัดสินใจหนึ่งๆ

จะออกหัวออกก้อยท่าไหน

ทำให้ลังเล หาเหตุผลให้ฝั่งเอาและฝั่งไม่เอา

ราวกับคนเล่นหมากรุกสองข้าง

นานเข้าก็เหมือนคนสองคนทะเลาะกัน

ในหัวเดียวตัวเดียวของคุณได้

 

ถ้าดูหนังประเภทหลอกสมอง หลอนจิต

หรือพูดคุยกับผู้คนที่ตรรกะหลุดโลก

แล้วในหัวของคุณยุ่งเหยิงอลหม่าน

ราวกับมีคนหลายฝ่ายก่อเรื่องวิวาทกันใหญ่โต

บางทีงงๆ ว่าคุณเป็นใคร

ก็อย่าแปลกใจ

สมองที่อลหม่าน ขาดความตั้งมั่น ไม่เป็นตัวของตัวเอง

อาจถูกย้อมด้วยเสียงโหวกเหวกของใครหลายคน

จนราวกับไม่มีตัวตนของใครอยู่ในคุณเลยสักคน

 

ในวันที่หาตัวจริงของคุณไม่เจอ

จริงๆ แล้วเฉียดกันนิดเดียว

กับการจะได้เจอความจริงแบบพุทธ

นั่นคือ ไม่มีใครมีตัวตนถาวรอยู่คู่โลกนี้จริงๆ

แต่ละคนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามเหตุปัจจัย

หากเหตุปัจจัยแรงและเร็ว

ก็เหมือนมีหลายคนอยู่ในตัวคุณได้ในวันเดียว

 

หากได้รับการอัดฉีดของมืด ของดำ

เช่น ภาพอกุศล เสียงอกุศลเข้าหูเข้าตามากๆ

ใจคุณจะรู้สึกเหมือนเปื้อนโคลนเปื้อนเลน

และพร้อมจะคิดอะไรในทางน่ารังเกียจขึ้นมาเอง

ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจคิด

ยิ่งถ้าหากฐานจิตฐานใจของคุณ

มีความสะอาดสว่างอยู่

ก็จะยิ่งเกิดความทรมานอกทรมานใจ

คันคะเยอ แสบร้อน 

เพราะสำคัญไปว่า ความคิดของคุณสกปรก

ไม่อยากให้ความคิดสกปรกพรรค์นั้น

มาแปดเปื้อน หรือติดจิตติดวิญญาณของคุณเลย

 

แต่หากได้รับการอัดฉีดของสว่าง ของขาว

เช่น สวดมนต์ ฟังธรรม เจริญสติแบบพุทธ

จนปัญญาเกิดประกอบจิตมากๆ

ใจคุณจะรู้สึกเหมือนเท้าที่ยากจะติดโคลนเลน

และที่สำคัญ คือ เมื่อเปื้อนโคลนเลนขึ้นมา

เช่น คิดไม่ดี คิดดีคิดชั่วกลับไปกลับมา

สติของคุณจะเกิดขึ้นเท่าทันว่า

ทั้งวูบคิดดี ทั้งวูบคิดชั่ว

มันก็เป็นแค่ปรากฏการณ์ไฟฟ้าทางสมองครู่เดียว

ไม่ใช่สิ่งที่จิตวิญญาณของคุณ

จะต้องยึดไว้รับผิดชอบเป็นจริงเป็นจังแต่อย่างใดเลย

 

ก้าวข้ามความขัดแย้งทางความคิด

ด้วยการแยกจิตออกมาเป็นผู้ดู ผู้ยอมรับ

ไม่ใช่ผู้บังคับ ไม่ใช่ผู้ตัดสิน ไม่ใช่ผู้งง 

ไม่ใช่ผู้หลงถามว่าตัวเราเป็นฝ่ายไหนกันแน่

จิตที่รู้จักเป็นผู้ดู

จะเห็นเองว่า ความคิดสีดำก็ไม่เที่ยง

ความคิดสีขาวก็ไม่ทน

เมื่อเกิดสติบริสุทธิ์รู้ความจริงว่าไม่เที่ยงทนทั้งคู่

ก็จะเลิกยึดทั้งคู่ว่าเป็น ‘ตัวจริง’ ของคุณ

แต่จะรู้แจ้งว่าเป็นของปรุงแต่งชั่วคราว

นั่นแหละ! ที่พ้นจากเลว และเหนือกว่าดี!

ความเห็น 7
  • Yong
    ผู้ที่ฝึกหัดจิตให้เป็นกลาง เป็นจิตที่ตั้งมั่น เป็นหนึ่ง เรียกสัมมาสมาธิ ในอริยมรรค มีสภาวะสงบ สว่าง ด้วยแสงแห่งปัญญา และสะอาด เพราะไม่มีกิเลส นิวรณ์ 5 อยู่ในสัมมาสมาธิ ผู้นั้นจึงจะสามารถ รู้สิ่ง ต่างๆตามความเป็นจริง อันใดเป็นกุศล เป็นบุญก็รู้ อันใดเป็นอกุศล เป็นบาปก็รู้ เขาย่อมเลือกที่จะละบาป ทางกายวาจา ด้วยการไม่ละเมิดศีล 5 มาประพฤติอยู่ในอริยมรรค ขัดเกลากิเลส อย่างหยาบ ออกด้วยศีล อย่างกลาง ออกด้วยสมาธิ และอย่างละเอียด ประเภททิฐิมานะ ออกด้วยปัญญา จิตย่อมไม่ยึดมั่นถือมั่น ไม่เมาบุญ เป็นโลกุตระ
    26 เม.ย. 2563 เวลา 07.58 น.
  • ผมคิดว่าคนเรานั้นไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมากับในชีวิต ถ้าหากว่าได้คิดพิจารณาถึงในความถูกต้องให้อย่างดีแล้ว ก็ย่อมสามารถที่จะช่วยทำให้เลือกที่จะตัดสินใจทำกับในสิ่งที่ถูกต้องได้เสมอครับ.
    25 เม.ย. 2563 เวลา 22.28 น.
  • กิเลสมันปรุงมันแต่ง
    26 เม.ย. 2563 เวลา 04.58 น.
  • SUPADON
    ไม่แสวงก็พบทางสว่าง
    26 เม.ย. 2563 เวลา 17.01 น.
  • Kittichat P.
    อยู่คนเดียว ให้ระวังความคิด อยู่กับมิตร ให้ระวังคำพูด ข้อความจากป้ายธรรมะ ณ วัดแห่งหนึ่ง
    26 เม.ย. 2563 เวลา 06.39 น.
ดูทั้งหมด