หลายคนอาจรู้สึกคุ้นๆ ว่าเคยได้ยินชื่อโครงการ 'รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน' มานานแล้ว และได้ยินว่ามีกลุ่มทุนหนึ่งชนะการประมูลไปหลายเดือนก่อน แต่เหตุใดถึงยังไม่มีการเซ็นสัญญาเริ่มต้นก่อสร้างกันเสียทีนะ
และในที่สุดวันที่ทุกคน (ในฐานะผู้เสียภาษี-จ่ายเงินค่าสร้างเมกะโปรเจ็กต์นี้) รอคอยก็มาถึงแล้ว เมื่อจะมีการลงนามเริ่มต้นสร้างเสียทีในวันที่ 24 ตุลาคมนี้
The MATTER เลยอยากถือโอกาสนี้ สรุปความเป็นมาของโครงการที่จะเชื่อมสนามบินนานาชาติสำคัญ 3 แห่งของไทย ให้ทุกคนได้ทราบกันว่า โครงการนี้มีความเป็นมาอย่างไร? ใครเริ่มต้นและทำเพื่อใครหรือเปล่า? เหตุใดกลุ่มทุนที่ว่าถึงชนะประมูล? และเมื่อโครงการแล้วเสร็จ ประเทศชาติ สังคม และคนไทยจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง?
รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ทำไมต้องสร้าง?
โครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน มีชื่อเต็มๆ ว่า ‘โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน’ เริ่มต้นในรัฐบาล คสช. จากการผลักดันโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC และเห็นความไม่เชื่อมต่อของระบบขนส่งทางราง จึงเป็นที่มาของการเริ่มต้นศึกษาโครงการนี้เมื่อปี พ.ศ.2560 ด้วยวัตถุประสงค์ “ให้เดินทางจาก กทม.มายังพื้นที่ EEC ภายใน 1 ขั่วโมง โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน”
กระทั่งวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือบอร์ด EEC ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน ก็มีมติไฟเขียวให้เดินหน้าโครงการนี้ และต่อมาในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ.2561 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานเช่นกัน ก็เห็นชอบโครงการและให้เปิดประมูลได้
โครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน มีมูลค่ากว่า 2.24 แสนล้านบาท ลักษณะโครงการจะเป็นรถไฟความเร็วสูง ระยะทางรวม 248.6 กิโลเมตร (ช่วงพญาไท-สุวรรณภูมิ 28.6 กิโลเมตร และช่วงดอนเมือง-อู่ตะเภา 220 กิโลเมตร) มีสถานีให้บริการ รวม 9 สถานี ได้แก่ ดอนเมือง บางซื่อ มักกะสัน สุวรรณภูมิ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา พัทยา และอู่ตะเภา
ซึ่งจะเชื่อมต่อกับแอร์พอร์ตเรลลิงก์เดิมกับส่วนต่อขยาย รวม 10 สถานี
พร้อมกำหนดไว้ว่าจะทำความเร็วในเขตเมืองสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง และนอกเมืองสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างราว 5 ปี เปิดให้บริการเร็วสุดในปี พ.ศ.2566 โดยกำหนดอัตราค่าโดยสารไว้คร่าวๆ รถไฟในในเมือง เริ่มต้น 13 บาท และเพิ่มขึ้น 2 บาท/กิโลเมตร ส่วนรถไฟความเร็วสูง เริ่มต้น 80 บาท และเพิ่มขึ้น 1.8 บาท/กิโลเมตร คาดการณ์จำนวนผู้โดยสาร 1.47 แสนเที่ยวคน/วัน
แนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ที่มาภาพ: EEC)
ใครเป็นใครในการแข่งประมูล
โครงการนี้จะดำเนินการในลักษณะร่วมทุน หรือ PPP โดยรัฐบาลเปิดให้เอกชนประมูลเพื่อเข้าร่วมดำเนินการ ภายใต้เงื่อนไขใครเสนอราคาต่ำสุด- ชนะ โดยมีกลุ่มทุนสนใจเข้าซื้อซองถึง 31 ราย แต่ยื่นประมูลจริงเพียง 2 ราย ได้แก่
- กิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด (กลุ่ม CPH) หรือ ‘กลุ่มซีพี’ ซึ่งประกอบด้วย
