26 มี.ค.62 - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า มิพักต้องกล่าวถึงกติกาอัปลักษณ์ การใช้อำนาจรัฐ อำนาจเงิน และวิธีการสารพัดรูปแบบเพื่อสร้างความได้เปรียบของฝ่ายผู้มีอำนาจ เพราะมีคนพูดถึงมากมายต่อเนื่องอยู่แล้ว รวมทั้งคำถามเรื่องความโปร่งใส ชอบธรรมในการจัดการเลือกตั้งของกกต. ซึ่งควรมีคำตอบที่ชัดเจนให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด
มองแค่ผลคะแนนตามที่กกต.แถลงอย่างไม่เป็นทางการเพียงมิติเดียว ก็พอเห็นอะไรที่จะแลกเปลี่ยนกันได้บ้าง
ผมพูดมาตลอดสิบกว่าปีกระทั่งหลังการยึดอำนาจรอบนี้ เมื่อมีวงประชุมให้ไปแสดงความเห็นเรื่องความปรองดอง ก็ชี้ชัดต่อหน้าแม่ทัพนายกองทั้งหลายว่า ความขัดแย้งทางการเมืองที่เป็นอยู่ ไม่ใช่เรื่องเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ ไม่ใช่เสื้อแดงกับเสื้อเหลืองหรือนกหวีด
ทั้งหมดเป็นการต่อสู้กันระหว่างแนวคิดอนุรักษ์นิยมกับเสรีนิยม กลุ่มมวลชนฝ่ายต่างๆไม่ใช่เหตุ แต่เป็นผลของความขัดแย้งนี้
ผลคะแนนที่ออกมาน่าจะอธิบายข้อสรุปดังกล่าวได้ ว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมเทคะแนนส่วนใหญ่ไปที่พรรคพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ฝ่ายเสรีนิยมลงคะแนนให้พรรคการเมืองที่ประกาศจุดยืนต่อต้านการสืบทอดอำนาจ โดยมีพรรคเพื่อไทยและอนาคตใหม่ยืนเป็นหลัก
ขั้วตรงกลางหรือทางเลือกที่สามไม่มีอยู่จริง พรรคประชาธิปัตย์จึงถูกปฏิเสธจากทั้งสองฝ่าย เหลือเพียงฐานมวลชนของพรรคที่ยังสนับสนุน
ลุงกำนัน ไม่ใช่ผู้นำจิตวิญญาณของมวลชนกปปส. แม้โค้งสุดท้ายจะปลุกพลังนกหวีดขึ้นสู้ แต่ผลคะแนนก็เป็นอย่างที่ทราบ
การเมืองหลังจากนี้ยังคงเป็นการต่อสู้กันของคู่ปรับเดิม เบื้องต้นเป็นการช่วงชิงจัดตั้งรัฐบาล หลังจากนั้นไม่ว่าฝ่ายใดได้อำนาจบริหาร เกมหักล้างกันในรัฐสภาจะเข้มข้นและเป็นกระแสสูง อาจมีนอกสภาสนับสนุนทั้งสองฝ่ายบ้าง แต่การขับเคลื่อนมวลชนขนาดใหญ่ในบริบทนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ หากเป็นรัฐบาลสืบทอดอำนาจ ฝ่ายค้านจะต่อสู้ในสภาซึ่งจำนวนเสียงก้ำกึ่งเป็นด้านหลัก แต่ถ้าเป็นรัฐบาลซีกประชาธิปไตย ฝ่ายค้านมีแนวโน้มจะใช้กลไกนอกรัฐสภาตามที่รัฐธรรมนูญออกแบบไว้ และหรือวิธีนอกรัฐธรรมนูญเข้าจัดการ
รัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะขาดเสถียรภาพ อายุงานคงไม่ยาว เรื่องครบเทอมไม่ต้องเอามาพูดกัน
มองจากผลคะแนน เชื่อว่าทิศทางของประเทศยังคงมีความหวังสำหรับฝ่ายประชาธิปไตย เพราะอีกฝ่ายใช้ทุกวิธีการแล้วยังพ่ายแพ้ต่อพรรคการเมืองที่ประกาศต่อต้านการสืบทอดอำนาจ
ยิ่งรวมคะแนนทั้งหมดยิ่งชัดว่า อำนาจเผด็จการเอาชนะประชาชนในการเลือกตั้งไม่ได้
อย่างไรก็ตาม การต่อสู้นี้ไม่มีชัยชนะเด็ดขาด ยึดอำนาจกี่ครั้งเลือกตั้งกี่หน ก็ไม่มีฝ่ายใดสลายพลังของอีกฝ่ายให้หมดไปได้
