ทั่วไป

มีข้อไหนจาบจ้วง? 'ธนาธร'ชักธงถือหางม็อบนักศึกษา ลั่น10ข้อเรียกร้องคือ'ความจริง'

แนวหน้า
เผยแพร่ 14 ส.ค. 2563 เวลา 08.38 น.

มีข้อไหนจวบจ้วง? "ธนาธร"ยันจุดยืนอยู่เคียงข้างนักศึกษา ชี้10ข้อเรียกร้องคือความจริงที่กระอักกระอ่วน ลั่น!สังคมควรเปิดเผยตรงไปตรงมา

เมื่อเวลา 13.45 น.วันที่ 14 สิงหาคม 2563 ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนต่อการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มนิสิตนักศึกษาในวันที่ 16 สิงหาคม นี้ ว่า ยืนยันว่า การชุมนุมเป็นการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพที่ได้รับคุ้มครองตามกฏหมาย ขอเรียนกลุ่มคนที่ต้องการสร้างความเกลียดชังในสังคม และต้องการจับกุมปราบปรามนักศึกษาอย่างเด็ดขาดว่า นั่นไม่ใช่วิธีการแก้ไข และไม่ใช่ทางออก แต่เป็นการราดน้ำมันลงในกองไฟลุกโชน พวกเราเชื่อว่า สิ่งที่จะเป็นทางออกให้สังคมได้จริงๆ คือ การรับฟังสิ่งที่นักศึกษาพูดอย่างสติและมีเหตุผล แม้สิ่งที่นักศึกษาพูด อาจจะเป็นความจริงที่กระอัดกระอ่วน แต่นี่คือความท้าทายของสังคมไทยว่า มีวุฒิภาวะและมีความเป็นผู้ใหญ่พอหรือไม่ที่จะรับฟังความจริงเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมื่อถามว่า นักศึกษาออกมาเรียกร้องให้แสดงจุดยืนว่า อยู่ข้างไหน นายธนาธร กล่าวว่า เรายืนอยู่ข้างนักศึกษาในการต่อสู้เพื่อให้บรรลุข้อเรียกร้อง 3 ข้อหลัก 1.หยุดคุกคามประชาชน 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 3.ยุบสภา ซึ่งตนคิดว่า สิ่งที่เราต้องทำในวันนี้คือการมองสิ่งที่เขาเรียกร้องด้วยความหวังดี การไม่ฟังนักศึกษาไม่เปิดโอกาสให้สังคมมองเห็นทางออกจากความขัดแย้งเพื่อนำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างไรต่างหากที่จะทำบ้านเมืองไปสู่วิกฤตและทางตัน ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจว่า พร้อมที่จะรับฟังและประนีประนอมแค่ไหน หากไม่ประนีประนอม ไม่รับฟังนักศึกษาเลย สังคมก็จะไม่มีทางออก

เมื่อถามถึง ข้อเรียกร้องของนักศึกษาเลยเถิดไปถึงสถาบัน นายธนาธร กล่าวว่า ต้องยอมรับข้อเรียกร้อง 10 ข้อ อาจทำให้กลุ่มคนบางกลุ่มไม่สบายใจ แต่ในขณะเดียวกันต้องยอมรับข้อเท็จจริงด้วยเหมือนกันว่า นี่คือความจริงที่กระอัดกระอ่วน ทุกคนตระหนักรู้อยู่แล้ว แต่ไม่มีใครออกมาพูดเรื่องนี้ในที่สาธารณะ พวกเขาเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่เอาเรื่องนี้มาพูดในที่สาธารณะ นับว่าเป็นกลุ่มคนที่มีความกล้าหาญมาก หากตัดเรื่องท่าทีในการนำเสนอออกไป โดยมองเนื้อหาที่เขานำเสนอ คำถามสั้นๆ คือ เราพร้อมหรือเปล่าที่จะพูดคุยเรื่องเหล่านี้ด้วยเหตุผล ด้วยสติ เราเป็นผู้ใหญ่และมีวุฒิภาวะพอหรือเปล่า

เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองอย่างไรกับข้อเรียกร้อง 10 ข้อ นายธนาธร กล่าวว่า "นี่สิทธิขั่นพื้นฐานของประชาธิปไตย สังคมควรจะนำเรื่องนี้มาคุยกันอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา"

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมื่อถามต่อว่า ส่วนที่มีกลุ่มคนบางส่วนรับไม่ได้กับ 10 ข้อเรียกร้อง เพราะมองว่า เป็นการจาบจ้วงสถาบันนั้น นายธนาธร ตอบว่า "มีข้อไหนจวบจ้วง" ผู้สื่อข่าวตอบว่า หมายถึงการแสดงออกของนักศึกษา นายธนาธร กล่าวตอบว่า "ขอให้แยกระหว่างเรื่องเนื้อหาข้อเรียกร้องกับท่าที เพราะท่าทีอาจทำให้คนบางกลุ่มไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่ใจความหลักจริงๆ คือเนื้อหา"

