ไอที ธุรกิจ

‘พิพัฒน์’ ผนึกกำลัง ‘ททท.’-‘สศค.’ บวก ‘กรุงไทย’ เปิดตัว ‘เที่ยวปันสุข’ อย่างเป็นทางการ

MATICHON ONLINE
อัพเดต 03 ก.ค. 2563 เวลา 15.14 น. • เผยแพร่ 03 ก.ค. 2563 เวลา 13.45 น.

‘พิพัฒน์’ ผนึกกำลัง ‘ททท.’ – ‘สศค.’ บวก ‘กรุงไทย’ เปิดตัว ‘เที่ยวปันสุข’ อย่างเป็นทางการ

วันที่ 3 กรกฎาคม 2563 ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้แถลงข่าวมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว “เที่ยวปันสุข” ประกอบด้วยแพคเกจเราเที่ยวด้วยกัน และกำลังใจ โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการ พร้อมด้วยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง (สศค.) และนายพยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว ในโครงการ “เที่ยวปันสุข” ประกอบด้วย แพคเกจเราเที่ยวด้วยกัน ใช้กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท และแพคเกจกำลังใจ กรอบวงเงิน 2,400 ล้านบาท รวม 22,400 ล้านบาท ระยะเวลาเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม 2563 โดยรายละเอียดของแพคเกจเราเที่ยวด้วยกัน รัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายโรงแรมและที่พักให้ 40% ประชาชนจ่ายเอง 60% แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน จำวน 5,000,000 ห้องต่อคืน ในการเข้าพักในโรงแรมที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม และโฮมสเตย์ที่ได้ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเท่านั้น รวมถึงรับอีวอชเชอร์ หรือบัตรกำนัลดิจิตอล อีกคืนละ 600 บาท รวมทั้งการจองตั๋วเครื่องบินจำนวน 2,000,000 ใบ เมื่อนักท่องเที่ยวชำระค่าบัตรโดยสารแล้ว รัฐบาลจะคืนเงินให้กลับไป 40% แต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง โดยผู้จองจะต้องดำเนินการจองและชำระค่าบัตรโดยสารเครื่องบินเต็มจำนวนผ่านทางเว็บไซต์ของสายการบิน ส่วนรัฐบาลจะจ่ายเงินคืนเข้าสู่แอปพลิเคชั่นเป๋าตังของผู้จองที่พัก ภายหลังการเช็คเอาท์ ผู้จองสามารถนำไปใช้จ่ายหรือถอนเงินสดได้โดยไม่มีการกำหนดระยะเวลา โดยขณะนี้ผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ส่วนประชาชนทั่วไปจะเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2563

นายพิพัฒน์กล่าวว่า สำหรับแพคเกจกำลังใจ เพื่อขอบคุณอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้เที่ยวในประเทศ 2 วัน 1 คืน คนละไม่เกิน 2,000 บาท โดยจะเปิดให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เที่ยวปันสุข.ไทย ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 ส่วน อสม.,อสส., และ รพ.สต. สามารถเข้าไปลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ภายในวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 และเดินทางท่องเที่ยวได้ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2563

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า แพคเกจในมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เชื่อว่าจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนทางตรงให้กับผู้ประกอบการกว่า 50,000 ล้านบาท ทางอ้อมต่อระบบเศรษฐกิจ 26,000 ล้านบาท สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจรวมกว่า 7 แสนล้านบาท โดยจะทำให้รายได้รวมในภาคการท่องเที่ยวไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.23 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการเดินทางในประเทศของตลาดไทยเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านคน-ครั้ง จากเดิมที่ตั้งไว้ 80-100 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ประมาณ 5 แสนล้านบาท

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า แพคเกจท่องเที่ยวสามารถใช้ได้ทั้งโรงแรม ที่พัก ร้านอาหารในและนอกโรงแรม รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยธนาคารกรุงเทพไทย จะนำป้ายคิวอาร์โค้ดไปติดตั้งตามสถานที่ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ อีกครั้ง โดยเน้นย้ำว่าการลงทะเบียนรับสิทธิ์จองโรงแรมที่พัก สายการบิน สามารถลงทะเบียนได้แบบไม่มีกำหนดตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ของทุกวัน แต่ห้องพักจำนวน 5 ล้านห้องต่อคืน จะถูกหักออกจากระบบว่ามีการใช้สิทธิ์แล้วก็ต่อเมื่อมีการจองและจ่ายค่าห้องพักดังกล่าว ทำให้แม้จะมีการจองห้องพักเกินจำนวนที่ระบุไว้ แต่หากยังไม่มีการชำระค่าห้อง ก็ถือว่าจำนวนห้องพักยังอยู่ ส่วนตั๋วเครื่องบินจำนวน 2 ล้านใบ จะถูกตัดสิทธิ์ต่อเมื่อมีประชาชนเดินทางท่องเที่ยว แล้วนำหมายเลขบนตั๋วไปแลกรับเงินคืนบนเว็บไซต์ของสายการบิน ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งการจองเดินทางแบบไปและกลับ หรือการจองเที่ยวเดี่ยวไปหรือกลับก็ได้ เน้นย้ำว่า หากเดินทางก่อน ก็จะสามารถนำมาแลกรับเงินคืนได้ก่อนสิทธิ์หมด โดยจำนวนยอดการใช้สิทธิ์จองห้องพักและตั๋วเครื่องบินจะแสดงอยู่บนเว็บไซต์ที่ลงทะเบียนแบบเรียลไทม์

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“สำหรับภาพรวมหลังคลายล็อกดาวน์เฟส 5 การเดินทางท่องเที่ยวเริ่มดูดีขึ้น แม้จะมีปัญหาในส่วนของสถานบันเทิง หรือสถานบริการต่างๆ ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดบ้าง แต่คิดว่าไม่ได้มีความน่ากังวลอะไร โดยสิ่งสำคัญเป็นเรื่องขั้นตอนการอนุญาตให้ต่างชาติ 11 กลุ่ม เดินทางเข้าประเทศมากกว่า แต่การประเมินให้ต่างชาติเข้ามาจะต้องคัดเลือกในประเทศที่มีความสามารถในการควบคุมโควิด-19 ไม่ต่างจากไทย เบื้องต้นมองในประเทศระยะใกล้เป็นอันดับแรก อาทิ เอเชียตะวันออก ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอาเซียน โดยนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาต้องทำประกันการเดินทางเมื่อเข้ามาถึงประเทศไทยด้วย โดยมีวงเงินในการจ่ายชดเชยไม่เกิน 100,000 เหรียญสหรัฐ ราคาประมาณ 1,000 บาท” นายยุทธศักดิ์กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