เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการเทคโนโลยีอวกาศ เมื่อเอริค ชมิดท์ (Eric Schmidt) อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบริษัท กูเกิล (Google) ได้เข้าดำรงตำแหน่งซีอีโอ (CEO) ของบริษัท Relativity Space สตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีจรวดที่มีอายุเพียง 9 ปีเท่านั้น
การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการกลับคืนสู่ตำแหน่งซีอีโอ (CEO) ครั้งแรกในรอบเกือบ 15 ปีของเอริค ชมิดท์ (Eric Schmidt) นับตั้งแต่เขาลาออกจากกูเกิล (Google)
Relativity Space คือบริษัทอะไร? และมีชื่อเสียงด้านไหน?
รีแลทิวิตี้ สเปซ (Relativity Space) เป็นที่รู้จักจากการใช้เทคโนโลยีการผลิตจรวดที่ทันสมัย รวมถึงเครื่องพิมพ์ 3 มิติ หุ่นยนต์อัตโนมัติ และปัญญาประดิษฐ์ AI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่อาจปฏิวัติอุตสาหกรรมการผลิตจรวดในอนาคต
เมื่อวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2568 เอริค ชมิดท์ (Eric Schmidt) ได้แจ้งต่อพนักงานของรีแลทิวิตี้ สเปซ (Relativity Space) ถึงการเข้าถือหุ้นควบคุมในบริษัทซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในโครงสร้างการบริหารของบริษัท โดยเอริค ชมิดท์ (Eric Schmidt) จะเข้ามาทำหน้าที่แทนทิม เอลลิส (Tim Ellis) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ซึ่งปัจจุบันจะยังคงอยู่ในฐานะกรรมการบริษัท ตามรายงานจากสำนักข่าว New York Times
การเข้ารับตำแหน่งนี้ของเอริค ชมิดท์ (Eric Schmidt) เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญของบริษัท รีแลทิวิตี้ สเปซ (Relativity Space) และวงการเทคโนโลยีอวกาศ เพราะบริษัทกำลังเตรียมเปิดตัวจรวด Terran R ในปี 2026 เพื่อเป้าหมายที่จะแข่งขันกับจรวด Falcon 9 และ Falcon Heavy ของบริษัท SpaceX ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญในตลาดขนส่งอวกาศ
อย่างไรก็ตามการเข้ารับตำแหน่งของเอริค ชมิดท์ (Eric Schmidt) มีเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากเขาต้องแก้ปัญหาด้านชื่อเสียงและการระดมทุนให้กับบริษัท เพราะภารกิจก่อนหน้านี้ของบริษัทรีแลทิวิตี้ สเปซ (Relativity Space) ในการส่งจรวด Terran 1 ขึ้นสู่วงโคจร ไม่ประสบความสำเร็จ และต่อมาได้ประกาศว่าจะยกเลิกโครงการ Terran 1 เพื่อมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงการ Terran R จนทำให้เกิด ปัญหาด้านการเงินและการระดมทุนในช่วงต้นปี 2024 ตามรายงานจากสำนักข่าว Bloomberg
แต่ทั้งนี้ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของเอริค ชมิดท์ (Eric Schmidt) รวมถึงเครือข่ายที่กว้างขวางของเขา อาจสามารถช่วยเหลือ และยกระดับองค์กรในด้านการระดมทุน การพัฒนาเทคโนโลยี และการสร้างความสัมพันธ์กับหน่วยงานภาครัฐได้ ตามรายงานของสำนักข่าว Techcrunch
ปัจจุบันตลาดอุตสาหกรรมอวกาศกำลังมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยมีบริษัทชั้นนำ เช่น SpaceX, Rocket Lab และ Blue Origin ที่เป็นคู่แข่งสำคัญของบริษัท รีแลทิวิตี้ สเปซ (Relativity Space)
การนั่งแท่นผู้นำบริษัท รีแลทิวิตี้ สเปซ (Relativity Space) ของเอริค ชมิดท์ (Eric Schmidt) อาจเป็นตัวช่วยชุบชีวิตให้กับ Relativity Space ให้สามารถแข่งขันในตลาดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างชื่อเสียงในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีอวกาศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง