บ๊ะจ่างเครื่องแน่น ทำกินทำขายง่ายๆ ไม่ต้องห่อใบไผ่ให้ยุ่งยาก รับประกัน อร่อยไม่แพ้สูตรโบราณ
ศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแห่งชาติ NAETC จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแห่งชาติ และสำนักส่งเสริมและฝึกอบรม กำแพงแสน ด้วยกิจกรรมอบรมออนไลน์ดีๆ ที่สามารถนำไปต่อยอดสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ ด้วยการทำ บ๊ะจ่างเครื่องแน่น สูตรทำขายง่ายๆ ไม่ต้องห่อใบไผ่ให้ยุ่งยาก จาก คุณพาณี สวาสดิ์ โดยวัตถุดิบ ขั้นตอนและวิธีการทำ มีดังนี้
ส่วนผสม
- ข้าวเหนียวเขี้ยวงู (ข้าวเหนียวเก่ายิ่งดี) นำไปล้างน้ำแล้วนึ่งให้สุก เพื่อให้พร้อมในการนำมาผัด
- แปะก๊วยต้มสุก
- ถั่วลิสง นำไปแช่น้ำและต้มให้เปื่อย
- พุทราจีนเชื่อม
- กุ้งแห้งตัวใหญ่
- เห็ดหอม (แช่น้ำจนพอง บีบเอาน้ำออก แล้วผ่าครึ่ง)
- หมูเนื้อแดง (สันคอ สันนอก สันใน สามารถนำมาใช้ทำได้หมด)
- ไข่เค็ม เอาเฉพาะไข่แดง
- กุนเชียง
- พริกไทย (ไว้ปรุงรส)
- กระเทียมปอกเปลือกสับหยาบ
- ซีอิ๊วฝาเขียว
- น้ำมันหอย
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลทรายแดง
- เกลือ
- ไชโป๊ฝอย
- ถ้วยฟอยล์ วงกลมหรือสี่เหลี่ยม
- ใบไผ่ (ให้นำไปแช่น้ำให้ท่วมสัก 3 คืน หลังจากนั้นนำมาต้ม ก่อนนำมาทำ จะช่วยให้ใบไผ่มีกลิ่นหอม ลื่น และไม่มีขน)
วิธีการทำ
1. นำหมูเนื้อแดงมาหมักกับพริกไทย 1/2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วฝาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือเพียงเล็กน้อย หมักให้เข้าเนื้อ ทิ้งไว้ในตู้เย็น 3 ชั่วโมง หรือหมักทิ้งข้ามคืน
2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปพอประมาณ เพื่อนำเห็ดหอมมาทอด เมื่อน้ำมันเริ่มร้อน ให้ปรับเป็นไฟกลาง นำเห็ดหอมลงไปทอด ให้มีกลิ่นหอมและมีสีออกเหลืองนิดๆ กลับไปกลับมาให้สุกเหลืองจนทั่ว ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
3. น้ำมันในกระทะที่เหลืออย่าเพิ่งทิ้ง ให้นำกุนเชียงมาทอดต่อให้พอสุก หรือจะนำไปเข้าเตาอบให้สุกก็ได้เช่นกัน เมื่อเริ่มสุกให้ตักออก พักน้ำมัน
4. เทน้ำมันที่เหลือออกให้เหลือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นใส่กระเทียมลงไปเจียวให้หอม โดยใช้ไฟกลาง
5. เมื่อกระเทียมเริ่มเหลือง ให้นำเห็ดหอม ตามด้วยหัวไชโป๊ฝอย มาผัดด้วยกันให้สุก แล้วจึงปรุงรสด้วย น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ และ พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
6. เมื่อผัดจนส่วนผสมเข้ากันและเริ่มส่งกลิ่นหอม ให้นำกุ้งแห้ง กุนเชียง ลงไปผัดเข้าด้วยกัน เพื่อให้วัตถุดิบที่จะทำไส้ของบ๊ะจ่าง มีรสชาติที่เข้มข้น อร่อย ละมุนลิ้น
7. เมื่อวัตถุดิบทุกอย่างสุกได้ที่แล้ว ให้แบ่งเห็ดหอมกับกุ้งแห้งออกมาครึ่งหนึ่ง เพื่อนำมาแต่งหน้าบ๊ะจ่าง จากนั้นนำหมูที่หมักไว้ มาผัดรวมกับเครื่องอีกครึ่งที่เหลือ โดยเติมน้ำลงไปเล็กน้อย ให้พอมีความชื้น เวลาผัดจะได้ไม่ติดกระทะ
8. เมื่อหมูสุก ให้ใส่ถั่วต้ม แปะก๊วย ลงไปผัดต่อจนสุก แบ่งหมูออกมาเล็กน้อย เพื่อนำไปแต่งหน้าบ๊ะจ่าง จากนั้นนำข้าวเหนียวเขี้ยวงูที่หุงไว้แล้ว ลงมาผัด โดยค่อยๆ บี้ข้าวด้วยไฟอ่อน เมื่อส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ให้เร่งไฟเป็นไฟกลาง แล้วผัดให้สุกจึงค่อยปิดไฟ ตักขึ้นมาพักให้คลายร้อน
9. นำใบไผ่ที่ล้างสะอาดจนไม่มีขน ตัดแกนกลางออก แล้วนำมาพาดที่ถ้วยฟอยล์ เพื่อวัดขนาดในการตัดใบไผ่ ใส่เป็นฐานโดยให้วางไขว้กัน เพื่อให้บ๊ะจ่างมีกลิ่นและรสชาติของใบไผ่นั่นเอง
10. นำไส้บ๊ะจ่างที่ผัดไว้เรียบร้อยแล้วมาอัดใส่ถ้วย โดยตักทีละน้อย กดอัดฐานให้แน่น แล้วใส่ถั่วและแปะก๊วย หรือเม็ดบัว เกาลัด เผือกกวน ใส่ลงไปเป็นส่วนผสมตรงกลาง แล้วนำข้าวเหนียวที่ผัดอัดปิดลงไปให้เต็ม แล้วแต่งหน้าบ๊ะจ่างด้วย พุทราจีน กุนเชียง หมู กุ้งแห้ง เห็ดหอม และแปะก๊วย ที่แยกเอาไว้ ปิดท้ายด้วยไข่เค็มผ่าครึ่งแต่งไว้ตรงกลาง
11. เมื่อแต่งหน้าเสร็จแล้วให้นำลงไปในหม้อนึ่งที่น้ำเดือดไฟแรง ปิดฝาแล้วนึ่งไว้ 15 นาที เมื่อสุกแล้วนำออกจากหม้อนึ่ง พร้อมทานพร้อมขาย
ดูคลิปวิธีทำได้ ที่นี่
sawat ไม่ห่อใบไผ่
มันจะไม่หอมนะนา
เชื่อผมดิ
18 ธ.ค. 2564 เวลา 08.45 น.
So เสน่ห์บ๊ะจ่างอยู่ที่ใบใผ่
18 ธ.ค. 2564 เวลา 08.56 น.
Kanya เอาง่ายเข้าว่ามันก็จะไม่ได้อรรถรสของรูปแบบบ๊ะจ่างที่อร่อยอย่างแท้จริง
20 ธ.ค. 2564 เวลา 06.48 น.
ดูทั้งหมด