มีทางเดียวคือสร้างดุลยภาพทางการเมืองเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติ หากทำเรื่องนี้ได้ประเด็นอื่นจะเป็นเรื่องง่าย แต่ถ้าแก้เรื่องการเมืองไม่ได้ เราจะติดกับดักตัวเองอยู่อย่างนี้ อีกสิบปีข้างหน้าก็ยังต้องสู้กันเรื่องเดิมในสภาพบ้านเมืองที่เสียหายหนักขึ้นทุกที
ผู้มีอำนาจควรยอมรับความพ่ายแพ้ การอ้างผลคะแนนรวมของประชาชนทั้งที่จำนวนส.ส.น้อยกว่า และส่งผู้สมัครมากกว่าพรรคเพื่อไทยถึง 100 เขตเป็นท่าทีของคนกระหายอำนาจ มากกว่ามุ่งแก้ไขปัญหาของประเทศ
ส่วนพรรคเพื่อไทยก็ไม่ควรคิดว่าชนะ แต่พึงตระหนักว่านี่คือโอกาสอีกครั้งที่ประชาชนหยิบยื่นให้ เพราะชัยชนะที่แท้จริงอยู่ที่การนำพาประชาชนพ้นวิกฤติเศรษฐกิจ ความขัดแย้ง ยาเสพติด การทุจริตคอร์รัปชัน ไปสู่อนาคตที่ดีกว่าให้ได้ และต้องรอดพ้นเกมสมคบคิดเพื่อโค่นล้มแบบเดิมๆให้ได้ด้วย
การบ้านข้อใหญ่อีกเรื่องคือ ผลการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนว่าพลังทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยลดลงหรือไม่ ?
จะมีบทสรุปเพื่อก้าวเดินต่อไปท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้อย่างไร ?
การเหยียดยืนขึ้นของพรรคอนาคตใหม่เป็นเรื่องน่าทึ่ง แม้หลายพื้นที่ซึ่งได้รับชัยชนะอาจมีผลจากการหายไปของพรรคไทยรักษาชาติ แต่การตั้งข้อสังเกตุดังกล่าวในวันสำเร็จของอนาคตใหม่คงเป็นเรื่องไม่งาม
การแสดงความยินดีเป็นเรื่องพึงกระทำ อนาคตใหม่จะเผชิญความเป็นจริงทางการเมืองและมีพัฒนาการต่อไปอย่างไรเป็นเรื่องน่าติดตาม
อนึ่ง เกมต่อรองทางการเมืองแบบเก่ายังมีอยู่ การเสนออามิสจูงใจส.ส.ให้ย้ายพรรค หรือยกมือตามที่ต้องการก็ยังมี นักการเมืองหักเหลี่ยมกันเอง นักการเมืองหักหลังประชาชนจะยังไม่หมดไป กลุ่มคนที่ประกาศตัวว่าสะอาดกว่าใครอาจเป็นฝ่ายที่ใช้วิธีสกปรกที่สุดในสถานการณ์นี้
นี่เป็นภาพที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและจะชวนคุยไว้เท่านี้ก่อน หลังจากนี้คงใช้สิทธิ์สนทนากันเรื่อยๆ
ประชาชนเขาจะคุยกัน คงไม่มีใครห้ามนะครับ
เอิ้นอ้ายก็ได๊ คุยกับมึงเหมือนคุยกับคนบ้า พอหมดอนาคตทางการเมืองก็จะค่อยๆแว้งกัดพวกกันเองคอยดูอีกไม่นานธาตุชั่วมึงจะออกมายิ่งถ้าส.สพรรคฝ่ายที่มึงมักจะเอาคำว่าประชาธิปไตยมาหลอกหาแดก ออกมาสนับสนุนอีกฝ่ายจะเป็นงูเห่าหรือเป็นเหี้ย มึงก็จะด่าเขาประนามเขา จริงแล้วก็คนของนายมึงเองแหละ
27 มี.ค. 2562 เวลา 01.54 น.
BabyBoss อย่าไปให้เครดิต
27 มี.ค. 2562 เวลา 01.13 น.
none แหม่ รีบ ทวงบุญคุณ เลย.. สงสัยอยากเป็นรัฐมนตรี
26 มี.ค. 2562 เวลา 23.04 น.
DUM เป็นได้แค่่เศษขยะไร้ค่าชิ้นหนึ่งที่เปื้อนอุจจาระวันนีมึงไม่สามารถไปต่อในสายตาไอ้แมว
26 มี.ค. 2562 เวลา 22.26 น.
Tanongsak ยังมีหน้ามาพูด
26 มี.ค. 2562 เวลา 22.08 น.
ดูทั้งหมด