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์โดยมีเนื้อหาไม่ต้องเห็นความแตกแยกในสังคม นายธนาธร กล่าวว่า สิ่งที่สังคมไทยต้องการตอนนี้ถือการเปิดใจรับฟังกัน สังคมจะเดินไปสู่การหาทางออกด้วยสันติได้อย่างไร ถ้าในเมื่อเดิม พล.อ.ประยุทธ์ ให้ฟังนักศึกษา ให้ตั้ง กมธ.รับฟังข้อเสนอข้อเรียกร้องของนักศึกษา แต่ในเวลาเดียวกับกลับไปดำเนินการจับกุมคุกคาม นี่แสดงให้เห็นว่า ไม่มีความจริงใจรับฟังนักศึกษาส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ให้กลับมาสนใจเรื่องเศรษฐกิจปากท้องนั้น ตนคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในตำแหน่งนายกฯ มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดด้วยมาตรา 44 มา 5 ปีก่อนการเลือกตั้ง และอยู่ในตำแหน่งโดยที่มีอำนาจในการบริหารมาอีก 1 ปีกว่าๆ หลังการเลือกตั้ง ถ้ามันจะสำเร็จทำให้เศรษฐกิจไทยไปข้างหน้าได้ รับมือกับโควิดและปัญหาเศรษฐกิจ มันคงสำเร็จไปตั้งนานแล้ว

นายธนาธร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่า สถานการณ์ขณะนี้ท้าทายอย่างมาก อยากจะขอสื่อมวลชนว่า วิธีการที่จะหลีกเลี่ยงความรุนแรงหรือพาสังคมไปสู่ทางตันได้นั้น พี่น้องสื่อมวลชน ถือว่า สำคัญมากในการเปิดพื้นที่ให้สิ่งที่นักศึกษาพูด ต้องทำให้มันเป็นเรื่องปกติในสังคมที่พูดคุยกันด้วยเหตุผล ส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยไม่เป็นไร แต่จะทำให้เรากลับมาพูดคุยกันด้วยเหตุผล ด้วยสติ อย่าให้กลุ่มคนที่กระเหี้ยนกระหือต้องการให้การกำราบปราบปรามกลายเป็นเสียงที่ดังในสังคมได้ ดังนั้น สื่อต้องเปิดพื้นที่ให้มากที่สุดเพื่อให้เสียงกระเหี้ยนกระหือปราบปรามนักศึกษาเบาลงได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะซ้ำรอยเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 นายธนาธร กล่าวว่า ต้องถามผู้นำกองทัพว่า จะนำไปสู่เหตุการณ์นั้นหรือไม่ สิ่งที่เราเห็นขณะนี้คือการยุยงปลุกปั่นของกลุ่มคนบางกลุ่มให้เกลียดชังกัน เราจะหยุดยั้งสิ่งต่างๆ เหล่านั้นได้ด้วยการนำเรื่องนี้ให้อยู่บนโต๊ะคุยกันด้วยเหตุผลและสติ การปราบปรามแก้ปัญหาไม่ได้ ประวัติศาสตร์พิสูจน์ว่า การไม่เผชิญหน้ากับความจริงแก้ปัญหาไม่ได้ เราต้องการผู้ใหญ่ในสังคมที่มีวุฒิภาวะ ทั้งสื่อ นักวิชาการ สหภาพแรงงาน และกลุ่มคนทั้งสังคม ออกมาพูดเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาในที่สาธารณะมากขึ้น จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 335
  • SAYOM
    คิดว่าใช่ก็ขึ้นเวทีเลยมิง อย่าซุกอยู่ในช่องคลอด นศ
    14 ส.ค. 2563 เวลา 09.06 น.
  • จัมโบ้ A
    เอาเลยทอนเปิดหน้าออกมาอย่ามั่วแลบลิ้นอยู่เลย
    14 ส.ค. 2563 เวลา 09.06 น.
  • suvit
    ความจริงคือ คนไม่รู้คุณคน
    14 ส.ค. 2563 เวลา 09.06 น.
  • Pao Piya
    เชิญไปตายเมืองนอกนะครับ รีบๆหอบสมบัติ​ไปนะ
    14 ส.ค. 2563 เวลา 09.04 น.
  • chumporn
    คนหรือควายมันคงอ่านภาษาไทยไม่ออกมั่ง
    14 ส.ค. 2563 เวลา 09.06 น.
ดูทั้งหมด