ไมค์ ไทสัน อดีตเเชมป์มวยเฮฟวี่เวต 3 สถาบัน น่าจะเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เกิดมาแล้วใช้ชีวิตได้คุ้มค่าชนิดที่ว่าตายไปก็ไม่เสียดายมากที่สุดคนหนึ่ง…ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
ชีวิตของเขาเหมือนกับขึ้นรถไฟเหาะตีลังกา เมื่อขึ้นไปสูงสุด อยู่ดีๆก็ตกวูบลงมาเฉียดกระแทกหิน และเผลออีกเเวบเดียวเขาก็หายไปจากตรงนั้นเเล้วและปรากฎตัวอีกทีในฐานะผู้พิชิตรถไฟเหาะคันนั้น
ชีวิตสุดเหวี่ยงของไมค์ ไทสัน จาก 400 ล้านเหรียญสู่การเป็นโจรขโมยอาหารกระป๋อง… อะไรทำให้เขามีชีวิตที่น่าอิจฉาอีกครั้ง?
ติดตามได้ที่นี่
รวยล้นฟ้า..สู่ยาจกข้างถนน
ไมค์ ไทสัน คือ คำจำกัดความของโคตรมวยเฮฟวี่เวตได้ดีที่สุดในรอบ 20-30 ปีหลังสุด ไม่มีใครกล้าปฎิเสธว่านักมวยคนนี้ที่ตัวเล็กกว่าคนอื่นๆในรุ่นถูกทดแทนด้วยพรสวรรค์ที่ใครก็ไม่อาจเทียบได้ทั้งเรื่องความเร็วและพลังหมัดที่ว่ากันว่าหากใครดูการถ่ายทอดสดคู่ที่ ไทสัน ชกและเผลอเข้าห้องน้ำ คุณอาจจะกลับมาไม่เห็นช็อตน็อคเอาต์ที่เป็นไฮไลต์ของไฟต์เลยทีเดียว
Photo : www.articlelist.com
สิ่งหนึ่งที่ ไทสัน มีนอกจากฝีไม้ลายมือและพรสวรรค์เเล้ว เขาเป็นนักกีฬาประเภทที่ว่า"เกิดมาเพื่อเป็นสตาร์" โดยแท้จริง คาแร็คเตอร์, คำพูด และหลายอย่างในตัวเขารวมกันเเล้วมันคือออร่าความเป็นสตาร์ที่ขายได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นงานโชว์ตัว หรือการขึ้นชก เงินจะหลั่งไหลเข้ามาในกระเป๋าของเข้าอย่างที่คนธรรมดาๆไม่อาจจะจินตนาการได้
ในช่วงที่พีกที่สุดไทสันเริ่มกอบโกยเงิน และมีการสรุปทรัพย์สินโดยรวมอยู่ที่ 400 ล้านดอลลาร์ เงินขนาดนั้นในยุค '90s หากเป็นคนที่มีการวางแผนชีวิตสักหน่อยยังไงเสียก็ใช้ไม่มีวันหมดอยู่แล้ว
ทว่า ไทสัน ก็คือ ไทสัน คาแร็คเตอร์สุดโฉบเฉี่ยวของเขาบอกได้ทุกอย่าง เพราะหลังจากที่มีเงินและมีชื่อเสียงแล้ว วินัยที่เคยมีมาตลอดในช่วงวัยรุ่นก็หายไป การเที่ยวหนัก, ใช้เงินหนัก และ เป็นคนดังทำให้เขาหลงระเริงบางเรื่องไปจนกระทั่งวันหนึ่งพรสวรรค์ที่มี ก็ค่อยๆหายไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว
Photo : www.thesportsfanjournal.com
คนเราพอมาถึงวันที่ลง มันก็ลงหมดจริงๆ จากคนเคยมีเงิน 400 ล้านดอลลาร์ ไทสัน กลายเป็นพวก พีกเร็ว-พังไว ตามไลฟ์สไตล์ของเขาทำให้ไทสัน หมดรูปมวยตั้งแต่ช่วงอายุ 20 ปลายๆ ทั้งที่ความจริงแล้วนักชกหลายคนยังฟิตเปรี๊ยะได้ในวัยนั้น ไม่ต้องนับพวกฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ หรือ แมนนี่ ปาเกียว ก็ได้ เอาแค่ยุคก่อนที่ ไทสัน จะดังอย่าง จอร์จ โฟร์แมน ยังสามารถเป็นแชมป์โลกได้ในวัย 45 ปี
