กีฬา

ทำความรู้จัก รูเบน อโมริม เฮดโค้ชคนใหม่ แมนฯ ยูไนเต็ด

Khaosod
อัพเดต 01 พ.ย. เวลา 13.36 น. • เผยแพร่ 01 พ.ย. เวลา 13.23 น.

เรียกได้ว่าเป็นดีลที่ฉับไวหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังของศึกพรีเมียร์ลีกประกาศแต่งตั้ง รูเบน อโมริม เฮดโค้ชวัย 39 ปีเข้ามาทำหน้าที่เป็นเฮดโค้ชคนใหม่ด้วยการยอมจ่ายค่าฉีกสัญญาจำนวน 11 ล้านยูโร (ราว 405.3 ล้านบาท) ให้กับ สปอร์ติง ลิสบอน โดยจะเซ็นสัญญาถึงปี 2027 ออปชั่นขยายสัญญาออกไปอีก 1 ปี

ย้อนไปเมื่อวันที่ 28 ต.ค. แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจปลด อีริก เทน ฮาก พ้นตำแหน่งกุนซือหลังเจ้าตัวพาทีมทำผลงานได้น่าผิดหวังในฤดูกาลนี้ด้วยการร่วงไปอยู่อันดับ 14 ของตารางพรีเมียร์ลีกจากการมีเพียง 11 คะแนนจาก 9 นัด

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

และในวันเดียวกันบรรดาสื่อดังต่างรายงานตรงกันว่า "ปีศาจแดง" ได้เดินหน้าติดต่อเพื่อดึงตัว รูเบน อโมริม มาทำหน้าที่ผู้จัดการทีมคนใหม่ทันที และการเจรจาก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่สุดท้ายเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ก็มีการประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ โดยจะเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.เป็นต้นไป

ทำให้วันนี้ทาง "ข่าวสดกีฬา" จะพามาทำความรู้จักกับนายใหญ่คนใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด รายนี้กันให้มากขึ้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

Soccer Football - Taca da Liga - Sporting CP v Nacional - Estadio Jose Alvalade, Lisbon, Portugal - October 29, 2024 Sporting CP coach Ruben Amorim reacts REUTERS/Pedro Nunes

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อดีตกองกลางสู่กุนซือ

ก่อนที่ อโมริม จะมาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมนั้นเจ้าตัวเคยเป็นนักเตะอาชีพมาก่อนโดยเล่นในตำแหน่งกองกลาง และเจ้าตัวเคยค้าแข้งกับหลายทีมดังอย่าง เบนฟิกา และบรากา โดยเฉพาะกับ เบนฟิกา ซึ่งเจ้าตัวลงเล่นระหว่างปี 2008–2017 และลงสนามไปทั้งหมด 154 นัดทุกรายการ นอกจากนั้นแล้วยังเคยติดทีมชาติโปรตุเกส 14 นัดทุกรายการด้วย

หลังจากรีไทร์ อโมริม ก็เดินหน้าเข้าสู่เส้นทางของอาชีพโค้ชทันทีกับ คาซา เปีย และบรากา ชุดบี ก่อนที่จะได้รับโอกาสคุมทีมชุดใหญ่ในปี 2019 และด้วยผลงานอันโดดเด่นทำให้ในปี 2020 เจ้าตัวก็ได้รับโอกาสที่ถือว่าเป็นก้าวสำคัญในอาชีพนั่นก็คือการคุมทัพ สปอร์ติง ลิสบอน หนึ่งในสโมสรมหาอำนาจของโปรตุเกส

Soccer Football - Champions League - SK Sturm Graz v Sporting CP - Worthersee Stadion, Klagenfurt, Austria - October 22, 2024 Sporting CP coach Ruben Amorim before the match REUTERS/Borut Zivulovic

พาลิสบอนสู่ความยิ่งใหญ่

หลังจากใช้เวลาคุมทีมเพียง 2 ซีซั่น อโมริม ก็พาทีมขึ้นไปสู่ทีมลุ้นแชมป์ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส ได้ทันที พร้อมกับมีการปลุกปั้นผู้เล่นหลายรายไปในตัวทั้ง เปโดร ปอร์โร, ชูเอา มาริโอ และชูเอา ปาลินญา เป็นต้น

จนในเดือน พ.ค. 2021 สปอร์ติง ที่ทำสถิติไม่แพ้ใคร 32 นัดก็เอาชนะ เบาวิสตา 1-0 ส่งผลให้พวกเขาผงาดคว้าแชมป์ ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส ซีซั่น 2020–21 ไปครอง พร้อมเป็นแชมป์ลีกหนแรกในรอบ 19 ปีของสโมสรด้วย

ก่อนที่ในฤดูกาล 2023-24 อโมริม ก็มีส่วนสำคัญในการพา สปอร์ติง คว้าแชมป์ลีกมาครองได้อีกสมัยโดยมีขุมกำลังอย่าง วิกตอร์ กีโยเคเรส, กอนซาโล อิกนาซิโอ และฟรานเชสโก ตรินเกา นำทัพ

นอกจากแชมป์ลีก 2 สมัยแล้ว เฮดโค้ชวัย 39 ปีรายนี้ยังช่วย ลิสบอน ซิวแชมป์ลีก คัพของโปรตุเกสอีก 2 สมัยด้วยในซีซั่น 2020–21 และ2021–22

เฮดโค้ชเนื้อหอม

จากผลงานที่เกิดขึ้นทำให้ อโมริม กลายเป็นหนึ่งในกุนซือที่เนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งของยุโรปเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยทีมที่ตกเป็นข่าวกับเจ้าตัวมากที่สุดคือ ลิเวอร์พูล สโมสรดังของศึกพรีเมียร์ลีกที่กำลังหาตัวแทนเพื่อไปคุมทัพต่อจาก เจอร์เกน คล็อปป์ ที่ลาออกจากตำแหน่ง

