ไทยจับมือ Tmall.com สินค้าเกษตรได้ประโยชน์ ยันอี-คอมเมิร์ซไม่ถูกกลืน

“สนธิรัตน์” ปัดอี-คอมเมิร์ซไทยโดนกินรวบ ยันสินค้าเกษตรไทยขายผ่าน Tmall ได้ประโยชน์ โลจิสติกส์ไทยไม่ตาย อาลีบาบา ยังต้องพึ่งให้ส่งสินค้าเข้าคลังที่จะสร้างในพื้นที่อีอีซีก่อนส่งออก…

เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2561 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงความกังวลหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับเว็บไซต์ Tmall.com ตลาดกลางซื้อขายสินค้าออนไลน์ ภายใต้บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป เว็บไซต์ค้าปลีกที่ใหญ่สุดของจีนว่าจะทำให้อี-คอมเมิร์ซ ของไทยแข่งขันไม่ได้ รวมทั้งอาลีบาบาจะเกินรวบระบบโลจิสติกส์ของไทย จากการเข้ามาลงทุระบบโลจิสติกส์ในโครงการระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ว่า ยืนยันว่า ไทยได้ประโยชน์จากความร่วมมือดังกล่าว โดยเฉพาะการขายสินค้าเกษตร ที่นำร่องข้าวและผลิตภัณฑ์ รวมถึงทุเรียน ที่ได้ขายผ่าน Tmall.com ซึ่งภายในเวลาเพียง 1 นาที สามารถขายได้มากถึง 80,000 ลูก ส่งผลให้ราคาทุเรียนหมอนทองเกรดเอ หน้าสวนสูงขึ้นทันทีเป็นกิโลกรัม(กก.) ละ 70-80 บาท จากเดิม กก.ละ 60 บาท

นอกจากนี้ การขายสินค้าเกษตรผ่าน Tmall ถือเป็นความร่วมมือของกระทรวงพาณิชย์ ทำให้ผู้ประกอบการไทยไม่ต้องเสียเค่าใช้จ่ายใดๆ ไปอย่างน้อย 1 ปี จากปกติที่ผู้ขายสินค้าใน Tmall ต้องจ่ายปีละ 3,000 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนกรณีที่คนไทยเกรงว่า ปีนี้อาจไม่มีทุเรียนรับประทาน หรือทุเรียนมีราคาแพง หลังจากขายดีใน Tmall นั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า จะไม่กระทบต่อปริมาณทุเรียนในไทยแน่นอน เพราะคาดว่าปีนี้จะมีผลผลิตทุเรียนในไทย 765,000 ตัน การขายไปตลาดจีนเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น แต่ช่วงนี้เป็นช่วงต้นฤดูกาล อาจทำให้ทุเรียนมีราคาสูงอยู่บ้าง โดยล่าสุด มีทุเรียนจากกว่า 100 สวนแล้ว ที่เข้าร่วมขายสินค้ากับ Tmall และจะมีสวนทุเรียนเข้าร่วมมากขึ้นต่อเนื่อง และต่อไปจะส่งเสริมผลไม้อื่นๆ ของไทย  เช่น มังคุด มะม่วง มะพร้าว น้อยหน่า เป็นต้น ขายใน Tmall ด้วย

อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ ไม่ได้ร่วมมือกับอาลีบาบารายเดียว ยังได้ร่วมมือกับตลาดกลางซื้อขายสินค้าออนไลน์อื่นๆ อีกหลายราย เช่น amazon.com และ e-bay.com เพื่อเจาะตลาดสหรัฐฯ รวมถึงเว็บไซต์ชื่อดังอื่นๆ ของเกาหลี แอฟริกา อินเดีย เป็นต้น ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ 

สำหรับกรณีที่อาลีบาบาจะลงทุนระบบโลจิสติกส์ในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นั้น เป็นการลงทุนตั้งศูนย์กระจายสินค้าในอีอีซี และจะมีการลงทุนระบบแวร์เฮาส์ และระบบดิจิทัล ที่มีการบริหารจัดการสต๊อก เพื่อส่งออกสินค้าไทยกระจายไปยังตลาดโลก ซึ่งในส่วนของโลจิสติกส์ไทยเชื่อว่าจะได้รับประโยชน์ เพราะการที่อาลีบาบาจะรวบรวมสินค้าที่ผลิตจากทั่วประเทศไทย ต้องใช้บริษัทโลจิสติกส์ของไทยขนส่งให้ และนำไว้ที่ศูนย์กระจายสินค้าในพื้นที่อีอีซีก่อนที่อาลีบาบาจะนำไปส่งออกต่อไป ดังนั้นผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยจะได้ประโยชน์จากห่วงโซ่โลจิสติกส์ดังกล่าว

“ธุรกิจโลจิสติกส์อยู่ในบัญชี 3 ของพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ซึ่งคนต่างด้าวต้องได้รับอนุญาตก่อน ยกเว้นการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยไม่ต้องกังวล เพราะอาลีบาบาจะมาช่วยเสริมระบบโลจิสติกส์ให้กับไทยในการตั้งศูนย์กระจายสินค้าเพื่อผลักดันสินค้าไทย ที่ได้รับคำสั่งซื้อส่งออกไปขายในตลาดจีนและทั่วโลก แต่ระบบการขนส่งภายในประเทศยังต้องใช้โลจิสติกส์ของไทยรวบรวมมาให้” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสนธิรัตน์  กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะจัดโครงการส่งเสริมการตลาดทุเรียน เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้มีการบริโภคทุเรียนเพิ่มขึ้น โดยจะเปิดตัวรโครงการวันที่ 18 พ.ค.61 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ โดยจะเชิญนายธนวรรธน์ วรรธนะภูติ หรือโป๊บ และน.ส.ราณี แคมเปน หรือเบลล่า ดารานักแสดงชื่อดังจากละคร “บุพเพสันนิวาส” มาร่วมโปรโมตการจัดงาน และมีแผนที่จะจัดบุฟเฟ่ต์ทุเรียนในจังหวัดแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ต่อไป เพื่อโปรโมตและกระตุ้นการบริโภคทุเรียน เช่น ที่เชียงใหม่ ภูเก็ต จันทบุรี ชลบุรี เป็นต้น.