บมจ.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง (ถือหุ้น 70%) บมจ.ช.การช่าง และ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (ถือหุ้นร่วมกัน 15%) China Railway Construction Corporation Limited (ถือหุ้น 10%) บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ถือหุ้น 5%) 2. กิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) หรือ ‘กลุ่มบีทีเอส’ ซึ่งประกอบด้วย
บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ถือหุ้น 60%) บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชัน จำกัด (ถือหุ้น 20%) บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้งส์ จำกัด (ถือหุ้น 20%) การยื่นซองประมูลเกิดขึ้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เจ้าของโครงการ ประกาศให้กลุ่มซีพีชนะประมูล เนื่องจากขอรับการสนับสนุนเงินจากรัฐบาลต่ำกว่า โดยขอรับ 1.17 แสนล้านบาท ขณะที่กลุ่มบีทีเอสขอรับ 1.69 แสนล้านบาท
ครม.เห็นชอบผลประมูลและร่างสัญญาสัมปทานที่มีอายุ 50 ปี ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2562 และเดือนถัดมา คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ก็เห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ของโครงการนี้
ขั้นตอนทางราชการเสร็จสิ้นหมดแล้ว เหลือเพียงแค่เอกชนลงนามในสัญญาก็เริ่มสร้างได้ทันที!
เหตุใดการเซ็นสัญญาณถึงล่าช้า?
หลังทราบผลประมูล กลุ่มซีพี ยื่นข้อเสนอนอกเอกสารขอบเขตการประกวดราคา หรือ TOR มาถึง 12 ข้อ อาทิ ขอขยายอายุสัมปทานจาก 50 ปี เป็น 99 ปี, รัฐบาลต้องเริ่มจ่ายเงินอุดหนุนระหว่างปีที่ 1-6 จากเดิมที่เริ่มจ่ายในวันที่เปิดให้บริการ, ลดสัดส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่เหลือ 5% ได้ เผื่อนำเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น, ให้รัฐบาลจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยถูกให้, ให้รัฐบาลชดเชยค่าเสียหายหากสนามบินอู่ตะเภาล่าช้า, ห้าม รฟท.ทำธุรกิจแข่งกับภาคเอกชน ฯลฯ
วรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าฯ รฟท.ระบุว่า ข้อเสนอนอก TOR ของกลุ่มซีพีเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้
เมื่อมีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็ออกมากดดันให้กลุ่มซีพีรีบลงนามในสัญญาตามกรอบเวลา คือวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2562 (ซึ่งต่อมาเลื่อนเป็นวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2562 หลังจากบอร์ด รฟท.ลาออกยกชุด) ทั้งศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม
ขณะที่มีรายงานว่า หนึ่งในเหตุผลที่กลุ่มซีพีไม่ยอมลงนามในสัญญา มาจากปัญหาเรื่องการส่งมอบพื้นที่ที่ทำให้ได้เพียง 72% ทำให้เกิดสภาพฟันหลอ เพราะบางส่วนต้องเวนคืนพื้นที่ 850 ไร่ และมีพื้นที่บางส่วนถูกบุกรุก บางส่วนปล่อยให้เช่า ไม่รวมถึงการย้ายท่อก๊าซ สายส่งเสาไฟฟ้าแรงสูง ท่อประปา ฯลฯ ขณะที่กลุ่มเอกชนต่อรองขอให้ส่งมอบพื้นที่ทั้งหมด 100% ภายในปี 1 ปี โดยกำหนดไว้ในสัญญาแนบท้ายถึงจะยอมลงนามในสัญญา
ศุภชัย เจียรวนนท์ ผู้บริหารเครือซีพี ในวันเดินทางมายื่นซองประมูลโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน (ที่มาภาพ: โพสต์ทูเดย์)
สารพัดข้อสงสัยต่อโครงการนี้?
