"คลัง" ยืนยันไม่เก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ไม่เกิน 2 หมื่นบาท ตามถกฎหมายฉบับเดิมที่ได้ยกเว้นภาษีไว้ ขณะที่ "สรรพากร" แนะผู้ฝากเงินยินยอมให้แบงก์ส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร ไม่เช่นนั้นจะถูกเก็บตั้งแต่บาทแรก
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กรณีที่กรมสรรพากรออกประกาศเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติการจัดเก็บภาษี หัก ณ ที่จ่าย 15% จากดอกเบี้ยเงินฝากในบัญชีออมทรัพย์นั้นยืนยันว่า ดอกเบี้ยไม่เกิน 20,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี ตามถกฎหมายฉบับเดิมที่ได้ยกเว้นภาษีไว้ แต่ยอมรับว่า ธนาคารขนาดเล็กส่วนใหญ่มักแนะนำลูกค้าให้ปิดบัญชี หากผลตอบแทนดอกเบี้ยเกือบถึง 20,000 บาท เพื่อเปิดบัญชีใหม่ หวังช่วยเหลือดูแลและยังถือว่าเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีลูกค้า ซึ่งการออกกฎหมายฉบับใหม่ได้หารือกันมา 2 ปี เพื่อให้สถาบันการเงินปรับตัว ซึ่งทั้งธนาคารรัฐและ 5 ธนาคารขนาดใหญ่ได้ปรับตัวรองรับหมดแล้ว เหลือเพียงแบงก์ขนาดเล็ก เพื่อช่วยส่งข้อมูลให้กับกรมสรรพากรและแนะนำลูกค้าให้ดำเนินการอย่างถูกต้อง
ด้านนายปิ่นสาย สุรัสวดี โฆษกกรมสรรพากรกล่าวว่า เพื่อให้การเสียภาษีผลตอบแทนดอกเบี้ยอย่างเป็นธรรม จากที่มีหลายคนแตกบัญชีย่อยเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี จากการแนะนำของสถาบันการเงิน ซึ่งการฝากเงินที่จะได้ผลตอบแทน 20,000 บาทต่อปีนั้นต้องมียอดเงินฝากถึง 4 ล้านบาท ดังนั้นบัญชีออมทรัพย์ส่วนใหญ่ 99% ของประชากร มีเงินฝากไม่ถึง 1 ล้านบาทต่อบัญชี จึงเห็นว่า รายย่อยได้รับผลกระทบน้อยมาก
"ระหว่างนี้กรมขอให้ประชาชนที่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ มาให้ความยินยอมกับสถาบันการเงินที่มีเงินฝากอยู่ทุกแห่ง ให้ส่งข้อมูลทางบัญชีให้กรมสรรพากรรับรู้ แม้ว่าประชาชนกว่า 99% จะไม่ได้รับผลกระทบก็ตาม แต่ควรมาแสดงความยินยอมไว้ เพราะหากไม่ดำเนินการ ผู้ฝากทุกรายจะมีภาระการเสียภาษี ณ ที่จ่าย จากรายได้จากดอกเบี้ย 15% ทันทีโดยอัตโนมัติ แม้รายได้ดังกล่าวไม่เกิน 20,000 บาท ก็ตาม และค่อยไปขอคืนภาษีดังกล่าวในช่วงปลายปีได้"
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ช่วงที่ผ่านมาการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ แม้จะเป็นธนาคารเดียวกัน แต่เปิดบัญชีสาขาภาคเหนือและภาคใต้ยังเชื่อมโยงข้อมูลได้ไม่ครบถ้วนในแบงก์เดียวกัน เพราะหากข้อมูลครบถ้วนเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์บุคคลเดียวกัน แม้หลายบัญชี หากผลตอบแทนดอกเบี้ยรวมกันถึง 20,000 บาท ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายนำส่งกรมสรรพากร ปัจจุบันคาดว่ามีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ผลตอบแทนดอกเบี้ยเกิน 20,000 บาท ประมาณ 100 ล้านบัญชี
ตอนไปขอคืนภาษี ช่วยจ่ายดอกเบี้ยในส่วนที่เก็บภาษีเขาคืนมาด้วยนะ เพราะมันเป็นการเสียโอกาสที่เขาจะได้ดอกเบี้ยเพิ่มจากธนาคาร
20 เม.ย. 2562 เวลา 08.21 น.
ชายโจ ดอดเบี้ยปีละ20000บาท มันไม่ได้เยอะเลย ยังจะมาเก็บภาษีอีก ค่าครองชีพต่อวันมันสูงมากขนาดไหน เงินเเต่20000บาทมันจะพอประทังได้สักกี่วัน ครอบครัวนึงมีกี่คน ลองไปคิดดู อยากขูดเลือดก็ควรไปขูดพวกเจ้าสัวเศรษฐีทั้งหลาย ไม่ใช่มาขูดเลือดปู
20 เม.ย. 2562 เวลา 07.31 น.
thitima สองคน สองวัน พูดไม่เหมือนกัน
ทำไมไม่คุยกันให้รู้เรื่องก่อน
20 เม.ย. 2562 เวลา 07.18 น.
tippawan แล้วทำไมต้องให้คนธรรมดาไปแจ้งทำไมก็สามารถตรวจสภาพว่าใครมีดอกมากได้นี่ง่ายกว่าคนทั่วประเทศนี่ละดีแต่คิดทำวิจัยซิจะได้รู้ว่าอะไรคุ้มกว่าเฮ่อ ต่อไปก็ไม่ต้องฝากเงิรแล้วเพาะดอกก็มิได้มาแต่ต้องแจ้โน่นนี่ถาไม่แจ้ก็ต้องเสียภาษีจะบ้า
20 เม.ย. 2562 เวลา 06.59 น.
สรุป...ถ้าคุณได้ดอกเบี้ยปีละ6บาท..คุณจะต้องเสียดอกเบี้ยให้รัฐปีละ.90บาท..นอกจากคุณไปเซ็นยินยอมที่ธนาคารให้สรรพากร..คุณก็จะไม่เสีย.90บาท..เข้าใจตรงกันน่ะ...
20 เม.ย. 2562 เวลา 10.07 น.
ดูทั้งหมด