เปิดกลไกการทำงานของรถคลื่นเสียงสลายการชุมนุม ปล่อยคลื่นเสียงได้ไกล 3 กม. เครื่องมือสลายการชุมมุนมีหลากหลายประเภท ตั้งแต่แก็สน้ำตา รถฉีดน้ำแรงดันสูง รวมไปถึงเครื่องส่งคลื่นความถี่สูง หรือ เครื่องทำหูดับ
เครื่องส่งคลื่นความถี่สูง (LRAD) หรือ Long Range Acoustic Device โดยเครื่องมือดังกล่าวถือกำเนิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จากเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายขับเรือเล็กขนระเบิดพุ่งเข้าชนเรือรบ USS Cole เมื่อปี 2543 ทำให้ทหารอเมริกันเสียชีวิต 17 ราย ทางรัฐบาลอเมริกาจึงพัฒนาอุปกรณ์โจมตีลักษณะต่างๆขึ้น จนเกิดเป็นคลื่นส่งความถี่สูงในเวลาต่อมา
เหตุการณ์ระเบิดเรือรบ USS Cole
แต่เดิมทีเครื่องส่งคลื่นเสียงจะใช้ติดตั้งในเรือเดินสินค้าและ เรือบรรทุกน้ำมันเพื่อใช้เตือนเรือเล็กไม่ให้เข้ามาใกล้ ต่อมาเครื่อง LRAD นั้นถูกใช้ในการสลายการชุมนุมทั่วยุโรป และสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีการนำเครื่อง LRAD มาใช้ในสงครามอิรักอีกด้วย
โดยเครื่อง LRAD สามารถส่งคลื่นเสียงความถี่ 120-140 เดซิเบล ซึ่งเป็นอันตรายต่อหูของมนุษย์และยังสามารถส่งได้ไกลถึง 3 กิโลเมตร แถมยังสามารถกำหนดทิศทางของเสียงได้อีกด้วย
เครื่องส่งความถี่สูงหรือเรียกอีกชื่อว่า "เครื่องทำหูดับ" นั้นจะทำการส่งคลื่นเสียงเป็นลักษณะวงรี
การใช้จานส่งคลื่นเสียงความถี่ 2.5 กิโลเฮิร์ตซ์ ด้วยเชิงมุม 30 องศาสามารถทำให้เกิดเสียงดังระดับ 146 เดซิเบล ซึ่งจะส่งผลให้
– ผู้ที่อยู่ในระยะ 1 เมตรสามารถสูญเสียการได้ยิน “อย่างถาวร” เนื่องจากแก้วหูถูกทำลาย
– สำหรับระยะ 300 เมตร ระดับเสียงจะดังประมาณ 90 เดซิเบล ลักษณะของเสียงจะคล้ายกับเสียงของเครื่องตรวจจับควันไฟ แต่หวีดแหลมและดังกว่ามากๆ โดยอุปกรณ์หลักในการสร้างคลื่นชนิดนี้คือ Piezoceramic Transducers ซึ่งทำหน้าที่เปลี่ยนความถี่ของกระแสไฟฟ้าให้กลายเป็นคลื่นเสียง
ซึ่งมีความดังมากกว่าเสียงเครื่องเจาะซะอีก
เครื่องส่งความถี่สูงถูกแบ่งเป็น 5 ระดับหลัก แต่ที่นิยมใช้ในการสลายม็อบนั่นก็คือระดับ LRAD500 = 149 เดซิเบล และ เครื่องสลายม็อบ LRAD1000 = 153 เดซิเบล ซึ่งมีคลื่นเสียงความถี่เกือบเทียบเท่ากับเสียงปล่อยจรวดจากฐานยิงที่มีความดังอยู่ที่ 165 เดซิเบล
4 วิธีลดเสี่ยงจากเสียงเครื่องสลายม็อบ(LRAD) “วิธีป้องกัน” สามารถปฏิบัติได้โดย
1.ใช้ Ear-plugs หรือที่อุดหู ควรเลือกชนิดที่ป้องกันเสียงได้สูงสุด เช่น Ear-Plugs สำหรับงานช่าง หรือ สำหรับซ้อมยิงปืน
2. ถ้าไม่มี Ear-Plugs ควรประยุกต์สร้างอุปกรณ์อุดหูด้วยวัสดุที่ช่วยลดระดับเสียง เช่น กระดาษทิชชู หรือ ก้นบุหรี่ชุบน้ำให้หมาดหรือ เหลาจุกคอร์กให้มีขนาดที่เหมาะสม แล้วใช้แทน Ear-Plugs
3.ตัดเล็บนิ้วมือให้สั้น โดยเฉพาะนิ้วก้อย เพราะถ้าไม่มี Ear-Plugs หรืออุปกรณ์ใดๆ ก็ให้ใช้นิ้วก้อยอุดช่องหูให้แน่นที่สุด ผิวหนังของมนุษย์สามารถดูดซับให้คลื่นเสียงอ่อนกำลังลง
4. ควรเตรียมหน้ากากสำหรับ “สะท้อนแนวคลื่น” ด้วยการใช้แผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ ตัดให้มีขนาดความยาวพอที่จะพันรอบศีรษะได้ เจาะรูรูปสามเหลี่ยม…สำหรับให้จมูกโผล่ออกมา เพื่อหายใจ เจาะรูตำแหน่งดวงตา เพื่อให้สามารถมองเห็น
ขอขอบคุณที่มา iandme2012.wordpress.com/
โย ทำไมไม่ใช้รถติดปืนกลต่อสู้อากาศยานเลยจะได้จบๆครับ
18 พ.ย. 2563 เวลา 12.15 น.
อยากกินหมูแดดเดียวกับข้าวเหนียวร้อนๆ น้ำจิ้มแจ่วด้วย
18 พ.ย. 2563 เวลา 12.15 น.
Bill สุรพล ใส่กันเต็มที่ไปเลย
หูดับตับไหม้ จะทำไงดีเนี่ย
18 พ.ย. 2563 เวลา 12.52 น.
Pichai คิดว่าคงใช้ไม่ได้ผลหรอก. ตา(ใจ)บอด. หูก็น่าจะตันด้วยมั้ง. ต้องใช้ร่วมกับเครื่องยิงลำแสงเข้มข้นด้วย. น่าจะเวิร์ก!!!! ล้อเล่นครับ.
18 พ.ย. 2563 เวลา 12.25 น.
ดูทั้งหมด