เมื่อฝีมือทางการชกมวยหมดไป อะไรๆก็เข้าสู่ขาลงเต็มรูปแบบ ไทสัน ยังต้องทำผิดพลาดจนติดคุกในคดีข่มขืน และมีคดีเล็กๆน้อยๆอีกมากมาย ซึ่งหลังจากติดคุกก็พยายามที่จะกลับมาสร้างชื่อเสียงอีกครั้งในฐานะนักมวยแม้จะสามารถกลับมาคว้าแชมป์ได้ จากการชนะ แฟรงค์ บรูโน่ และ บรูซ์ เชลดอน ในปี 1996 ที่ทำให้เขาคว้าแชมป์โลกของ WBA และ WBC ได้ ทว่าหลังจากนั้นไม่กี่เดือนเขาก็แพ้ให้กับ อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ 2 ไฟต์รวด และไม่สามารถกลับมาชกในมาตรฐานเดิมจนเป็นแชมป์โลกได้อีกเลย
หลังจากแขวนนวม ไทสัน ไม่เลิกชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อ ทุกอย่างที่ใครมองว่าไร้สาระที่จะจ่าย แต่สำหรับไทสัน ไม่มีคำว่า "ไม่" มีแต่คำว่า "ผมต้องจ่ายกี่บาทสำหรับสิ่งนี้?" เท่านั้น
Photo : www.returnofkings.com
มีการสรุปแบบคร่าวๆว่าเงินของ ไทสัน หมดไปกับสิ่งต่างๆอย่างการจัดปาร์ตี้, การช็อปปิ้ง, ซื้อเครื่องประดับ, การสะสมรถสปอร์ตที่มีไม่กี่คันบนโลก รวมถึงสารพัดของที่คนธรรมดาๆ ไม่คิดจะซื้ออย่างอ่างจากุชชี่ทองคำ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องการสู้คดีฟ้องร้องกับภรรยา ที่ทำให้เขาต้องแบ่งทรัพย์สินให้อีกเป็นหลักหลายล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
สำคัญที่สุดที่มนุษย์ด้นสดอย่างเขาพลาด คือ การลืมคิดไปว่าตัวเองต้องจ่ายภาษี และการค้างบิลค่าชำระต่างๆมากมาย ไม่ใช่เพราะไม่มีเงิน แต่เป็นเพราะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นจนลืมไปว่าต้องจ่ายจนดอกเบี้ยงพุ่งทะยานจนเจ้าตัวรับมือไม่ไหว และสุดท้ายในปี 2003 ไมค์ ไทสัน ก็ถูกศาลสั่งฟ้องกลายเป็นบุคคลล้มละลาย
จาก 400 ล้านดอลลาร์ กลายเป็น 0 เรียบร้อยเเล้ว… แม้จะดูหมดหวังแต่นี่ก็เป็นอีกครั้งที่โลกได้รู้ว่า ไทสัน ก็คือ ไทสัน คนธรรมดาอาจจะยอมแพ้แต่ ไทสัน ไม่คิดอย่างนั้น…
คำเรียกสติ
กีกี้ ลาคิญ่า ภรรยาคนที่ 3 ของ ไทสัน เคยเผยว่าช่วงเวลาที่เงินหมด ไทสัน ตกต่ำจนถึงขนาดที่ว่าต้องไปขโมยอาหารกระป๋องในซูเปอร์มาร์เก็ตมาเเล้ว แต่โชคดีที่เธอเห็นก่อน และเตือนสติเขาว่าอย่าทำ
Photo : www.zimbio.com
การตักเตือนของ กีกี้ เป็นถ้อยคำง่ายๆแค่ว่า "เอาไปเก็บ ฉันไม่อยากอับอายไปมากกว่านี้อีก (ถ้าถูกจับได้)" ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนกับชีวิตของ ไมค์ ไทสัน อย่างแท้จริง
