การเมือง

เชียงใหม่เผาพริกเผาเกลือแช่ง ส.ส.-ส.ว.ทำพิธาวืดนายกฯ 'ธเนศวร์' หนุนก้าวไกลหนักแน่น 112

MATICHON ONLINE
อัพเดต 14 ก.ค. 2566 เวลา 11.47 น. • เผยแพร่ 14 ก.ค. 2566 เวลา 10.23 น.

‘ธเนศวร์’ มช. ชี้ ‘พิธา’ ไม่ผ่านรอบแรกเหตุ ส.ส.-ส.ว.ยึดติดสถาบัน ผูกขาดจงรักภักดี ไม่ฟังเสียง ปชช. แนะไม่อ่อนข้อ ม.112 ให้กลุ่มอนุรักษนิยม ถ้าถอยถูกต่อต้าน ไม่สนับสนุนอีก โหวต 3 ครั้งไม่ผ่านเป็นโอกาส พท.จัดตั้งรัฐบาลแทน ก.ก.

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายหลังทราบผลโหวตนายกรัฐมนตรี โดยที่ประชุมร่วมรัฐสภาโหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เห็นชอบ 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง งดออกเสียง 199 เสียง โดยเสียงไม่พอนั่งนายกฯคนที่ 30

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จากผลโหวตดังกล่าว วานนี้ (13 กรกฎาคม) คณะก่อการล้านนาใหม่-NEO LANNA จัดกิจกรรมติดตามและเชียร์นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ซึ่งมีผู้ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

ภายหลังทราบผลว่านายพิธาไม่ได้รับเลือกเป็นนายกฯ กลุ่มได้นัดรวมทำกิจกรรมล่ารายชื่อ ส.ส. และ ส.ว.ที่โหวตสวนมติประชาชน ที่ข่วงท่าแพ ซึ่งมีผู้ร่วมชุมนุมกว่า 100 คน พร้อมกันนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมกิจกรรมเขียนข้อความระบายความรู้สึกบนป้ายผ้า ก่อนนำไปเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง ส.ส. และ ส.ว.ที่ไม่สนับสนุน หรืองดออกเสียง ท่ามกลางเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยกว่า 20 นาย พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และการข่าวกว่า 10 หน่วยงานที่สังเกตการณ์ และรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ซึ่งการชุมนุมดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุรุนแรง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ศ.ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง ศาสตราจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว เปิดเผยกับ “มติชน” ว่า ผลการโหวตครั้งแรกเป็นไปตามคาดหมาย โดยเฉพาะ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้ง ไม่ได้ให้ความสำคัญกับประชาชน แสดงความรู้สึกส่วนตัว ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล โดยยึดติดกับการแก้ไข ม.112 โดยไม่ฟังเสียงการชี้แจงนายพิธาและพรรค ก.ก.ว่าเป็นการปฏิรูป และไม่ใช้สถาบันเป็นเครื่องมือโจมตี กลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม ไม่ใช่การล้มล้างสถาบันตามข้อกล่าวหาแต่อย่างใด

ศ.ดร.ธเนศวร์กล่าวว่า มี ส.ว.กว่า 40 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้นำทางทหารและข้าราชการระดับสูงไม่ร่วมประชุมดังกล่าว โดยอ้างว่าติดภารกิจสำคัญ สะท้อนว่าไม่ยอม หรือเลี่ยงปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว แต่รับค่าตอบแทนที่เป็นภาษีประชาชน จึงมองว่าทำงานไม่คุ้มค่ากับภาษีประชาชนอย่างใด กรณี ส.ว.งดออกเสียง มองว่าไม่ได้เป็นกลางทางการเมือง แต่ถูกแทรกแซง หรือถูกข่มขู่จากผู้ที่มีอำนาจสูงกว่า อาจเสนอผลตอบแทน หรือแจกกล้วย เนื่องจากมี ส.ว.ลาออกก่อนโหวตนายพิธาเพียงวันเดียว ประกอบกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งเรื่องการขาดคุณสมบัตินายพิธา กรณีเป็นผู้จัดการมรดก ถือหุ้น itv 42,000 หุ้น ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จนส่งผลให้ ส.ว.งดออกเสียงดังกล่าวได้

ศ.ดร.ธเนศวร์กล่าวต่อว่า แนวโน้มการโหวตนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 มองว่ามีโอกาส 50:50 ขึ้นอยู่กับนายพิธาและ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทำความเข้าใจเรื่องสถาบันได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อหาเสียงสนับสนุนมากขึ้น ส่วนผู้คัดค้านและไม่เห็นด้วยอาจทุ่มเทสกัดกั้นนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีตามแผนของกลุ่มอนุรักษนิยม หรือผูกขาดความจงรักภักดีต่อไป เพราะมีหลังให้พักพิงอยู่ตลอดเวลา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ศ.ดร.ธเนศวร์กล่าวถึงประด็นที่มีผู้เสนอให้นายพิธาและพรรค ก.ก.ถอยและลดเงื่อนไข ม.112 มองว่า เรื่องดังกล่าวเป็นนโยบายหาเสียงพรรค ก.ก.มานานแล้ว จนทำให้ประชาชนสนับสนุนและเลือกพรรคดังกล่าวเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ถ้าถอยเรื่องดังกล่าวอาจถูกประชาชนต่อต้านและไม่สนับสนุนพรรค ก.ก.อีก ดังนั้น นายพิธาและพรรค ก.ก.ต้องแสดงจุดยืนดังกล่าวอย่างหนักแน่น ถือเป็นจุดแข็ง และเป็นจุดขายของพรรค เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยและผลประโยชน์ประชาชนเป็นสำคัญ ไม่อ่อนข้อกับกลุ่มอนุรักษนิยม หรือผลประโยชน์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น

“ส่วนข้อเสนอให้ปิดสวิตช์ ส.ว. 250 คน โดยเสนอสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ไม่ให้ ส.ว.มีสิทธิโหวตนายกรัฐมนตรีอีก อาจใช้เวลาหลายเดือน ทำให้การเมืองเป็นสุญญากาศ ส่งผลกระทบต่อการค้า การลงทุน ท่องเที่ยวของต่างชาติได้ ดังนั้น ต้องมีนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลใหม่ก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นในเวทีโลกด้วย” ศ.ดร.ธเนศวร์ระบุ

ศ.ดร.ธเนศวร์กล่าวอีกว่า สุดท้ายเรื่องดังกล่าวประชาชนได้รับรู้ว่า ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้ง ยึดความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ฟังเสียงใคร ยึดติดกับอำนาจและผลประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น ถ้านายพิธาไม่ผ่านการโหวตเป็นนายกฯ 3 ครั้ง อาจถึงเวลาให้ พรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งเป็นพรรคอันดับ 2 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเสนอชื่อนายกฯใหม่แทนพรรค ก.ก.ตามวิถีทางประชาธิปไตยต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