ดูเหมือนว่าในช่วงนี้หลายคนต้องทำงานอยู่ที่บ้าน แถมยังต้องเผชิญกับอากาศที่ร้อนสุดๆ และแน่นอนว่าคงเปิดแอร์ทำงานกันทั้งวันใช่ไหมคะ? ชิลไปไหนเลยรวบรวมวิธีที่จะช่วยให้เพื่อนๆ ประหยัดค่าไฟจากการเปิดแอร์มาฝากค่ะ คราวนี้ก็จะได้เปิดแอร์ทำงานกันแบบเย็นฉ่ำได้ทั้งวัน ไม่ต้องกังวลว่าค่าไฟจะพุ่งกระฉูด จะมีวิธีอะไรบ้างตามไปดูเลยค่า
- เช็คว่าขนาดแอร์เหมาะสมกับตัวห้องไหม?
ขนาดของแอร์ BTU = พื้นที่ห้อง(ตร.ม.) x 800 คิดได้กี่ BTU ก็ห้ามซื้อต่ำกว่านี้เดี๋ยวไม่เย็นนะ แต่ถ้าห้องรับแดดทั้งวันก็คูณ 1,000 ไปเลย! เช่น ห้องทำงานขนาด 3x4 เมตร = 12 ตร.ม. ถ้าอยู่ติดผนังรับแดดเช่นทิศตะวันตก ก็คูณ 1,000 เท่ากับว่าเราควรซื้อแอร์ขนาด 12,000 BTU ขึ้นไปค่ะ ถ้าแอร์ไม่เหมาะสมกับขนาดห้องอาจช่วยได้ด้วยการเปิดพัดลม
- เปิดพัดลมช่วย
อุณหภูมิที่เราจะอยู่สบายที่สุดก็คืออุณหภูมิแบบเมดิเตอร์เรเนียน คือ ราว 24 - 26 องศาเซลเซียส โดยการตั้งอุณหภูมิแอร์ไว้ที่ 25 องศา อาจไม่ใช่อุณหภูมิที่ประหยัดไฟที่สุด แต่เป็นเพียงอุณหภูมิที่เรากำลังเย็นพอดีและแอร์ก็กินไฟไม่มากจนเกินไป ซึ่งจริงๆ แล้วเราอาจปรับให้เป็น 27-28 องศา แล้วเปิดพัดลมช่วยก็จะประหยัดกว่า
* หมายเหตุ แอร์บ้านปกติจะใช้อยู่ที่ 9000 - 12000 BTU ซึ่งจะใช้กำลังไฟประมาณ 750 - 1,200 วัตต์ พัดลมจะใช้กำลังไฟอยู่ที่ 50 วัตต์ เท่ากับว่า เปิดพัดลม 15 ตัวถึงจะเท่าเปิดแอร์ตัวเดียว
- เปิดพัดลมดูดอากาศร้อนออกไปก่อนเปิดแอร์
อากาศร้อนจะลอยอยู่ด้านบนของห้อง ถ้าเรามีพัดลมดูดอากาศก็เปิดให้ดูดอากาศร้อนออกไปก่อนแล้วค่อยเปิดแอร์จะช่วยประหยัดไฟ หรือก่อนเปิดแอร์ประมาณ 15 นาที ควรเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศบริสุทธิ์จากข้างนอกเข้าไปแทนที่อากาศภายในห้อง เป็นการช่วยระบายความร้อนที่อาจสะสมอยู่ในห้อง แถมยังช่วยยังช่วยลดกลิ่นอับต่างๆ ได้ด้วยค่ะ
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความร้อน
การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความร้อนภายในห้องทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรีดผ้า,ทำอาหารด้วยกระทะไฟฟ้า, หม้อต้มน้ำร้อน หรือแม้กระทั่งการยกอาหารร้อนๆ เข้าไปทานในห้อง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้แอร์ทำงานหนัก ถ้าหลีกเลี่ยงได้จะเป็นการช่วยให้แอร์ทำงานหนักลดลงได้มากเลยค่ะ
- หลีกเลี่ยงการนำความชื้นเข้าห้อง
ปกติแล้วแอร์จะใช้พลังงานในการทำความเย็นอยู่ที่ 30% ส่วนอีก 70% เป็นพลังงานที่ใช้กำจัดความชื้นเพื่อทำให้สภาพอากาศภายในห้องแห้ง เราจึงควรหลีกเลี่ยงการนำสิ่งของที่ก่อให้เกิดความชื้นเข้ามาในห้อง เช่น ต้นไม้หลายต้นๆ (แต่ถ้าอยากมีต้นไม้ไว้ในห้อง อาจจะเลือกเป็นต้นไม้ฟอกอากาศเหลือในห้องสัก 1-2 ต้นก็ได้นะ) รวมไปถึงการตากผ้า เช่น ผ้าเช็ดตัว!