"ภรรยาของผมทำให้รับรู้อะไรบางอย่างที่ผมไม่เคยมีมาก่อน ตลอดเวลาผมคิดว่า ผมควรจะได้ทุกสิ่งที่ต้องการในโลกนี้ แต่นับตั้งแต่คำนั้นของเธอมันเหมือนเป็นคำเตือนจากสวรรค์"
การที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในสถานะที่ดูแลครอบครัวตัวเองไม่ได้ ช่างเป็นอะไรที่เจ็บปวดสำหรับ ไทสัน เมื่อเริ่มรู้สึกรู้สาว่าได้ทำอะไรลงไปบ้าง เขาก็รู้ว่าตัวเองยังมีเวลาอีกเยอะ ที่จะทวงสิ่งต่างๆที่เขามีกลับคืนมา ดังนั้นการถอดใจและปล่อยให้ครอบครัวต้องรับกรรมจากที่เขาทำไว้ จึงเป็นข้อเสนอที่ ไทสัน ขีดฆ่าและเริ่มกลายเป็นคนใหม่อีกครั้ง
ไทสัน กลับมารับงานเล็กๆจากชื่อเสียงเก่าๆด้วยงานโชว์ตัวหรือไม่ก็ขึ้นชกโชว์ในคาสิโนที่ลาส เวกัส แม้จะไม่ใช่ศึกชิงแชมป์โลก แต่ชื่อของเขาก็ยังพอเรียกลูกค้าได้อยู่ เงินเหล่านี้น้อยมาก เมื่อเทียบกับครั้งอดีต ทว่า ไทสัน ทบทวนดูแล้วว่าถึงจุดหนึ่งเขาก็ต้องยอมรับความเป็นไปที่เกิดขึ้น
"คุณต้องยอมรับข้อบกพร่องในตัวเอง เพราะในชีวิตหากคุณรู้ข้อเสียคุณคืออะไร คุณจงภูมิใจที่หามันเจอ ยิ่งรู้ว่าบกพร่องก็ต้องรีบปรับปรุง และข้อเสียเหล่านี้นี่แหละที่ทำให้ผมไปยังจุดสูงสุดได้อีกครั้ง" ไทสัน ผู้ถือคติในการใช้ชีวิตว่า "จงทิ้งอดีตไว้ในอดีต" กล่าว
เริ่มสร้างและขยับขยาย
สำหรับ ไทสัน เขาเคยบอกว่าความตกต่ำมันก็มีข้อดีหลายอย่าง สิ่งที่เขาได้รับรู้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากคือเมื่อถึงเวลาต้องสู้ไม่ว่าโอกาสใดที่เข้ามาเข้าจะคว้าเอาไว้ทั้งหมดและค่อยมาตัดสินใจตอนจบว่าการตัดสินใจครั้งนั้นมันเวิร์กหรือไม่
Photo : www.zimbio.com
หลังจากรับงานโชว์ในคาสิโนอยู่พักหนึ่ง ไทสัน ได้รับการติดต่อจาก Warner Bros ค่ายหนังชื่อดังของ สหรัฐอเมริกา ติดต่อให้เขาเริ่มเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง โดยรับบทนักแสดงสมทบจากหนังฟอร์มเล็กของค่ายก่อน
"จริงๆผมไม่อยากทำงานเกี่ยวกับการโชว์หรือการแสดงอะไรมากมายนักหรอก แต่ดีที่ Warner Bros ไม่ฟังคำปฎิเสธของผม และแน่นอนที่สุดพวกเขาฉลาดกว่าผมอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากนั้นกลายเป็นว่าผมรู้สึกสนุกกับสิ่งที่พวกเขาให้ผมทำมากจริงๆ" ไทสัน กล่าว
ไทสัน รับบทนักแสดงในเรื่อง China Salesman โดยบทของเขาคือการเป็นคู่ปรับของ สตีเว่น ซีกัล พระเอกนักบู๊ขาเก๋า หลังจากนั้นก็ได้ขยับไปเล่นภาพยนตร์ดังอีกหลายเรื่องอาทิ Scooby Doo รวมถึง The Hangover ด้วย
Photo : screenrant.com
เขาเหมือนกับเกิดใหม่ในโลกของการเป็นนักเเสดง หลังจากนั้น ไทสัน มีงานในวงการบันเทิงเยอะมากทั้งการแสดงภาพยนตร์ และพรีเซนเตอร์โฆษณาทั้งในประเทศ และต่างประเทศอาทิ อินเดีย และญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังรายการวาไรตี้ต่างๆในอเมริกาอย่าง Dancing with the Starsในปี 2011 พร้อมๆกับภรรยาของเขา
หลังจากมีแววทางด้านนี้เพื่อนเก่าอย่าง สไปค์ ลี ก็ดึงตัว ไทสัน มาเเสดงละครบรอดเวย์ในช่วงปี 2012 โดยเป็นการแสดงที่ต้องทัวร์ไปยัง 36 ชาติทั่วโลกภายในระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งประบการณ์เหล่านี้ทำให้ ไทสัน รู้สึกหลงรักการแสดงมากขึ้น และเอาดีทางด้านนี้อย่างเต็มตัว จนกระทั่งเขาเริ่มมีสินทรัพย์เป็นของตัวเองอีกครั้ง
จากคนที่เป็นหนี้สรรพกร 23 ล้านเหรียญในปี 2003 ไทสัน ใช้เวลา 10 ปี ล้างหนี้ของเขาทั้งหมดและกลับมามีทรัพย์สินราวๆ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการมีเงินระดับนี้ก็สามารถใช้คำว่า"มีอันจะกิน" ได้อย่างไม่ติดขิดตะขวงใจนัก
Photo : www.si.com
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมาหลังจากที่เขามีรายได้มากขึ้น ไทสัน จ้างบริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูแลการเงินของเขาอย่าง Contra Security เพื่อประเมินความปลอดภัยของทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ที่เขามี
เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดี หาเงินอย่างมุ่งมั่น มีความสุขกับสิ่งที่ทำ และวางแผนชีวิตแบบไม่ประมาท สุดท้าย ไมค์ ไทสัน ก็กลับมาเป็นเศรษฐีอีกครั้ง และหากใครติดตามเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของเขาจะเห็นได้ว่า ไทสัน มีชีวิตที่ดีขึ้นจริงๆ ได้เดินทางไปรอบโลก พบเจอกับแฟนๆที่เขารัก และมีเวลาให้ครอบครัวเสมอ แค่นี้ก็ถือว่ายิ่งใหญ่มากกว่าการเป็นแชมป์โลกอีกด้วยซ้ำไป
ไร่กัญชาสวรรค์พันล้าน
วัย 53 ปี กับสินทรัพย์รวม 3 ล้านเหรียญสหรัฐถือว่าเป็นการคัมแบ็คที่ยิ่งใหญ่แล้ว ทว่า ไทสัน กลายเป็นเหมือนคนหนุ่มอีกครั้ง เขาออกไปพบคนใหม่ เจอสิ่งใหม่ และได้พบโลกใหม่ที่เขาเองก็คุ้นเคยเมื่อครั้งอดีตอย่าง"กัญชา" ทว่าตอนนี้เขาไม่กลับไปหามันในฐานะผู้เสพ (อาจมีบ้างเป็นครั้งคราวเพราะความจำเป็นในเรื่องงาน) แต่เขากลับมาเพื่อเป็นผู้ค้าอย่างถูกกฎหมาย
Photo : face2faceafrica.com
เรื่องราวอันยิ่งใหญ่บทต่อไปของ ไทสัน เริ่มขึ้นในต้นปี 2018 เมื่อ รัฐเเคลิฟอร์เนีย อนุญาตให้จำหน่ายกัญชาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย (สำหรับอายุ 21 ปีขึ้นไป) โดยกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นจากมีการลงประชามติของชาวแคลิฟอร์เนียให้ผ่านกฎหมายนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2017 นั่นเอง
กฎหมายเบื้องต้นนั้นอนุญาตให้ครอบครองกัญชาได้ไม่เกิน 1 ออนซ์ และสามารถปลูกได้ไม่เกิน 6 ต้น สำหรับการใช้เพื่อสันทนาการ แต่อย่างทีได้กล่าวไป ไทสัน ไม่เสพ แต่ตั้งใจจะเป็นผู้ค้า เขาจึงเริ่มศึกษาทั้งเรื่องของกฎหมายและเรื่องของการเพาะปลูกจนสุดท้ายเขาก็กลายเป็นนักธุรกิจค้ากัญชาแบบเต็มตัว
เขาเริ่มซื้อที่ดินจำนวน 100 ไร่ ห่างจากอุทยานแห่งชาติเดธ แวลลี่ย์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และตั้งแบรนด์ของตัวเองที่ชื่อว่า Tyson Ranch ขึ้นมาโดยตั้งเป้าหมายว่ากัญชาของเขาจะต้องเป็นกัญชาคุณภาพ และที่สำคัญคือเขาไม่ต้องการให้กัญชาเป็นแค่เครื่องมือสำหรับสร้างความเพลิดเพลินเท่านั้น ไทสัน ตั้งใจจะตั้งศูนย์วิจัยและทีมนักวิทยาศาสตร์เข้ามาทำงานเพื่อค้นคว้าหาประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพมนุษย์ในกัญชาอีกด้วย
Photo : Tyson Ranch
"ภายใต้แบรนด์ชื่อ "Tyson Ranch" แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ของไทสันไม่ต้องให้คนดังมาช่วยโปรโมตการขายเพราะคนพิสูจน์คุณภาพก็คือเจ้าตัวเอง ผมอยากให้ทุกคนมองในมุมของผมบ้าง การเข้าสู่วงการนี้ผมไตร่ตรองมาดีแล้ว ที่ผ่านมาผมอาจเสพยาหนัก แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไป และการใช้กัญชาช่วยเหลือผู้คนในสายตาผมก็คือสิ่งที่ดี" ไมค์ ไทสันกล่าว
ชื่อเสียงและการตั้งใจทำจริงๆทำให้ ไทสัน มีลูกค้ารอสนับสนุนมากมายทุกเพศทุกวัย จนสร้างรายได้ให้เขาถึงเดือนละ 500,000 ดอลลาร์ มากกว่าธุรกิจใดๆที่เขาเคยทำมาตลอดชีวิต จนระยะหลังเขากลายเป็นดีลเลอร์ที่รับซื้อกัญชาจากไร่อื่นๆและนำแปรรูปเครื่องดื่มสำเร็จรูปรสชาติต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่ามันก็เป็นที่นิยมอีกเช่นเคย เพราะตลาดของ Tyson Ranch กระจายออกไปถึง โคโลราโด, วอชิงตัน, แมสซาชูเซตส์ และ โอกลาโฮม่า แล้ว ซึ่งไทสัน รอวันให้รัฐอื่นๆปลดล็อกกัญชาอีกเพราะเขาจะขยายตลาดไปถึง 46 รัฐทั่วประเทศอเมริกาเลยทีเดียว
ธุรกิจนี้มีแต่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตามธรรมชาติของการ "ลงมือก่อน รวยก่อน" สิ่งต่างๆในชีวิตของ ไทสัน เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ว่ากันว่าเร็วๆนี้โครงการเปิดโปรเจ็กต์ใหม่ด้วยการทำ รีสอร์ท กัญชา บนพื้นที่กว่า 420 เอเคอร์ มีทั้งโรงแรม, พื้นที่สันทนาการ และโซนของแคมปิ้ง ซึ่งถ้าหากว่าโครงการนี้ออกมาสมบูรณ์แบบ ไม่แน่ว่า ไทสัน อาจจะทำเงินมากกว่าตอนที่เขาเป็นแชมป์โลกที่มีเงินในกระเป๋า 400 ล้านดอลลาร์ก็เป็นได้
Photo : Tyson Ranch
"อะไรนะ? คุณเอาผมไปอยู่ในประเภทเดียวกับ (โมฮัมหมัด) อาลี, โจ หลุยส์, แจ็ค จอห์นสัน เหรอ? แต่ผมว่าไม่นะ ผมทำได้ดีกว่าเยอะ ผมนี่แหละยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งโลกกีฬา ถ้าใครยังสงสัยก็ลองมาดูเงินสดที่ผมมีก็แล้วกัน" ประโยคนี้คือประโยคที่ ไทสัน พูดไว้ตอนสมัยเป็นนักมวยแชมป์โลก ณ เวลานั้นทุกคนอาจจะหมั่นไส้ แต่ถึงตอนนี้เขาได้พิสูจน์แล้วในระดับหนึ่ง
จากนักมวยที่เคยสูบกัญชาก่อนขึ้นชกจนหมดสภาพ และเกือบจะทิ้งเงินทองและความภาคภูมิใจทั้งหมดที่มีไปเเล้ว… แต่แค่เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนความคิด และรอโอกาสจนเหมาะสมเพียงนิดเดียว ไทสัน ผันตัวเองจาก เศรษฐี สู่ยาจก และตอนนี้เขาเปลี่ยนจาก ยาจก กลับมาเป็นเศรษฐีอีกครั้ง…ซึ่งทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ดูเหมือนว่าตอนนี้ มิลเลี่ยนเเนร์ อาจจะน้อยไปด้วยซ้ำเพราะอีกไม่กี่ปีเขาอาจจะกลายเป็น บิลเลี่ยนแนร์ และเศรษฐีพันล้านก็เป็นได้
แหล่งอ้างอิง
https://finance.yahoo.com/news/reinvention-mike-tyson-hes-rewriting-165845253.html
https://wealthygorilla.com/mike-tyson-net-worth/
https://www.phillyvoice.com/mike-tyson-back-undisputed-truth-round-2-borgata/
https://www.marketwatch.com/story/mike-tysons-ranch-sells-500000-of-marijuana-each-month-itd-be-a-lot-more-if-he-didnt-smoke-so-much-himself-2019-08-14
https://en.wikipedia.org/wiki/Mike_Tyson_in_popular_culture
https://www.bbc.com/thai/international-42621248
http://fightnights.com/2020/01/20/129/mike-tyson-will-supplement-his-cannabis-business-with-a-luxury-resort
Nickiiiii มีเมียดี เคสนี้
01 ก.พ. 2563 เวลา 15.49 น.
Nok Yoong สุดโต่ง นายสุดมากไทสัน 👍🏿👍🏿👍🏿
01 ก.พ. 2563 เวลา 15.33 น.
𝐑𝐁𝐒 นายสุดยอดมากไทสัน คำพูดเมียเปลี่ยนชีวิตจริงๆ
01 ก.พ. 2563 เวลา 20.10 น.
ชื่นชมในความใจสู้นะ ชื่นชมในโอกาส
แต่ไม่เห็นด้วยกับ กัญชา
01 ก.พ. 2563 เวลา 19.01 น.
Respect !!!
01 ก.พ. 2563 เวลา 15.39 น.
ดูทั้งหมด