ก่อนหน้านี้ อโมริม เคยแย้มว่าเจ้าตัวมีความฝันจะคุมสโมสรในพรีเมียร์ลีก และต้องการย้ายออกจาก ลิสบอน เพื่อหาประสบการณ์ใหม่ๆ

ตามรายงานระบุว่าทั้ง ลิเวอร์พูล และอโมริม ต่างบรรลุข้อตกลงกันได้แล้วในบางส่วนทว่าสุดท้ายดีงดังกล่าวต้องล่มลงไป และ"หงส์แดง" ก็ไปดึง อาร์เนอ ชล็อต เฮดโค้ชจาก เฟเยนูร์ด มาแทน

ต่อมาไม่นานเทรนเนอร์วัย 39 ปีรายนี้มีข่าวกับอีกทีมของพรีเมียร์ลีกอย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งกำลังหากุนซือคนใหม่แทน เดวิด มอยส์ และมีการเดินทางไปที่อังกฤษเพื่อทำให้ดีลเสร็จสิ้น ทว่าสุดท้ายก็ไม่สำเร็จอีกสโมสร จนสุดท้ายเขาต้องอยู่กับ สปอร์ติง ต่อไปในฤดูกาลนี้

Sporting's head coach Ruben Amorim, who Manchester United has expressed an interest in hiring, walks to the bench during a Portuguese League Cup soccer match between Sporting CP and Nacional at the Alvalade stadium in Lisbon, Tuesday, Oct. 29, 2024. (AP Photo/Ana Brigida)

สไตล์การทำทีม

ถึงแม้ว่า อโมริม จะมีไอดอลคือ โชเซ มูรินโญ อดีตกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงขนาดว่าเจ้าตัวเคยขอมาฝึกงานกับ "เดอะ สเปเชียล วัน" สมัยที่คุมทัพ "ปีศาจแดง" ในปี 2018 และทั้งคู่ก็มีความสนิมสนมกัน

อย่างไรก็ตามสไตล์การทำทีมของเฮดโค้ชวัย 39 ปี และมูรินโญ กลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดย อโมริม นิยมใช้แผนการเล่น 3-4-3 โดยกองหลัง 3 คนจะตั้งแนวรับต่ำ และมีวิงแบ๊ก 2 แข้งเป็นตัวรุกที่ดันขึ้นสูงในสนาม และเมื่อไม่มีบอลพวกเขาจะบีบพื้นที่อย่างหนัก และโต้กลับอย่างรวดเร็วเมื่อครองบอล

"กิลเลียม บาเลเก" กูรูฟุตบอลชื่อดังกล่าวถึงสไตล์การทำทีมของ อโมริม ว่า “อโมริม ยอมรับว่าเขายังคงเพิ่มพูนความรู้ให้กับวิธีการของเขา แต่เขายังคงเชื่อว่าฟุตบอลจะสมเหตุสมผลได้ก็ต่อเมื่อผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นกับมัน นอกเหนือจากบทเรียนเหล่านั้นจาก จอร์จ เฆซุส อดีตโค้ชของเขาแล้ว อโมริม ยังมองอย่างใกล้ชิดถึงผู้ที่แสดงให้เห็นคุณสมบัติพิเศษในฐานะผู้นำ ซึ่งรวมถึง มูรินโญ ด้วย"

อย่างไรก็ตาม เขาเป็นคนที่หลงใหลในฟุตบอลที่น่าตื่นตาตื่นใจ เต็มไปด้วยการทำประตู การครองเกม และการควบคุมเกม เขาทำให้คนดูพอใจ หลังจากฝึกซ้อม และประชุม เขาชอบใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงในออฟฟิศที่บ้านเพื่อดูเกม อ่านเกี่ยวกับฟุตบอลและผู้จัดการทีม จัดระเบียบการประชุมทางซูมกับผู้คนที่เขาสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้

โดย บรูโน แฟร์นานเดส กัปตันทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เคยระบุว่าชื่นชอบสไตล์การทำทีมของ อโมริม "เห็นได้ชัดว่า เขามีคุณสมบัติที่จะประสบความสำเร็จในอังกฤษ และในความคิดของผม เขาก็มีทุกอย่างที่จะก้าวต่อไปได้"

และนับตั้งแต่ที่ อโมริม เข้ามาคุม สปอร์ติง เจ้าตัวก็พาทีมมีเปอร์เซนต์ชนะมากที่สุดในบรรดาสโมสรใน 10 ลีกชั้นนำของยุโรปด้วยจำนวนถึง 77% หรือชนะ 120 นัดจากการลงสนาม 156 นัดเลยทีเดียว

แม้เจ้าตัวจะพิสูจน์ตัวเองในลีกโปรตุเกสมาพอสมควรแล้ว แต่แน่นอนว่าการที่ย้ายมาพรีเมียร์ลีกซึ่งถูกยกว่าเป็นลีกที่แข็งแกร่งสุดของโลกขณะนี้ รวมถึงการต้องมาคุม แมนฯ ยูไนเต็ด หนึ่งในสโมสรที่มีแฟนบอลมากที่สุดต้องเกิดความกดดัน ทำให้ต้องมาติดตามว่าเจ้าตัวจะทำได้ดีเพียงใด

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ทำความรู้จัก รูเบน อโมริม เฮดโค้ชคนใหม่ แมนฯ ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • Suradej
    Out law
    02 พ.ย. เวลา 05.12 น.
ดูทั้งหมด