เมกะโปรเจ็กต์มูลค่า 2.24 แสนล้านนี้ถูกตั้งคำถามจากหลายฝ่าย หลายประเด็น ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ
ธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง มองว่า ภาครัฐจะไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม แม้จะได้ส่วนแบ่งการเดินรถ แต่ภาคอกชนจะได้พื้นที่ย่านมักกะสัน 140 ไร่ไปพัฒนา ซึ่งตีราคาค่าเช่าไว้ปีละ 1,000 ล้านบาท รวมอายุสัมปทานคือ 50,000 ล้านบาท ทั้งที่เป็นที่ดินย่านใจกลางเมืองน่าจะมีมูลค่าสูงกว่านั้น
ขณะที่ฝ่ายการเมืองพยายามขอเข้ามาตรวจสอบโครงการนี้ ทว่าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ.2562 มีมติ 231 ต่อ 223 เสียง ไม่ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาตรวจสอบโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.พรรคประชาชาติ ผู้เสนอญัตติดังกล่าวมองว่า โครงการนี้ไม่โปร่งใส ตั้งแต่เริ่มต้น รวมถึง TOR แถมยังขาดการวิเคราะห์หรือประเมินผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม เราไม่ได้บอกว่ารัฐบาลห้ามทำแต่ต้องทำให้รอบคอบ ให้ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด ไม่ใช่เอื้อประโยชน์ให้นายทุนเท่านั้น
ด้านสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้ รฟท.เปิดเผยสัญญาก่อนที่จะลงนาม
หลังเซ็นสัญญา ก็น่าจับตาต่อไปว่าโครงการนี้ คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดจะเป็นใคร จะเป็นไปตามที่หลายๆ ฝ่ายตั้งข้อสังเกตและข้อกล่าวหาไว้ล่วงหน้าหรือไม่
Content by Jiratchaya Chaichumkhun & Pongpiphat Banchanont
Sathaporn(ตุ้ย) แผ่นดินนี้เป็นที่กอบโกยผลประโยชน์ของเจ้าสั๋ว และรัฐบาลทหารก็สนองประโยชน์ต่างตอบแทนกันให้อย่างดีที่สุด ชนิดที่ว่า "ชี้มาเลยครับว่าจะเอาอะไร เดี๋ยวผมจัดให้ครับ"...
24 ต.ค. 2562 เวลา 02.07 น.
Peace ใครได้รับสัมประธานเตรียมตัวเจ็ง ถ้าเอาจีนมาร่วม
23 ต.ค. 2562 เวลา 11.54 น.
ทำไมต้องให้รัฐจ่ายค่าชดเชย ในกรณีส่งงานช้า??? ละทำไมไม่ต้อง คณกรรมการตรวจสอบโครงการ เห็นทำอย่างอื่นตังเอาๆๆ??? แล้วไอ้ ซีพี ทำไมได้สัมปทาน50ไม่พอใจ ยังจะของเป็น99ปีเพื่อ??? สรุปปชชได้อะไร ??? สรุปตูบจะอุ้มอีซีพีให้มันกินรวบรถไฟ99ปี จนลูกหลานเหลนตายเกลี้ยงยังกินกันอยุ่ สรุปรีบสร้างง เพื่อ คนไทยเพื่อชาติ????
23 ต.ค. 2562 เวลา 11.53 น.
Banpot Srisawang น่าจะศึกษาเรื่องการเวนคืนพื้นที่ จัดการพื้นที่เขตก่อนสร้าง พื้นที่รอบข้าง อุปสรรคอื่นๆที่จะต้องเจอต้องแก้ไขให้ชัดเจนชัดแจ้งเสียก่อนค่อยมาว่ากัน แต่นี่ดูแล้วเหมือนกับว่าประมูลให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาว่ากันเรื่องปัญหาทีเหลือ ยังไงเสียสุดท้ายรัฐบาลก็ต้องยอมอยู่ดี งานนี้รัฐบาลและชาวบ้านมีแต่เสียกับเสีย เสี่ยซีพี กับพวกรอรับประโยชน์ไปเต็ม ๆ อาจมีโยนเศษเล็กเศษน้อยให้กับกองเชียร์และกลุ่มคนที่เห็นชอบเห็นด้วยสนันสนุนบ้างเป็นธรรมดอดา ที่นี่ประเทศไทย
23 ต.ค. 2562 เวลา 11.52 น.
Pongtawat R. รีบให้เสร็จโดยไว โครงการนี้จะเปลี่ยนแปลงประเทศไปอีกขั้น
23 ต.ค. 2562 เวลา 11.42 น.
ดูทั้งหมด