- ติดฟิล์มกันความร้อน
ติดฟิล์มกันความร้อน แบบใสๆ ก็มี แอดเคยซื้อที่โฮมโปรเมตรละ 150-450 บาทแล้วแต่ลาย แต่กันความร้อนได้ดีจริงๆ หรืออย่างน้อยติดม่านก็ได้เพราะม่านจะช่วยลดการกระจายรังสีความร้อนจากแสงพระอาทิตย์ใม่ให้เข้ามาในห้องมากเกินไป และยังชวยกำจัดอุณภูมิความร้อนระหว่างวันได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ รับรองว่าเป็นการช่วยประหยัดไฟได้ดีสุดๆ
- ล้างแอร์ทุก 6 เดือน
เมื่อเปิดแอร์ทุกวัน ฝุ่นจะเข้าไปสะสมทั้งในพัดลมและตัวคอยล์แอร์ ดังนั้นควรล้างแอร์ 2 ครั้งต่อปีจะช่วยลดค่าไฟได้ราว 10% เลยนะ หรือถ้าแอร์อายุเกิน 10 ปี แนะนำให้ซื้อใหม่ไปเลย เอาที่มี Inverter ซึ่งจะสามารถคำนวณอุณหภูมิได้แม่นยำกว่าแอร์เก่าเลยค่ะ
- ใครอยากลองคำนวณค่าไฟฟ้าลองเข้าไปทำที่ลิ้งได้เลยค่ะ
คำนวนค่าไฟ https://www.mea.or.th/aboutelectric/116/280/form/11
เรียบเรียงจาก
https://www.daikin.com.au/articles/tips/top-5-tips-reduce-your-air-conditioning-bill-summer
https://seekster.co/blog/how-to-save-bill-for-air-conditioner/
https://sites.google.com/site/airconditioner55/extra-credit/kar-khanwn-btu
https://www.baanlaesuan.com/145949/diy/easy-tips/save-money-on-air-conditioning
บทความแนะนำเพิ่มเติม
วิธีลงทะเบียนว่างงาน : เปิดวิธีลงทะเบียนใช้สิทธิ “กรณีว่างงาน” รับเงินชดเชยเยียวยาพิษโควิด-19
พักชำระหนี้ : รวมมาตรการพักชำระหนี้
วิธีเก็บอาหารได้นานขึ้น : วิธีถนอมอาหารให้อยู่ได้นานขึ้นในช่วงกักตัว!
wisoot การไฟฟ้าอย่าแกล้งลืมสิ ราคาน้ำมันลดลงไปตั้งเยอะแล้วนะ ค่าไฟลดบ้าง
28 มี.ค. 2563 เวลา 14.11 น.
Joo ลดค่าไฟเยอะๆ สิคะ 50% ไปเลย จะต้องอยู่บ้านนานแค่ไหนก็ไม่รู้ ไม่ใช่บอกว่าจ่ายค่าไฟช้าได้ หรือเอาค่ารับประกันไฟฟ้าคืนได้
28 มี.ค. 2563 เวลา 14.28 น.
..One Life To Live.. น้ำมันโลกลด..ค่าไฟต้องลด..!!
28 มี.ค. 2563 เวลา 15.19 น.
BPS แล้วมีตู้เยนอยุ่ในห้องด้วย จะทำให้เปลืองไฟขึ้นมั้ยอ่ะ
28 มี.ค. 2563 เวลา 15.09 น.
ละอย่าลืมปิดแอร์ทุกครั้งหลังออกจากห้องด้วยละ
28 มี.ค. 2563 เวลา 14.51 น.
ดูทั้งหมด